ธรรมชาติสวยสบาย ใกล้เรือนกระจก @Phothalai leisure park
งานของหยกจัดขึ้นที่ The Glasshouse ตรงสนามกอล์ฟ Phothalai leisure park (โพธาลัย เลเชอร์ ปาร์ค) ค่ะ เราจัดที่สถานที่แต่งงานตรงส่วนนี้เป็นคู่แรก เรียกได้ว่าประเดิมสถานที่ ซึ่งก็ตรงกับคอนเซ็ปต์ของเราที่อยากจัดงานเอ้าท์ดอร์พอดี ตัวอาคารเป็นเรือนกระจก มีความเขียวชอุ่มจากต้นไม้ใบหญ้าด้านนอก เห็นตามนี้แล้วก็ชอบ ตัดสินใจเลือกที่นี่เลย จองกันข้ามปี ไม่มีดูที่อื่นเพิ่มเติม
จุดเด่นของที่นี่ คือบรรยากาศที่ได้จะเหมือนกับเราจัดงานในสวน ได้ฟีลลิ่งธรรมชาติ ตัวอาคารออกแนวโบสถ์ฝรั่ง มีส่วนที่เป็นระฆังอยู่ด้านบน พื้นที่รอบๆ ก็ดูปลอดโปร่งสบายตา
หมั้นเช้าชุดไทย สถานที่สไตล์ฝรั่ง
ห้องที่หยกจัดงานจะรับแขกได้ประมาณ 300 คนค่ะ แต่ถ้าจุเต็มจำนวนอาจจะค่อนข้างแน่น แขกงานเช้าของเราประมาณ 100 คน ถือว่าสบายๆ กำลังดี
งานนี้หยกแพลนเอง เตรียมงานเองทั้งหมด ส่วนพิธีเช้าเราเริ่มตั้งแต่ 07.30 น. มีทำบุญพระและตักบาตรกันที่ด้านนอก แล้วก็นิมนต์ท่านเข้ามาฉันอาหารเช้า หลังจากนั้นเราก็กรวดน้ำ และมีพระท่านมาเจิมให้
ต่อด้วยพิธีแห่ขันหมาก ที่เจ้าบ่าวจะไปตั้งขบวนอยู่ด้านนอก ส่วนหยกไปนั่งรออยู่ที่ซุ้มผ้าในสวน ได้อารมณ์ฝรั่งแต่อยู่ในชุดไทย (หัวเราะ) ตอนกั้นประตู คุณเจ้าบ่าวของเราโดนหลายด่านมากเลย มีทั้งวิดพื้น บอกรักเจ้าสาว ร้องเพลง ประมาณว่ากว่าจะมาถึงด่านในๆ ก็ปาดเหงื่อกันไปเลยทีเดียว (เพราะเหนื่อยจริงอะไรจริง)
หลังจากที่เจ้าบ่าวเข้ามาถึงด้านในแล้ว ก็จะนำสินสอดมาวางตรงกลาง เถ้าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าวเจรจาสู่ขอเจ้าสาว มีรับตัว สวมแหวน ทานขนมบัวลอย แล้วก็ยกน้ำชาให้ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ต่อด้วยการมอบผ้าเช็ดตัวเป็นของรับไหว้ค่ะ
ช่วงสุดท้ายคือพิธีรดน้ำสังข์ โดยเราให้ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือที่สุดซึ่งคือพ่อแม่ มาสวมมงคลให้ ถัดจากนั้นก็มีถ่ายรูปรวม ซึ่งตรงเวทีด้านหลังเป็นกระจกพอดี เลยทำให้ถ่ายภาพออกมาได้แสงสวยงาม จบจากทั้งหมดนี้ก็เป็นอันเสร็จพิธีเช้าตอนประมาณ 11 โมง แล้วบ่าวสาวเราก็ไปเปลี่ยนชุดสำหรับงานฉลองกัน ซึ่งจุดนี้จะใช้เวลานิดนึง เพราะต้องนั่งรถกอล์ฟไปเปลี่ยนอีกที่เลย
สวยเกินใคร กับลุคร่วมสมัยในชุดหางปลา
ช่วงงานฉลอง เจ้าบ่าวของหยกใส่ทักซิโด้ ส่วนเจ้าสาวก็เต็มยศมาก (หัวเราะ) ที่จริงหยกอยากได้แนวเจ้าหญิง เอวเข้ารูป กระโปรงพองๆ หน่อยค่ะ แต่คิดได้ว่าถ้าถ่ายภาพครึ่งตัวอาจจะไม่สวย เพราะเห็นถึงแค่ช่วงเอวเท่านั้น ก็เลยเปลี่ยนไปเป็นแบบหางปลาแทน
ตกแต่งสดใสในโทนเหลือง
เรื่องธีมสีเราเน้นใช้สีขาวและโทนเหลืองทอง เพื่อขับภาพรวมงานให้ดูสดใสขึ้นมา แล้วด้วยความที่บ่าวสาวเกิดปีกระต่ายด้วยกันทั้งคู่ แล้วเราก็ชอบความน่ารักของมัน เลยเอามาใช้เป็นสัญลักษณ์ในงาน มีทั้งตรงโลโก้ แล้วก็โซนถ่ายรูปตรงแบ็คดรอป นอกจากนี้ด้านนอกเรายังมีซุ้มผ้าให้เดิน เปิดโอกาสให้แขกได้ถ่ายรูปสวยๆ กัน
ท่องโลกไป ใกล้ๆ เธอ
เรื่องการใส่ตัวตนและความชอบของเรา ยังรวมไปถึงการที่เราทั้งคู่เป็นคนชอบเที่ยวด้วยค่ะ เราจะไปกันทุกปี ในประเทศบ้าง ต่างประเทศบ้าง จากจุดนี้เราเลยนำกระเป๋าเดินทาง แผนที่โลก และรูปที่ไปเที่ยวมาแล้วมาใช้เป็นพร็อพ ให้คนมาใส่ข้อความถึงเจ้าบ่าวเจ้าสาวลงไปได้
ซึ่งเพื่อนๆ บางส่วนก็จะเขียนแซวกัน ประมาณว่าอยากให้หยกขนของไปเที่ยวให้น้อยลง เดี๋ยวอีกหน่อยเกิดมีลูก สามีจะเหนื่อยเกิน เพราะหยกเป็นคนเยอะๆ ส่วนเจ้าบ่าวเป็นคนสบายๆ ก็อยากให้บาลานซ์กัน มันจะได้พอดี (หัวเราะ)
ของชำร่วยเราอยากให้แขกใช้ได้จริง เลยเลือกเป็นแก้วน้ำ แล้วนำมาห่อด้วยผ้าสีเหลืองทอง ติดโลโก้ลงไปด้วยตัวเอง
สำหรับเรื่องการจัดเลี้ยงเราเลือกใช้เป็นโต๊ะกลม เพราะด้วยตัวสถานที่ไม่เหมาะกับการจัดโต๊ะตัวยู แขกอาจจะนั่งกันไม่พอ อาหารเลือกเป็นแบบไทย ถูกปากผู้ใหญ่ และมีซุ้มสี่ซุ้มไว้คอยทำอาหารสดใหม่ให้บริการ
บรรยากาศแสนอิ่มใจ จำลองมาใช้เหมือนในโบสถ์
ช่วงเปิดตัวเราทำเหมือนเดินเข้าโบสถ์เลยค่ะ คือให้เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาโปรยดอกไม้ให้ แต่จริงๆ หยกเองต้องถือดอกไม้เข้าไปในงานด้วย แต่จุดนั้นรีบมาก ตื่นเต้นมาก ลืมหมดเลยค่ะ (หัวเราะ)
โมเม้นท์ที่น่าประทับใจที่สุดช่วงนึงของงานก็น่าจะอยู่ที่ตอนนี้เลยค่ะ คือมีความสุขจริงๆ น้ำตาจะไหล ทุกคนยิ้มให้ อวยพรให้ระหว่างทาง
พอเข้างานมาแล้วบ่าวสาวก็จะพูดสปีชกันเล็กน้อย ต่อด้วยการเปิดพรีเซนเทชั่นที่เราไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นด้วยกัน ซึ่งตอนนั้นถือโอกาสถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี่ด้วยเลย ตอนแรกไปที่ฟุกุโอกะกันก่อน แล้วตะลอนเที่ยวทางใต้ของญี่ปุ่นเรื่อยๆ จนไล่ขึ้นมาเก็บภาพที่โตเกียว คาวาโกเอะ คามาคุระ โยโกฮาม่า นิกโก้ โชคดีนัดแนะกับพี่ที่รู้จักกัน ซึ่งถ่ายภาพเก่งมาก เลยได้เก็บภาพสวยๆ ที่นี่ อากาศหนาวมากชนิดที่เตรียมชุดเกาะอกไป บางช่วงหนาวมาก 5 องศา ไม่ไหว ถึงขั้นตอนหาเสื้อหนาวมาคลุมเลยค่ะ (หัวเราะ)
จบจากพรีเซนเทชั่นก็มีการเชิญประธานขึ้นมาพูด ดื่มฉลอง แล้วต่อด้วยการพูดความในใจของเพื่อนๆ ถัดจากนั้นจึงตัดเค้ก ซึ่งส่วนนี้เราอยากให้ดูเข้ากับสถานที่ ก็เลยมีการตกแต่งใบไม้ใบเขียวลงไป แล้วด้านบนสุดประดับด้วยท็อปเปอร์กระต่ายคู่อีกที
ท้ายสุดพิธีกรก็จะเชิญบ่าวสาวขึ้นไปบนชั้นสองของตัวอาคารค่ะ ตรงนั้นจะมีช่องระฆังอยู่ พอเพลงเริ่มเปิด เพื่อนๆ ก็เดินออกไป แล้วเราก็โยนดอกไม้ตรงนั้นกัน
งานนี้ที่หยกชอบมากที่สุดคือเรือนกระจกสำหรับถ่ายรูปช่วงพิธีต่างๆ ต้องขอขอบคุณพี่ใหม่ ทีมช่างภาพมากๆ ที่ช่วยเก็บภาพความทรงจำของเราได้เป็นอย่างดี บางส่วนของสถานที่ที่อาจจะยังไม่เสร็จเรียบร้อย ก็ได้เขามาช่วยเลือกมุม เลือกเก็บบรรยากาศให้
และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือคุณเจ้าบ่าวของหยก ที่ทุ่มเทในการดูแลสถานที่ด้วยตัวเอง ช่วยเร่งงานให้เสร็จทันเวลา คอยอยู่กำกับงานทั้งคืนจนแทบไม่ได้นอน เรียกว่างานผ่านมาได้ด้วยดี ต้องขอขอบคุณสามีจริงๆ
แนะนำบ่าวสาว
เผื่อใจเรื่องการจัดงาน จัดสรรเงินให้พอดี : การจัดงานไม่ใช่ว่าใช้งบสูง แล้วจะได้ตามที่ต้องการทั้งหมดเสมอไปค่ะ ให้เราจัดที่พอไหว พอเพียง ได้ตามที่เราต้องการ ไม่ต้องคาดหวังความเพอร์เฟ็กต์ (เพราะจะได้ไม่เฟล) แล้วเอาบัดเจทอีกส่วนไปเที่ยวฮันนีมูนจะมีความสุขทั้งสองส่วนมากกว่า
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วันงานยิ้มเข้าไว้ ทำใจให้มีความสุข : ไม่ต้องไปวอรี่กับปัญหาที่เกิดขึ้นในงานมากนักค่ะ ถึง ณ วินาทีนั้นแล้ว The Show must go on ให้มันเป็นไปค่ะ ยิ้มเข้าไว้แล้วทุกอย่างจะดีเอง เลือกช่างภาพให้ดี แล้วเขาจะทำให้งานและภาพออกมาโอเค