รัสติกในโทนทองแชมเปญ @Renaissance Bangkok
เรื่องแรกที่เราคำนึงถึง นอกจากเรื่องสถานที่แต่งงาน ซึ่งสุดท้ายลงตัวที่ Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel (เรเนสซองซ์ กรุงเทพ ราชประสงค์) แล้ว อีกเรื่องก็คืองานนี้เจ้าสาวเราเป็นคนแพ้เกสรดอกไม้ค่ะ ดังนั้นในงานเราเลยจะใช้ดอกไม้กันน้อยมากๆ มีแค่ตรง Backdrop และซุ้มเค้กเท่านั้น เพราะโดยรวมจะเน้นไปที่ดวงไฟ และการใช้ใบไม้สีเขียวๆ ในแนวรัสติกมากกว่า ยิ่งพอบวกกับเจ้าบ่าวที่เขาชอบงานไม้ ชอบงานไฟอยู่แล้วด้วย ทีมแพลนเนอร์ก็เลยตีโจทย์ออกมาให้เป็นอย่างที่เห็นเลยค่ะ แล้วพอชูโรงเข้ากับสีทองแชมเปญอีกหน่อยเราก็จะได้ธีมรัสติกที่ถึงจะดูเรียบง่าย แต่ก็ยังมีอะไรออกมา
ในส่วนของ Backdrop พื้นหลังอาจจะดูเหมือนไม้จริงสุดๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นไอเดียของทีมแพลนเนอร์ ที่ใช้ลายปริ้นท์ที่ดูเหมือนไม้แปะลงไปแทนค่ะ ด้านล่างเราก็ตกแต่งด้วยกระเป๋า ซึ่งพอจับมาวางแนวนอนแล้ว ตัวหูกระเป๋ากับตัวล็อกกระเป๋า ก็จะกลายเป็นตากับปาก เหมือนรูปยิ้มพอดีเลย
ตรงอุโมงค์ทางเดินที่ตกแต่งด้วยไฟ เราก็จะมีห้อยลูกแก้วลงมา ด้านในจะใส่ดอกไม้ ทั้งลิลี่ กุหลาบขาว ไปจนถึงใบไม้แห้งเลยค่ะ ไอเดียนี้สาได้มาจากตอนที่ไปร้านอาหารแห่งหนึ่ง แล้วเขาตกแต่งในลักษณะเดียวกันนี้ พอเห็นแล้วชอบ ก็เลยถ่ายรูปเก็บกลับมาเป็น Ref ซะเลย
ของชำร่วยในงาน สาเลือกใช้เป็นถ้วยกาแฟค่ะ แพคเกจจิ้งด้านนอกก็จะเป็นแนวรัสติก ใช้กระดาษลูกฟูกเปลือยๆ ห่อไว้ แล้วมีป้ายแท็กที่ติดด้วยเชือกฟางสีน้ำตาลเก่าๆ จะได้เข้าธีม
มิตรภาพของพ่อแม่ที่พาให้มาพบกัน
โมเม้นท์ที่สาชอบที่สุดในงาน คือตอนที่คุณพ่อเจ้าสาว เดินพาเจ้าสาวเข้าไปพบกับเจ้าบ่าวค่ะ ซึ่งเจ้าบ่าวเองก็จะยืนอยู่ข้างๆ กับคุณแม่ของเขาด้วย และจริงๆ แล้วมันมีความหมายแฝงของมันเองค่ะ เพราะคุณพ่อคุณแม่ของบ่าวสาวเป็นเพื่อนกันมาก่อน แล้วท่านก็อยากให้ลูกๆ ได้ดองกัน ซึ่งวันนี้ก็เหมือนเป็นวันบรรลุชัย เพราะสุดท้ายลูกๆ ของท่านก็ได้แต่งงานกันจริงๆ (หัวเราะ)
ตรงเวทีเราใช้ผ้าดำปูพื้นหลังทั้งหมด แล้วปักหมุดเล็กๆ ด้วยดวงไฟให้เหมือนดาวค่ะ ตอนแรกเราอยากจะใช้ตัวอักษรชื่อบ่าวสาวที่ใส่ไฟปิงปองไว้ด้านในด้วย แต่ราคาต่อหนึ่งตัวสูงมาก ก็เลยเปลี่ยนไปใช้ไฟนีออนดัดเป็นชื่อบ่าวสาวแทน ใช้เสร็จก็สามารถนำไปตกแต่งบ้านต่อได้ด้วย พอจับมาแม็ตช์กับผ้าดำก็เลยยิ่งขับกัน เห็นได้เด่นชัดพอดี
ซุ้มเค้กของเราจะเน้นเป็นแบบจัดเซ็ตติ้งสองชั้นค่ะ ชั้นล่างสุดจะมีเทียนรายล้อม แล้วก็ตกแต่งด้วยแจกันดอกไม้ ถัดขึ้นมาอีกหน่อยจะเป็นโต๊ะผ้าที่โยงใบไม้แล้วถึงจะใช้วางเค้ก ในซีนนี้เราก็มีการโปรยคอนเฟตติและลูกเล่นสีๆ ลงมาด้วย เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามมากยิ่งขึ้น
ใช้พร็อพที่ชวนให้นึกถึงวันเก่าๆ
ช่วง After Party ทุกคนสนุกกันมาก เพราะเจ้าบ่าวเองก็ชอบปาร์ตี้ แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็คุ้นเคยกันดีหมด เลยไม่มีใครเขินใคร เข้ามาร่วมจอยกันได้จริงๆ ค่ะ แล้วเราก็มีเตรียมพร็อพแว่นตาเรืองแสงให้ด้วย ประยุกต์มาจากที่พันรอบข้อมือที่สมัยก่อนเขาฮิตๆ มีพวกแหวน พวกตัวยิ้มให้ได้ใช้กัน ส่วนชุด After สาก็ประยุกต์มาจากชุดหมั้นพิธีจีนอีกที มันจับแยกชิ้นออกมาได้เป็น 3 แบบ เลยกลายเป็นลุคแซ่บๆ สีจัดๆ แบบที่แค่ถ่ายออกมาก็รู้ได้เลยว่าเจ้าสาวอยู่ตรงไหนค่ะ (หัวเราะ)
แนะนำบ่าวสาว
รู้ก่อนจองก่อน : พอรู้ฤกษ์ปุ๊บ ต้องรีบจองทุกอย่างก่อนเลยค่ะ ไม่ว่าจะโรงแรม ช่างภาพ แพลนเนอร์ ช่างแต่งหน้า เราจะได้ใช้บริการที่และทีมที่อยากใช้จริงๆ พอหมดกังวลเรื่องการจองตัวแล้ว จะได้มีเวลาไปคิด ไปบริหารส่วนอื่นๆ ในงาน
เจ้าไหนใช่ก็เอาเลย : พอฟังคนอื่นมากๆ มันจะมีคำแนะนำติชมมาเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อนค่ะ แล้วทีนี้มันก็จะปิดจ็อบไม่ได้ เราเองก็จะเลือกไม่ได้ ให้ยึดที่บ่าวสาวโอเคที่สุด คล้องกันไปกับบัดเจทที่มี แค่นั้นคือโอเคแล้วจริงๆ ค่ะ
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
สถานที่แต่งงาน:
Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotelช่างภาพ วิดีโอ:
COFFEOTO