เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Sabuywedding ร่วมกับ VARAVELA GARDEN HALL (วาระเวลา)ได้จัดกิจกรรม SABUY DAY : Total Bride Experience @ VARAVELA เพื่อตอบโจทย์ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวให้ได้สัมผัสประสบการณ์ความรู้คู่ความสุข จากเหล่าบรรดากูรูมืออาชีพที่เราเลือกสรร ซึ่งนอกจากจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีภายในวันงานแล้ว เชื่อว่าหลายๆ ท่านที่ไม่สะดวกไปร่วมงาน ก็คงจะไม่อยากพลาดเก็บตกข้อควรรู้ดีๆ จากงานนี้ไปเหมือนกัน ว่าแล้ว Sabuywedding เลยขอสรุปรวมมาให้ซะเลย
เริ่มต้นด้วยมู้ดแอนด์โทนของงานที่จัดขึ้นแบบสบายๆ สมชื่อ กับการแนะนำตัวจากคุณต่าย Sabuywedding , คุณแอค - เมธาวี ฉายารัตน์ General Manager จาก VARAVELA และการเปิดตัวเซ็กชั่นแรกกับช่วง Thai A-La-Mode
ในช่วงนี้คุณเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะได้ทราบถึงพานขันหมากในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่พานขันหมากเอก พานขันหมากโท ไปจนถึงพานสินสอด และพานขนมหวานต่างๆ รวมไปถึงได้เห็นโมเม้นท์จำลอง ของการตั้งขบวนขันหมาก พิธีสู่ขอ พิธีรับตัว และพิธีสวมแหวน และยังมีการสอดแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยน่ารู้ให้ได้ฟังกัน ซึ่งสำหรับพานสวยๆ ในช่วงนี้ ทางร้านภิรมย์รักก็ได้จัดมาให้เราแบบสวยงาม สไตล์ไทยโมเดิร์นเลยค่ะ
สำหรับพิธีจีน พี่ดา-หยู่อี่ กูรูตัวจริงแห่งเวดดิ้งสายจีนก็จัดเต็มมาให้ นอกจากความรู้เรื่องลำดับพิธีจีน และของใช้ที่ต้องเตรียมกันแล้ว พี่ดายังมีเคล็ดลับอื่นๆ มาฝาก ตัวอย่างเช่น วิธีทานไข่ในขนมบัวลอย(หรือขนมอี๊) ซึ่งตามความหมายมงคล คือต้องการให้ได้ทานทั้งไข่ขาวและไข่แดง โดยไม่จำเป็นต้องทานให้หมดทั้งฟอง และเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม พี่ดาจึงแนะนำให้หันด้านป้านของฟองเข้าหาตัว เพื่อที่จะได้กัดทั้งไข่ขาวและไข่แดงในคำเดียว หรือแม้กระทั่งซีนยกน้ำชา ที่ไม่ว่าญาติผู้ใหญ่จะมาท่านเดียวยังไง การยกน้ำชาก็ยังคงต้องใช้ครั้งละ 2 ถ้วยอยู่ดี (เคล็ดความรู้นี้ทำเอาบ่าวสาวหลายคนตกใจ เพราะเพิ่งมารู้ตัวว่าเข้าใจผิดกันก็ในงานนี้เอง)
ตบท้ายก่อนเข้าสู่ช่วงพักเบรก เรามีสาธิตวิธีการรดน้ำสังข์ให้ได้ชมกัน ก่อนจะเริ่มต้นช่วงที่ 2 กับ Saree Bridal Idea, RAMS และ Pinky Tailor ที่จะมาให้คำแนะนำเรื่องชุดเจ้าสาวและสูทเจ้าบ่าวกันแบบอินไซด์เจาะลึกกันไปเลย
สำหรับช่วงที่ 2 นี้ เราได้รับเกียรติจากพี่เดียร์- คุณอิสรีย์ ตันติเตมิท ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ Saree Bridal Idea ผู้นำเทรนด์ด้านชุดเจ้าสาวในสไตล์เรียบโก้ ประสบการณ์กว่า 7 ปี รวมตัดชุดให้เจ้าสาวมาแล้วกว่าพันคน มาให้คำแนะนำถึงวิธีการเลือกชุดสำหรับคุณเจ้าสาว โดยพูดถึงสไตล์ชุดที่เหมาะกับรูปร่างทรงต่างๆ รวมทั้งความเชื่อผิดๆ เรื่องการเลือกชุดต่างๆ เช่น สะโพกใหญ่ห้ามใส่ชุดเมอร์เมด ซึ่งถือว่าผิดสุดๆ หรือการเลือกชุดปิดแขน เพราะรู้สึกว่าแขนใหญ่ ทั้งที่ความจริงแล้วยิ่งปิดเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้ดูแน่นตันไปอีก
ส่วนสาวคนไหนที่มีเนินอก แล้วคิดว่าจะต้องปิดให้หมด พี่เดียร์แนะนำว่าให้ปิดแค่ในสัดส่วนที่พอเหมาะ และเปิดสักนิดนึงจะดูดีกว่า ส่วนเรื่องการเตรียมตัว ก็ควรจะเซฟแบบชุดที่ชอบมาสักหน่อย และที่สำคัญคืออย่าลืมเผื่อเวลาตัดชุดล่วงหน้าสัก 3 เดือน ใส่ใจเรื่องบรากันโป๊ ซึ่งถือเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สำคัญมากเช่นกัน
มาต่อกันที่ช่วงที่คุณเจ้าบ่าวปลื้มกันมาก กับกูรูด้านสูทอย่างคุณวิน - ปวิณ ผลิตเดชตระกูล จาก Pinky Tailor ร้านสูทที่เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 35 ปี ที่นอกจากจะตัดให้ดาราดังของเมืองไทยมานับไม่ถ้วนแล้ว ยังตัดสูทให้คุณติงลี่ และล่าสุดได้ไปแสดงผลงาน Paris Fashion Week มาแล้ว
งานนี้คุณวินได้ให้คำแนะนำอย่างละเอียด ทั้งในเรื่องของวิธีการเลือกสูท รวมไปสเต็ปในการเตรียมความพร้อม เมื่อต้องการจะตัดสูทสำหรับงานแต่งงานสักชุด โดยเริ่มจากการกำหนดงบประมาณ และเลือกธีมงานเสียก่อน ถัดจากนั้นก็ให้เลือกสี ซึ่งสีที่คนมักจะนิยมใช้กันมากที่สุดก็คือสีดำ เทา และกรม แต่ถ้าจะให้ดี คุณวินแนะนำว่าให้ลองสีแปลกใหม่อย่างสีน้ำเงิน สีฟ้า สีเขียว สีชมพูดูบ้าง ก็จะช่วยให้งานยูนีคและมีสีสันขึ้นมาอีกไม่น้อย
ในส่วนของดีเทลต่างๆ เช่น เนื้อผ้า หากอยากสวมใส่สบายก็แนะนำให้เลือกเป็นผ้าคัตตอนหรือผ้าลินินค่ะ ส่วนลูกเล่นอื่นๆ ก็ใส่ลงไปได้อีกเพียบ ทั้งสีของกระดุม สีของรังดุม ไปจนถึงซับในกันเลย
และถ้าไม่ใช่เดือนฮิตของการจัดงานแต่งงาน ให้เผื่อเวลาการสั่งตัดชุดสำหรับคุณผู้ชายไว้ล่วงหน้าสัก 3 อาทิตย์ก็พอค่ะ เพราะช่วงก่อนนั้น เราจะได้มีเวลาไปจัดการชุดเจ้าสาวให้เสร็จก่อน จากนั้นค่อยมาปรับสูทของคุณเจ้าบ่าวให้ออกมาพอดี ภาพรวมจะได้ออกมาสวยงาม ดูกลมกลืน
นอกจากนี้ ในส่วนของการตกแต่งสูทให้ดูเท่ เก๋ มีสไตล์เพิ่มมากขึ้น เรายังได้คุณแบงค์ - ปรีดากร เมธเกรียงชัย จาก RAMS ตัวจริงด้าน Accessories แบบ Handcraft มาช่วยเสริมดีเทลต่างๆ ให้ ไม่ว่าจะเป็น Pin ทรงต่างๆ หรือ Pocket Square ที่สามารถนำมามิกซ์แอนด์แม็ตช์ให้ดูสนุก หรือจะไว้ใช้สำหรับสร้างจุดร่วมให้กับทีมเพื่อนเจ้าบ่าวก็ดูคูลไม่หยอก
และไม่ใช่แค่เฉพาะเทรนด์ Pin ดอกไม้ที่เป็นที่นิยมตลอดกาลเท่านั้น แต่งานนี้คุณแบงค์ยังได้แนะนำถึง Accessories อื่นๆ ที่มีเอกลักษณ์แปลกใหม่ให้เราได้รู้จักกันอีก ไม่ว่าจะเป็น Pin รูปสัตว์ หรือ Cufflinks แบบเข้าเซ็ตกันสำหรับคนที่อยากจะให้เชิ้ตของคุณดูมีจุดเด่น นอกจากนี้ยังได้แนะไปถึงวิธีการจัดทรง Pocket Square ที่จะสื่อบุคลิกของคุณได้ เช่น ถ้าพับสี่เหลี่ยมเนี้ยบ ก็จะเรียบหรูดูดี หรือถ้าปล่อยทรงเหมือนไม่ได้ตั้งใจ ก็จะดูมีวอลลุ่ม และสื่อถึงความเป็นคนสบายๆ สไตล์ Casual ได้เหมือนกัน
ต่อกันที่เซ็กชั่น 3 กับพี่โบ๊ท ชนาธิป เชียงทอง ช่างภาพมือโปรจาก Tonnamlamtan ที่ปรึกษาสมาคมช่างภาพแต่งงานแห่งประเทศไทย ดีกรีวิทยากร Nikon และรางวัล Fearless Award รวมไปถึงรางวัล WPJA อีก 3 เหรียญ พี่โบ๊ทได้มาให้คำแนะนำกับเราในเรื่องวิธีการเลือกช่างภาพ เรทราคา ไปจนถึงวิธีการติดต่อกับช่างภาพค่ะ สิ่งที่ย้ำสุดๆ คือ แนะให้บ่าวสาวเลือกช่างภาพจากสไตล์งานที่ชอบไปเลย ดีกว่าเลือกช่างภาพมา แล้วไปบรีฟให้เขาถ่ายในสไตล์ที่ตัวเองชอบ เพราะนอกจากจะไม่ได้รูปที่ถูกใจแล้ว ช่างภาพก็เก็บภาพให้ได้แบบไม่เต็มที่เหมือนกัน
สำหรับการเลือกช่างภาพวันงาน พี่โบ๊ทแนะว่า การเลือกหลายๆ เจ้ามาเก็บภาพในงานเดียว อาจจะไม่ได้ดีเสมอไปค่ะ เพราะทุกคนจะต้องมีภาพครบทุกช่วงเหมือนกัน ผลคือ “บังกันเอง” แล้วทำให้การทำงานยิ่งลำบาก สิ่งที่ควรทำคือ ให้เลือกทีมหลัก 1 ทีม แล้วถ้าชอบช่างภาพคนไหนเพิ่มเติม ก็เลือกเข้ามาเป็นคนๆ เลยดีกว่า
ส่วนเรื่องจำนวนของช่างภาพ หนึ่งทีมควรจะมี 2-3 คนเป็นอย่างต่ำค่ะ แบ่งเป็น ช่างภาพพิธีการ ที่จะประจำตรงจุดแบ็คดรอป ช่างภาพแคนดิด (เน้นเก็บอารมณ์ และบรรยากาศงาน) หรือถ้างานสเกลใหญ่ มีช่างภาพอีกคนสำหรับเก็บส่วนตกแต่งด้วยก็จะเริ่ดเลยค่ะ
อีกเรื่องที่ห้ามลืมเด็ดขาด ก็คือการตกลงเวลาทำงาน และการทำใบสัญญาให้ดีๆ ค่ะ พวกเรื่องการนัดหมายรับรูป ก็จะต้องระบุให้ชัดเจนทุกอย่างเหมือนกัน องค์ประกอบเหล่านี้เราจะมองข้ามไปไม่ได้เลย
จบช่วงทอล์คกันแล้ว พี่โบ๊ทยังเปิดโอกาสให้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ออกไปเซลฟี่กับมุมสวยๆ ภายใน VARAVELA กันอีก งานนี้ถ่ายเสร็จปุ๊บ ติดแฮชแท็ก ภาพก็จะไปปรากฏขึ้นบนหน้าจอของ Social Touch แบบทันทีเลยค่ะ หลังจากนั้นพี่โบ๊ทก็จะเลือกรูปที่ถ่ายได้สวยถูกใจ แล้วเก็บไว้ไปให้รางวัลกันตอนท้ายงาน
นอกจากตัวสถานที่ที่ทุกคนออกปากชมกันแล้ว บ่าวสาวหลายคนที่มาร่วมงานยังพูดถึงมุมตกแต่งน่ารักๆ ภายในงาน ตั้งแต่เก้าอี้สวยๆ จาก Glitz มุมลงทะเบียนจาก Bride The Way รวมไปถึงตรงสนามหญ้าการ์เด้นฮอลล์จาก Chill Chill Studio ที่มาช่วยเติมเต็มบรรยากาศ ให้ออกมาดูเป็นสไตล์รัสติกโมเดิร์นกำลังดี
ก่อนจะไปถึงช่วงสุดท้าย เรามีคั่นกลางกิจกรรมด้วยการจับริบบิ้นสนุกๆ กับรางวัลถ่ายพรีเวดดิ้งฟรีที่ VARAVELA ที่พี่แอคของเราใช้ห้องส่วนบนสุดของ VARAVELA Chamber ได้เก๋เกินใคร
ช่วงเย็นเรามีบริการค็อกเทลอร่อยๆ จากแคเทอริ่งเจ้าดังสองเจ้า ที่สับเปลี่ยนกันมาเติมความอร่อยกันแบบไม่มีขาดตอน เริ่มจาก IDO Catering ในวันเสาร์ และ Impact Catering ในวันอาทิตย์
โดยทั้ง 2 ร้านได้ให้เกียรติมาแนะนำ เรื่องการจัดอาหารให้เหมาะสมกับรูปแบบงาน ในส่วนของคุณเก่ง - ฉัตรชัย แป้นโพธิ์กลาง Managing Director จาก IDO Catering ก็มาช่วยแนะเรื่องวิธีการจัดโต๊ะภายในงาน สไตล์ ธีม และเมนูยอดนิยม รวมไปถึงข้อดีข้อเสียของการจัดเลี้ยงแต่ละแบบ ยกตัวอย่างเช่น การจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลนั้น ได้เปรียบในแง่ของความสวยงามและสดใหม่อยู่เสมอค่ะ เนื่องจากอาหารค่อยๆ ทยอยเติม ทยอยเสิร์ฟ แขกที่มาช้าก็จะยังได้ทานในแบบสวยสุดคำต่อคำ ต่างจากโต๊ะจีนที่เน้นอิ่มท้องและสะดวกสบายเพราะไม่ต้องเดินก็จริง แต่ถ้ามาช้าก็หมดแล้วหมดเลยเหมือนกัน
อีกหนึ่งเรื่องที่คุณเก่งแนะนำมากก็คือ เรื่องการสร้าง Story ผ่านอาหารหรือเครื่องดื่ม อย่างถ้าเลือกจัดเป็นค็อกเทล เราอาจจะใส่ลูกเล่นลงไปตรงไม้จิ้มให้ดูน่ารักมากขึ้นค่ะ เล่นได้ตั้งแต่สี ไปจนถึงโลโก้ หรืออะไรก็ตามที่จะสื่อได้ถึงธีมงานของเราเลย ส่วน Food Station หากจะจัดควบคู่กัน ก็ลงไว้ที่ประมาณ 4-6 ซุ้มกำลังดี พวกพาสต้าหลากเส้นหลายซอสก็ดี หรือซุปร้อนๆ ซดอุ่นๆ ในงาน ก็ถูกใจแขกผู้ใหญ่แน่นอน และตรงจุดนี้คุณเก่งก็แถมทิปส์มาให้อีกนิดนึง คือถ้าอยากเลือกซุ้มก๋วยเตี๋ยว แต่กังวลว่ามาเป็นเส้นกินแล้วจะไม่สะดวก ก็ลองเลือกเกี๊ยวกุ้งตัวโตๆ แทนค่ะ ทั้งกินง่าย แล้วอร่อยฟินได้ในคำเดียวเลย
สำหรับวันเสาร์ เรายังมีแขกรับเชิญพิเศษเป็นกูรูจากทาง Wedding Wine มาช่วยไกด์ไลน์เรื่องอาหารที่เหมาะกับไวน์แบบต่างๆ รวมไปถึงการกะปริมาณให้เหมาะสมกับจำนวนแขก โดยมีหลายปัจจัยให้บ่าวสาวต้องคำนึงถึง เช่น จำนวนแขกของเรามีกี่คน ชอบดื่มหรือไม่ชอบดื่ม เพราะแม้แต่แขกจำนวนเท่าๆ กัน ถ้ามีเพื่อนชอบดื่ม ก็อาจจะต้องเพิ่มปริมาณขึ้นจากเดิมอีกเป็นเท่าตัว นอกจากนี้เรื่องสถานที่ก็เป็นอีกเรื่องที่เราต้องคำนึงถึงด้วย อย่างถ้าจัดงานที่ทะเล เครื่องดื่มที่เข้ากันอาจจะเป็นพวกไวน์ขาวหรือสปาร์กลิ้งไวน์ แต่ถ้าจัดงานในโรงแรม แนะให้เลือกไปทั้งไวน์ขาวและไวน์แดงไปเลยถึงจะดี
ในส่วนของวันอาทิตย์ ช่วงดินเนอร์เราได้เชิญ คุณกบ - มณทิพย์ กาญจนพนัง Sale Manager จาก Impact Catering มาช่วยเราให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องสถานที่ และการจัดเซ็ตติ้งอาหารสำหรับแขกจำนวนมาก ว่ามีเทคนิคอย่างไร จัดแบบไหนจึงจะได้ออกมาทั้งสวยงาม อิ่มอร่อย และยังคงใส่ใจในรายละเอียด (ที่ Impact เขาถึงขนาดที่ว่า แม้แต่ป้ายเมนูอาหารแต่ละอย่าง ยังควรมีบอกส่วมผสมเพื่อให้แขกทานได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวแพ้กันเลยค่ะ)
ปิดท้ายด้วยการมอบรางวัลจากเหล่าบรรดากูรู ที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อแชร์ประสบการณ์กับเราภายในงาน หวังว่าว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวทุกท่าน จะได้รับทั้งความรู้ ความสุข และความอบอุ่นใจ ติดมือกลับบ้านไปพร้อมกับกิจกรรมที่เราตั้งใจจัดขึ้นในครั้งนี้ด้วยเช่นกันค่ะ