Photo : KoroStudio / Brilliantday
ใครที่ยังนึกไม่ออกว่าตัวเองเหมาะกับงานแต่งงานแบบไหน มาลองดูกันดีกว่าค่ะ ว่าการเลือกเวลาจัดเลี้ยงในแต่ละช่วง มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไรบ้าง จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และได้รูปแบบงานแต่งงานที่เหมาะกับตัวเองจริงๆ ด้วย!
งานหมั้นเช้าเลี้ยงเที่ยง
ข้อดี เป็นรูปแบบงานที่แขกผู้ใหญ่ชอบมากเป็นพิเศษค่ะ เพราะได้ดูช่วงพิธีการแบบเต็มๆ ครบสูตร ทั้งขบวนหมั้น มีขั้นตอนตั้งแต่ สวมแหวนแต่งงาน ยกน้ำชา ไปจนถึงหลั่งน้ำสังข์ให้ลูกหลาน (ทุกช็อตนี่ รุ่นใหญ่เขาจะฟินไปตามๆ กันหมด) แถมเรายังมีโอกาสได้ซองหนักๆ เพิ่มขึ้นอีก จัดเป็นอีกหนึ่งทิปส์ (ที่แม้จะไม่ได้หวังผลด้านการเงิน) แต่ก็จริงแท้แน่นอนแบบคาดหวังได้เลย!
อีกหนึ่งไฮไลท์ของการจัดงานหมั้นเช้าแล้วต่อด้วยงานเลี้ยงเที่ยง คือประหยัดเวลาค่ะ ทั้งสะดวกรวดเร็ว และไม่เหนื่อยมาก จัดงานเลี้ยงเสร็จช่วงเที่ยง ตกบ่ายก็ได้พักกันแล้ว หรือตอนเย็นจะมีปาร์ตี้สนุกๆ ต่อกับเพื่อนๆ ก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจผู้ใหญ่ งานแต่งงานในรูปแบบนี้ จึงเหมาะสำหรับบ่าวสาวที่มีแขกผู้ใหญ่เยอะ และต้องการบรรยากาศแบบสบายๆ เป็นกันเอง อีกทั้งยังช่วยเซฟงบไปได้อีกมาก ทั้งค่าช่างภาพ ค่าช่างแต่งหน้า (ที่น่าจะคิดแค่รอบครึ่ง) และ Minimum Spending ของงานจัดเลี้ยงรูปแบบนี้ ตามโรงแรมทั่วไปก็คิดค่าใช้จ่ายน้อยกว่าแบบงานหมั้นเช้าเลี้ยงเย็นด้วยค่ะ
ข้อเสีย บ่าวสาวอาจจะรู้สึกว่าจัดเลี้ยงแบบนี้ ยังไงก็แกรนด์สู้จัดเลี้ยงตอนเย็นไม่ได้ ที่สำคัญคือ อาจจะไม่ค่อยมีเวลาเปลี่ยนชุด เนื่องจากพอเสร็จพิธี ก็ต้องรีบทำตามกำหนดฤกษ์ให้ทัน มีพิธีแต่งงานอื่นๆ ที่จ่อคิวให้ต้องทำอีกมากมาย ส่งผลให้ไม่มีเวลาเก็บภาพบรรยากาศ ไม่ค่อยได้ออกไปถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนฝูงหรือญาติผู้ใหญ่ และหากอยากจะจัดเลี้ยง After Party ก็จะต้องเสียค่าอาหารและเครื่องดื่มแยกต่างหากอีกครั้ง เหมือนเป็นการเสียเงินซ้ำซ้อนค่ะ
งานหมั้นเช้าเลี้ยงเย็น
ข้อดี เหมาะสำหรับบ่าวสาวที่มีแขกจำนวนมาก เพราะมีเวลาในการยืนรับแขกได้อย่างเต็มที่ แถมช่วงที่มีการเปิดพรีเซนเทชั่นแต่งงาน ก็สามารถนำวิดีโอจากงานแต่งตอนเช้ามาฉายได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาทำพรีเซนเทชั่นแต่งงานแยกอีก
ในส่วนของ After Party ก็จะทำให้เพื่อนๆ รู้สึกสนุก และมีความต่อเนื่องมากขึ้น เพราะกินดื่มกันมาเต็มที่ตั้งแต่ในช่วงงานเลี้ยงอยู่แล้ว ทั้งยังมีเวลาโพสท่าถ่ายรูปชุดงานเช้าและชุดงานเย็น และก็สามารถแวะไปถ่ายตามบริเวณต่างๆ ในงานได้อย่างทั่วถึง ที่สำคัญเลยคือ จัดให้แขกวัยรุ่น โดยเฉพาะเพื่อนๆ ของบ่าวสาว ก็จะยิ่งชอบ เพราะไม่ต้องตื่นเช้า มีเวลาเตรียมตัว แต่งสวยมาร่วมงานได้แบบสบายๆ เลยค่ะ
ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะถูกคิดอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะถือว่าจัด 2 รอบ และหากงานเริ่มช้าหรือรถติด แขกผู้ใหญ่อาจมีสิทธิแยกตัวกลับก่อน นอกจากนี้หากเป็นแขกที่สูงวัยมากๆ อาจเดินทางไม่สะดวก ทั้งลำบากแล้วก็เหนื่อย แต่ส่วนที่เหนื่อยที่สุดก็ต้องยกให้บ่าวสาวนี่แหละค่ะ เพราะก่อนวันเริ่มงานจริง นอกจากจะนอนไม่ค่อยหลับ แถมยังต้องตื่นมาทำพิธีหมั้นตั้งแต่เช้า และยืนลากยาวตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงมืดอีก ระหว่างวันก็ยังไม่ค่อยได้ทานอะไรเท่าไหร่ด้วย (บ่าวสาวที่ได้ทานอาหารช่วงงานเลี้ยงนี่แทบจะนับคนได้เลย) เรียกว่าพอขึ้นวันใหม่ ก็ต้องพักร่างกันยาวเลยทีเดียว เพราะแทบจะหมดแรงกันยกทีม
แต่ไม่ว่าจะเลือกช่วงเวลาในการจัดเลี้ยงกันแบบไหน ยังไง Sabuywedding ก็ขอเชียร์ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวทุกคนมีความสุขในระหว่างการเตรียมงานแต่ง (และเลือกรูปแบบงาน) ไว้ก่อนค่ะ
เริ่มต้นงานแต่งงานของคุณด้วยความยินดีตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่ายังไง ก็รับรองได้เลยว่าแฮปปี้กันทุกฝ่ายแน่นอน!!