งานแต่งนี้วิวดี เพราะจัดบนเรือ @Wonderful Pearl Cruise
มุกจัดงานฉลองบนเรือ Wonderful Pearl Cruise (วันเดอร์ฟูล เพิร์ล) เป็นปาร์ตี้แบบไม่เน้นพิธีการ เพราะรู้สึกว่าเชิญแขกผู้ใหญ่มาครบแล้วในงานหมั้นค่ะ งานนี้จะเน้นเพื่อนๆ หน่อย บวกกับเราทั้งคู่มีเพื่อนต่างชาติมาร่วมงานเยอะด้วย คุณพ่อท่านเลยเสนอว่าจัดบนเรือไปเลย จะได้ชิลล์ๆ ดูวิวกันเพลินๆ
ด้วยหัวใจของคนรักเสียงเพลง
การจัดงานบนเรือ จะมีรายละเอียดต่างจากการจัดในโรงแรมค่อนข้างมาก อย่างของเราตั้งโต๊ะรีเซปชั่นไว้ที่ท่าเรือริเวอร์ซิตี้ ซึ่งเป็นห้างกึ่งท่าเรือ โดยเฉพาะพวกของตกแต่งโต๊ะ เช่น การ์ดเซ็นอวยพร ขวดโหล กล่องไม้เพ้นท์ลายเราคิดเอง ทำเองหมด
งานนี้อาจจะแปลกตรงที่ ไม่มีแบ็คดรอปใหญ่โตอลังการเหมือนงานอื่นๆ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนรักเสียงเพลงทั้งคู่ จึงเลือกใช้ป้ายโลโก้งานรูปแผ่นเสียงไซส์มินิแทน ซึ่งบ่าวสาวสามารถเดินถือถ่ายรูปกับแขกได้ทั่วทุกมุม
ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าป้ายแผ่นเสียงที่ว่านี้มี 2 สี คือสีพีชและสีน้ำเงินเข้ม โดยสีน้ำเงินเข้มมาจากสีของยีนส์ที่เจ้าบ่าวชอบ ในส่วนของของชำร่วยก็ยังคงคอนเซ็ปต์ ด้วยถุงผ้าที่มีผ้ายีนส์เป็นส่วนประกอบจาก Symboly ซึ่งเป็นธุรกิจของที่บ้านเจ้าบ่าว โดยเราสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ
หลังจากนั้นบ่าวสาวก็มาร่วมแรง ติดป้ายแท็คกันเองทุกชิ้น เพราะอยากให้ทุกขั้นตอนเกิดจากเราสองคนจริงๆ แต่ความพีคของการจัดงานแบบนี้คือ พอจะขึ้นเรือ เราต้องเก็บโต๊ะ เก็บกล่องเงินขึ้นเรือไปกับเราด้วย เพราะบริเวณท่าเรือนั้นจะมีแขกมารอขึ้นเรือลำอื่นๆ ต่อจากเรือของเราค่ะ
สำหรับเรื่องความจุ เรือจะรับแขกได้ประมาณ 500 คนค่ะ ซึ่งเราก็เชิญมาเต็มแม็กซ์ครบ 500 เลย แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ชั้นล่างและชั้นสองเป็นส่วนของห้องแอร์ เราจัดสรรพื้นที่ส่วนนี้ไว้ให้แขกผู้ใหญ่ ตรงส่วนนี้จะมีเวทีใหญ่อยู่ตรงโถงเรือ มีบันไดเลื่อน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ส่วนชั้นดาดฟ้าเป็นแบบเปิดโล่ง มีบ่อน้ำพุเพิ่มความเย็นสบาย เหมาะกับเพื่อนบ่าวสาวนั่งกินลมชมวิวกัน
บรรยากาศตรงใจ แขกไทยหรือต่างชาติก็ชอบ
พูดถึงวิวเวลาเรือขับผ่าน จะเห็นตั้งแต่สะพานพุทธ โบสถ์ซางตาครู้ส วัดอรุณ วัดพระแก้ว ท่ามหาราช เก็บครบหมดทุกสถานที่พีคๆ ริมเจ้าพระยาเลยค่ะ
แล้วเรือก็จะแล่นไปเรื่อยๆ จนถึงสะพานพระราม 8 แล้ววกกลับทางเดิม จนถึงเอเชียทีค แล้วกลับมาที่จุดเริ่มต้นท่าเรือริเวอร์ซิตี้ ถือเป็นรูทพิเศษสำหรับงานแต่งงาน ใช้เวลา 3 ชั่วโมง (ปกติจะใช้เวลาสั้นกว่านี้) แต่ทุกคนต้องมาให้ทันขึ้นเรือ เพราะเมื่อถึงเวลาแล้ว เรือต้องออกจากท่า แล้วก็หนีกลับบ้านก่อนไม่ได้ด้วย เพราะเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว อยู่สนุกด้วยกันจนจบนะ (หัวเราะ)
งานนี้เราได้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มาช่วย มุกเลยไม่มีโอกาสได้ใช้แพลนเนอร์เลย เราแพลนเอง ทำเองหมด เมื่อพูดถึงตัวเรือก็แทบไม่ต้องตกแต่งอะไรเยอะ เพราะใหม่และสวยมากอยู่แล้ว มีแค่ดอกไม้นิดหน่อยซึ่งทีมผู้ดูแลเรือจัดให้ และป้ายไฟตัวอักษรย่อชื่อบ่าวสาว JM บนดาดฟ้าเท่านั้นที่เราเพิ่มเข้าไป โดยเรายังคงคอนเซ็ปต์ที่ว่าทุกอย่างที่เลือกมาต้องเป็นของที่เราชอบ และสามารถนำไปใช้ต่อได้อีกที
ชุดเจ้าสาว มุกอยากใส่แบบเรียบ เก๋ สบาย และที่สำคัญต้องเรียบร้อย มีแขน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหา เพราะชุดตามร้านส่วนใหญ่จะเป็นเดรสยาว ปักเลื่อม ปักคริสตัลระยิบระยับ ซึ่งไม่โดนใจ พยายามเลือกเท่าไหร่ก็หาได้ไม่ตรงตามโจทย์ 100% สุดท้ายเลยลงตัวที่ชุดนี้ ชอบแล้วถึงแม้ว่าจะไม่มีแขนก็เถอะ ยิ่งพอมาลองใส่กับเวลซึ่งยาวลงมาปิดไหล่พอดีแล้วก็โอเคมากเลย
ส่วนเจ้าบ่าวเป็นสายชิลล์ ใส่กางเกงยีนส์ตัวโปรดแบรนด์ Edwin Japan มาเลย รองเท้าก็คู่โปรดเหมือนกัน งานออกมาสบายใจ เพราะเราไม่ต้องฝืนตัวเอง
งานสนุก แฝงมุขไว้ทุกอย่าง
เรื่องอาหารงานนี้เราสบายมาก เพราะแคเทอริ่งเป็นของทางเรือ อร่อยมากมีทั้งอาหารนานาชาติและอาหารไทย รสชาติอร่อยกว่าร้านอาหารหลายๆ ร้าน เครื่องดื่มก็มีซอฟท์ดริ้งค์บริการ
พิธีการแทบไม่มีเลย พิธีกรสายฮาทั้งสามคนเป็นเพื่อนสนิทเจ้าสาว เรียกแขกทั้งไทยและต่างชาติให้มารวมตัวกันที่เวทีใหญ่ชั้นหนึ่ง มีสัมภาษณ์อย่างสนุกสนานเป็นกันเอง แล้วก็เปิดพรีเซนเทชั่นนิดหน่อย หลังจากนั้นจึงตัดเค้ก ซึ่งตัวเค้กนี้เป็นเค้กรูปกลอง เราเลยใช้กลองจริงๆ ของเจ้าบ่าวเป็นฐานเค้ก เพราะเจ้าบ่าวเป็นมือกลองวงเมตัล แต่คนส่วนใหญ่ดูไม่ออกเพราะเค้กทำมาจริงจัง เหมือนจริงไปหมดเลย ส่วนด้านบนก็มีป้ายชื่อวงดนตรีวงโปรดของบ่าวสาวประดับอยู่ด้วยค่ะ
ช่วงที่ทุกคนเซอร์ไพรส์ที่สุดน่าจะเป็นช่วงโยนช่อดอกไม้ เพราะมุกเป็นผู้หญิงที่ไม่ชอบดอกไม้ แต่ก็ยังอยากจะมีกิจกรรมนี้อยู่ จึงเปลี่ยนมาโยนหมอนแทน แต่ก็ไม่ใช่หมอนธรรมดา เพราะบ้านมุกอยู่บางบ่อ สมุทรปราการ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์โอท็อปประจำบ้านเกิดเป็นปลาสลิดแห้งรสดี งานนี้เราเลยใช้หมอนปลาสลิดแทน (หัวเราะ)
พอเสร็จงานจากเวทีใหญ่ชั้นล่าง เราก็ขึ้นไปบนดาดฟ้า โดยมีเพื่อนสนิทมาเปิดเพลงให้ เป็นเพลย์ลิสต์ที่เราและแขกชอบกันมาก เน้นแนวอินดี้ไทยฝรั่ง มากกว่าเพลงรักงานแต่งจ๋า เป็นช่วงเวลาที่ดีสุดๆ เราเห็นทุกคนมีความสุข จากที่เคยกังวลว่าดาดฟ้าไม่มีแอร์ ทุกคนจะร้อนรึเปล่า แต่ก็ไม่เลย ลมเย็น เพลงเพราะ วิวดี
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเจ้าบ่าวมากที่ช่วยซัพพอร์ตมุกในทุกๆ เรื่อง ทั้งแรงกาย แรงใจ ทุกอย่างเลยออกมาดีกว่าที่คาดไว้จริงๆ
แนะนำบ่าวสาว
เลือกแบบที่เราชอบ แต่ก็ไม่ขัดใจผู้ใหญ่ด้วย : เพราะงานแต่งงานจริงๆ มันไม่ใช่แค่งานของเราสองคนเท่านั้นค่ะ มันเป็นงานเพื่อพ่อแม่ด้วย ดีเทลอะไรที่พ่อแม่ไม่ได้กังวลใจ หรือใส่ใจมาก เราก็ค่อยใส่ความเป็นตัวเองลงไป พยายามเจอกันตรงกลาง ให้คิดถึงภาพรวมเสมอว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องจะมีความสุขกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
จัดงานอย่างสุขใจไปเลยดีกว่า : เพราะที่จริงแล้วการจัดงานเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ชีวิตคู่ต่อจากนี้ต่างหาก ที่เราจะต้องอยู่ด้วยกันไปตลอด บริหารจัดการให้ดี ถูกจุด ที่สำคัญอย่าทะเลาะกันเพราะเรื่องจัดงานนะคะ
ได้สิ่งที่ถูกใจที่สุด แถมยังประหยัดงบ : ถึงจะต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ก็ได้ของที่ตรงใจ ถูกใจกว่าแน่นอนค่ะ