การจัดเลี้ยงรูปแบบอาหารค็อกเทลในงานแต่ง เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากค่ะ เพราะมีการเสิร์ฟเป็นคำ ๆ แบบคานาเป้ (Canapé) ที่ตกแต่งจัดวางอย่างสวยงามน่าทาน ทำให้แขกรู้สึกสนุกที่ได้เลือกทานหลากหลาย แถมได้บรรยากาศที่ดูชิล ๆ เป็นกันเองค่ะ
นอกจากนี้ รูปแบบการจัดวางโต๊ะและไลน์อาหารค็อกเทลยังช่วยประหยัดพื้นที่ และเหมาะกับบ่าวสาวที่ยังไม่มั่นใจเรื่องจำนวนแขก เพราะถ้ามีแขกมาเพิ่มจากที่คิดไว้ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่นั่งด้วยค่ะ วันนี้ SabuyWedding มีเทคนิคการเลือกอาหารจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลมาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ
1. คำนวณปริมาณอาหารค็อกเทลให้พอดีกับจำนวนแขก
แนะนำให้สั่งอาหารให้พอดีกับจำนวนแขกที่คาดว่าจะมาร่วมงานเลยค่ะ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ทางโรงแรมเขาจะเตรียมเผื่อไว้ให้ประมาณ 10% อยู่แล้ว เราจึงไม่จำเป็นต้องสั่งเกินยอดแขกจริงก็ได้ค่ะ แต่อาจกำชับทางโรงแรมสักหน่อยว่าให้คอยดูแลอาหารไม่ให้พร่อง เพื่อให้แขกจะได้รู้สึกประทับใจค่ะ
Cr. I Do Catering / Narai Catering
2. เลือกเมนูอาหารค็อกเทลเน้นความหลากหลาย
เมนูอาหารค็อกเทลควรมีความหลากหลาย คือครบทั้งเมนูทานเล่น เมนู Main Dish และของหวานค่ะ โดยเมนู Main Dish อาจเลือกเป็นเมนูอิ่มท้องหน่อย เช่น เบอร์เกอร์หมูบาร์บีคิว ข้าวผัดแกงเขียวหวาน ผัดไทยกุ้งสด ส่วนเมนูทานเล่นมีทั้งสไตล์ Asian และ Western เพื่อเพิ่มความหลากหลายของรสชาติ เช่น กระทงทอง ติ่มซำ แครกเกอร์ลาบหมู สลัดโรล คานาเป้กุ้งค็อกเทล และเมนูของหวานตบท้ายเป็นพวกเค้ก ขนมไทย หรือผลไม้ค่ะ
3. เลือกเมนูอาหารค็อกเทลตามกลุ่มวัยของแขก
การเลือกเมนูอาหารจัดเลี้ยงต้องคำนึงด้วยว่าแขกของเรามีกลุ่มไหนบ้าง เพราะแขกผู้ใหญ่กับแขกวัยรุ่นก็จะมีความชอบที่ต่างกันค่ะ สำหรับแขกผู้ใหญ่ควรเป็นเมนูที่ทานง่าย ไม่เคี้ยวยากเกินไป ถ้าเป็นเมนูที่ดู Healthy ก็จะยิ่งดีเลยค่ะ ส่วนถ้ามีแขกเพื่อน ๆ หนุ่มสาวเยอะ ก็เลือกเป็นเมนูที่มีหน้าตาสวยงาม มีความสนุกในการทาน ก็จะทำให้แขกเอ็นจอยไปกับอาหารได้ง่ายค่ะ
Cr. Narai Catering
4. อย่าลืมถามความต้องการพิเศษของแขก
เรื่องสำคัญที่ควรคำนึงในการเตรียมเมนูอาหารงานแต่ง คือต้องทราบความต้องการพิเศษของแขกที่มาในงาน เพื่อให้สามารถเตรียมอาหารได้เหมาะสมค่ะ เช่น หากมีแขกที่แพ้อาหารทะเล ก็จะควรมีเมนูที่ไม่มีส่วนผสมของอาหารทะเลเตรียมไว้, หากแขกนับถืออิสลาม ก็เลือกเมนูเนื้อสัตว์หลากหลาย ไม่ใช่มีแต่เมนูหมูเยอะเกินไปค่ะ หรือถ้ากังวลว่าจะมีการแพ้อาหารอื่น ๆ เช่น ถั่ว นม ไข่ ฯลฯ การระบุว่ามีวัตถุดิบอะไรที่อาจทำให้แพ้ไว้ตรงป้ายอาหาร ก็เป็นไอเดียที่ดีค่ะ
5. เลือก Food Station เพื่อเสริมอาหารค็อกเทล
ถ้ากลัวแขกไม่อิ่ม แนะนำให้เสริมด้วยซุ้มอาหารค่ะ โดยจะมีทั้งซุ้มอาหารของโรงแรม หรือถ้าอยากนำซุ้มอาหารจากข้างนอกเข้ามาก็สามารถทำได้ค่ะ แต่จะมีค่านำเข้าซุ้มอาหารเพิ่มเติมค่ะ โดยวิธีการเลือกง่าย ๆ เลยก็คือ
- ควรเลือกซุ้มอาหารหลักที่เป็นเมนูอิ่มท้องค่ะ เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู บะหมี่หมูแดง แฮมหรือสเต็ก
- ถ้าอยากได้เมนูที่มีความสดใหม่และหลากหลายให้แขกได้เลือกทาน แนะนำเป็นพวกเมนูพาสต้า ซึ่งทางโรงแรมจะมีการปรุงสดให้แขกในงานเลยค่ะ
- ซุ้มอาหารยอดฮิตอย่างอาหารญี่ปุ่นที่ต้องใช้เวลาในการเสิร์ฟ เช่น ซูชิที่ปั้นทีละคำ หรือซาชิมิที่ต้องแล่ ทำให้บางช่วงอาจคิวยาว บ่าวควรมีซุ้มอาหารอื่นเข้ามาเสริมเพื่อเป็นตัวเลือกด้วยค่ะ
- สามารถเพิ่มสีสันให้งานได้ด้วยซุ้มของหวาน เช่นซุ้มไอติมโฮมเมด ก็กำลังเป็นที่นิยมมากเลยค่ะ
Cr. Sozo
การเลือกเมนูอาหารค็อกเทลในงานแต่ง ถือเป็นความใส่ใจของบ่าวสาว ที่คิดถึงประสบการณ์การทานอาหารของแขกในวันงาน เพื่อให้ทุกคนถูกปาก ถูกใจ และอิ่มท้องด้วยค่ะ ถ้าทำตามเทคนิคเหล่านี้ก็ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ นอกจากนี้เรายังมีเทคนิควางแผนจัดงานแต่งด้านอื่น ๆ ให้อ่านเพิ่มเติมด้วยนะคะ