ปักหมุดเลือกจัดงานแต่งงานที่บ้าน
โบว์ตั้งใจจะใช้สถานที่จัดงานหมั้นเป็นที่โรงงาน บริษัท โชคนำชัย ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นของที่บ้านของเราเองค่ะ นอกจากจะแปลกตาแล้ว ที่นี่ยังมีพื้นที่ที่ได้ฟีลธรรมชาติ เข้ากับคอนเซ็ปต์แบบป่าๆ ที่เราอยากได้ โดยงานที่เราจัดขึ้นจะเป็นพิธีไทยจีน มีการยกน้ำชากันเล็กน้อย เฉดสีจะออกแนวขาวเขียวเทา ซึ่งแม็ตช์กันได้พอดีเป๊ะเลย
ไกด์ทางให้แขกด้วย Flower Line สุดเก๋
ในเรื่องการจัดสรรพื้นที่ เนื่องจากมุมจัดงานส่วนใหญ่ของเราเป็นหญ้า พอมีการกรุยทางไว้ให้บางส่วน เราก็ยังกังวลว่าแขกจะเห็นเส้นทางได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ เลยจัดการโรยดอกกุหลาบสีขาวเล็กๆ ไว้ขนาบข้างทางเดิน เพื่อนำไปสู่ส่วนจัดพิธีได้ชัดเจน และสะดวกขึ้น
ส่วนไฮไลท์ที่เป็นม้า ที่เราใช้ประดับตกแต่ง โบว์เป็นคนสั่งทำขึ้นมาเองเป็นพิเศษ สำหรับงานหมั้นครั้งนี้โดยเฉพาะเลยค่ะ โบว์อยากให้มันดูมี Movement เคลื่อนไหวได้ ให้สมกับความเป็นป่า ดังนั้นสัตว์ชนิดนี้จึงน่าจะตอบโจทย์ที่สุด แล้วยิ่งโชคดีที่บริษัทของบ้านเรา ทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตชิ้นส่วนรถยนต์อยู่แล้วด้วย เพราะฉะนั้นเราจึงมีโฟมชนิดที่สามารถผลิตของแนวนี้ออกมาได้ไม่ยาก แค่ให้คนวาดแบบขึ้นมา แล้วโบว์ก็นำไปสแกน และจึงขยายใหญ่อีกที หลังจากนั้นจึงใช้โปรแกรมกัดโฟม ค่อยๆ ทำ จนได้ออกมาเป็นแบบและทรงที่ต้องการ แต่ในส่วนนี้โบว์บอกตรงๆ ว่า มันยังเป็นอะไรที่ใหม่มากในเมืองไทย เพราะบริษัทส่วนใหญ่จะยังไม่มีโปรแกรมกัดโฟมแบบนี้กันค่ะ ถ้าเป็นคนทั่วไปทำ อาจจะราคาสูงกว่านี้อีกหลายเท่าตัว เพราะต้องทำมือกันตัวต่อตัว ส่วนเรื่องจำนวนเรามองไว้ให้เป็น 8 ตัวพอดีค่ะ เพราะคนจีนเขาเชื่อว่าเลขนี้จะสื่อถึงความสำเร็จ การค้าที่เจริญรุ่งเรือง
ช่วงก่อนที่จะไปถึงบริเวณจัดงานจริง ตรงระหว่างทางด้านซ้ายมือ จะเห็นเป็นจุดรับตัวเจ้าสาวด้วยค่ะ คือคุณพ่อจะมาส่งตัวเจ้าสาวที่จุดนี้ แล้วเจ้าบ่าวก็จะมารับตัวเจ้าสาวที่จุดนี้เช่นกัน ส่วนประตูเงินประตูทอง เราก็ใช้เป็นใบไม้เขียวๆ จะได้เข้ากันกับต้นไม้ที่โรยตัวลงมา และได้ลุคโดยรวมที่ไม่หวานมากจนเกินไป
เบื้องหลังด่านหินๆ!
ซีนที่โบว์ชอบมาก คือช่วงที่เจ้าบ่าวเขาต้องผ่านประตูแต่ละด่านมาเนี่ยแหละค่ะ มีทั้งร้องเพลง วิดพื้น ปั่นจิ้งหรีด ดื่มเหล้าเป็นเหยือก แต่โชคดีคือ ทางฝั่งเพื่อนโบว์เขามาถามก่อนว่า ถ้าให้ดื่มโอเคไหม เพราะจริงๆ เจ้าบ่าวเขาเป็นคนไม่ดื่ม แต่เราก็บอกไปเลยว่าเจ้าบ่าวเขาจบ ภปร. มา เพราะงั้นทีมเขาดื่มกันเก่งมาก ไปๆ มาๆ จากตอนแรกที่จะให้ดื่มเหยือกเดียวสิบคน เลยเปลี่ยนเป็นคนละเหยือกไปเลย เพื่อความสนุกสุดใจ หรืออย่างซิตอัพนี่ก็เหมือนกัน ตอนแรกเพื่อนๆ กะจะให้แค่ 50 ทีค่ะ แต่โบว์ก็บิ้วด์ไปเลยว่า เขาซิทกันวันละ 200!! เพิ่มเลยๆ จนสุดท้ายมาคำนวณกันแล้ว เราใช้เวลากับด่านเหล่านี้ไปเกือบชั่วโมง หมดไปเกือบ 300 ซองเลยทีเดียว (หัวเราะ)
เวทีเปิดโล่ง รับลมธรรมชาติ
สำหรับเซ็ตติ้งในส่วนพิธีการนั้น เราใช้บริเวณลานเปิดโล่ง และจัดเก้าอี้แขกให้เป็นครึ่งวงกลม หันหน้าเข้าหาเวทีทั้งหมดค่ะ วิธีนี้นอกจากจะได้ภาพสวยงามแล้ว แขกทุกคนยังจะได้เห็น และได้มีส่วนร่วมในงานจริงๆ
ส่วนเรื่องดีเทล ตรงโลโก้บนเวที เราใช้สัญลักษณ์อินฟินิตี้ ที่มีชื่อบ่าวสาวประกอบอยู่ ซึ่งอีกหนึ่งความหมายของมันคือ ใส่ได้ทั้งชื่อบ่าวสาว และยังมีรูปลักษณ์ที่คล้ายกับโบว์ด้วยค่ะ
บริเวณอื่นๆ ของเวที เราตกแต่งโดยใช้ผ้าโปร่ง ซึ่งส่วนนี้โบว์ประทับใจทางทีมออแกไนซ์มาก เพราะเขาทุ่มเทตั้งใจที่จะใส่รายละเอียดลงไปสุดๆ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า มีการผูกติดดอกไม้หลายๆ ดอกไว้กับตัวผ้า พอมองจากระยะไกล ก็จะเห็นเหมือนกับว่าดอกไม้นั้นลอยอยู่บนผ้าเลยค่ะ ส่วนฉากหลังนี่เขาก็ตั้งใจอีกเหมือนกัน เป็นการจัดเซ็ตติ้งขึ้นมา แล้วปักดอกไม้เข้ากับเส้นโครงทีละเส้นเลย เพื่อให้เวลาลมพัดมาแล้วมันพลิ้วไหวไปตามลมจริงๆ
อีกเรื่องที่เราให้ความสำคัญมาก คือของรับไหว้ค่ะ แต่จะแตกต่างจากคนอื่นหน่อย ตรงที่ของรับไหว้เราอยากจะเปลี่ยนแนวจากผ้าขนหนูกับหมอนมาใช้เป็นอย่างอื่น เลยเลือกใช้เป็น Bubblegum machine ที่โบว์สั่งมาจากอเมริกา นำเข้ามาเกือบ 400 อันสำหรับผู้ใหญ่ในงานโดยเฉพาะ ส่วนลูกๆ ข้างในเราก็เปลี่ยนมาใช้ M&M แทน เพราะเราคิดมาแล้วว่า คนที่ขึ้นมารับไหว้เราแต่ละคน เขาอยู่ในวัยที่มีหลานๆ กันแล้วล่ะ ก็น่าจะได้เอาอันนี้ไปใช้เล่นกับลูกหลาน แถมยังมีความหมายที่ดี คือเหมือนกับการอดออม ค่อยๆ กดกินไปเรื่อยๆ ค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
วันงานปล่อยใจสบายๆ : แม้แต่กับเรื่องการเตรียมงานก็เหมือนกันค่ะ แค่เราบอกสิ่งที่เราต้องการให้กับมืออาชีพ แล้วให้เขาได้ลงมือทำเต็มที่ไปเลย น่าจะได้ผลงานออกมาดีกว่า เพราะเขาเองก็มีประสบการณ์มากกว่าเราแน่ๆ เราแค่อธิบายแล้วตบทุกอย่างให้เข้ากรอบก็พอ วันงานจริงก็ไม่ต้องเครียดมาก อะไรปล่อยได้ก็ปล่อย อย่างวันงานหมั้นโบว์ก็รู้สึกได้ว่า ตัวเองเครียดเกินไปเหมือนกัน กะว่าวันแต่งจะปล่อยไปเลย จะได้มีความสุขเต็มที่จริงๆ