สั่งอาหารงานแต่ง ค็อกเทล โต๊ะจีน บุฟเฟ่ต์ คำนวณยังไงให้พอดีกับแขก

          การวางแผนงานแต่ง นอกจากบ่าวสาวจะต้องนับจำนวนแขกเป็นเรื่องแรก ๆ แล้ว การเลือกรูปแบบอาหารจัดเลี้ยงก็สำคัญไม่น้อย โดยเฉพาะการสั่งอาหารงานแต่งให้เพียงพอกับจำนวนแขก และอร่อยถูกใจผู้ร่วมงานทุกคน เพราะไม่ว่าจะเป็นค็อกเทล โต๊ะจีน หรือบุฟเฟ่ต์ ก็จะมีผลต่อค่าใช้จ่าย และภาพรวมของงานที่แตกต่างกันค่ะ ซึ่งบ่าวสาวส่วนใหญ่มักไม่แน่ใจว่า อาหารงานแต่งแต่ละรูปแบบควรจะสั่งมากน้อยแค่ไหน วันนี้ SabuyWedding จึงขอเอาทิปส์เริ่ด ๆ มาฝากค่ะ รับรองทำตามนี้ ปริมาณออกมากำลังดี ไม่เหลือไม่ขาดแน่นอน

​​​​​​Photo : Smallmoonphoto 

วิธีการสั่งอาหารงานแต่งแบบค็อกเทล

       ค็อกเทลถือเป็นรูปแบบอาหารงานแต่งยอดนิยมสำหรับบ่าวสาวยุคนี้ เพราะเพราะจัดมาเป็นคำ ๆ เน้นทานง่าย แขกสามารถเลือกทานได้หลากหลาย และมีเวลาสังสรรค์กันมากขึ้น ทริคสำหรับการสั่งก็คือ ส่วนใหญ่โรงแรมจะเตรียมเผื่อไว้ให้ 10% อยู่แล้วค่ะ ดังนั้นแปลว่าไม่ต้องสั่งเกินยอดจำนวนแขกจริงก็ได้ แต่ถ้ากังวลว่าจะไม่อยู่ท้อง แนะนำให้ไปเพิ่มซุ้มอาหารแทน โดยเฉพาะของหนัก ๆ เช่น ข้าวมันไก่ เกี๊ยวกุ้ง หรือพาสต้า เพราะทำให้แขกอิ่มกำลังดีค่ะ

Photo : Grande Centre Point Terminal 21, The Apothecary Venue

       ปริมาณการสั่งซุ้มอาหารงานแต่งที่เหมาะ มีวิธีคิดง่าย ๆ คือ แขก 1 คน จะทานประมาณคนละ 2-3 จาน หรือบางคนอาจจะทานถึง 4 จานเลย เพราะฉะนั้นถ้ามีแขกประมาณ 400 คน ให้นำจำนวนของแขกคูณ 4 เท่ากับว่าเราควรสั่งอย่างน้อย 1,600 จานค่ะ เช่น ข้าวมันไก่และเกี๊ยวกุ้งอย่างละ 400 จาน พาสต้าอีก 300 จาน แบบนี้มั่นใจได้เลยว่าแขกอิ่มท้องแน่นอน แต่จะยังขาดอีก 500 จาน ให้เน้นไปเพิ่มความหลากหลาย อาจจะเป็นแซลมอน แฮม หรือเนื้อก็ได้ค่ะ  

       ข้อควรระวังคือ ไม่ควรสั่งซุ้มอาหารเกิน 4-5 ซุ้ม เพราะนอกจากจะเปลืองพื้นที่แล้ว อาหารแต่ละซุ้มยังน้อยเกินไป ทำให้หมดเร็ว แนะนำว่าควรคำนวณแล้วเน้นหลากหลาย แต่ละซุ้มมีปริมาณเยอะหน่อยจะดีกว่าค่ะ แขกอิ่มอร่อยแฮปปี้ เจ้าภาพอย่างเราก็ชื่นใจไปด้วย

วิธีการสั่งอาหารงานแต่งแบบโต๊ะจีน

       จากบรรดาอาหารงานแต่งทั้ง 3 แบบ โต๊ะจีนถือว่าเป็นโจทย์หินที่สุดค่ะ เพราะบ่าวสาวต้องคำนวนจำนวนแขกกับโต๊ะให้พอดีกัน ทำให้การเพิ่มอาหารกะทันหันหน้างานจะยากกว่ารูปแบบอื่น ๆ ค่ะ  

       ปกติเวลาจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน ควรจะมีโต๊ะสำรองประมาณ 10% ของจำนวนแขก เพราะนอกจากแขกอาจมาเพิ่มหน้างานแล้ว บางครั้งแขกก็อาจจะนั่งไม่ครบ 10 คนต่อ 1 โต๊ะ ทำให้จำนวนโต๊ะงอกขึ้นมาอีก เจ้าสาวต้องลองเช็กว่าทางโรงแรมมีโต๊ะสำรองให้ (ที่ถ้าเราไม่เปิดจะยังไม่จ่ายเงิน) ถึง 10% ไหม ถ้าไม่ถึงก็ลองพิจารณาดูว่าจะสั่งอาหารงานแต่งเพิ่มหรือเปล่าค่ะ โดยวิธีคิดสามารถคำนวณได้จากจำนวนการ์ดที่แจกไป ให้นำมาคูณ 2 เนื่องจากการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนแขกมักจะมากันมากกว่า 1 คนอยู่แล้วค่ะ จากนั้นจึงลิสต์รายชื่อแขกออกมาเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อเซ็ตโต๊ะให้กับแขกค่ะ

Photo : Bigontheway Photography

       อีกเรื่องที่สำคัญมากสำหรับอาหารงานแต่งแบบโต๊ะจีนคือ บ่าวสาวควรมีแม่งานที่ดูแลส่วนนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้มีคนช่วยคุยกับทางโรงแรม เรื่องการเปิดโต๊ะเพิ่มค่ะ ควรเลือกเป็นญาติพี่น้องหรือเพื่อนสนิทที่โรงแรมเข้าถึงตัวได้ง่าย คุยง่าย และมีอำนาจตัดสินใจในเรื่องเงินแทนบ่าวสาวค่ะ (แต่ไม่ควรเป็นคุณพ่อคุณแม่ เพราะวันนั้นท่านเองก็จะยุ่งมากค่ะ)

วิธีการสั่งอาหารงานแต่งแบบบุฟเฟ่ต์  

       บุฟเฟ่ต์เหมาะกับงานที่มีแขกจำนวนไม่มาก เนื่องจากต้องใช้พื้นที่ในการจัดค่อนข้างเยอะ แต่ถือเป็นทางเลือกที่ดีเพราะสามารถตอบโจทย์ความต้องการหลากหลายของแขกได้ค่ะ          

       สำหรับการสั่งอาหารงานแต่งรูปแบบนี้จะมีวิธีคำนวณไม่ซับซ้อนเท่ากับการจัดเลี้ยงรูปแบบอื่นค่ะ ส่วนใหญ่ทางโรงแรมจะเผื่อไว้ให้ 5% อยู่แล้ว เพราะอาหารแบบบุฟเฟ่ต์มักเป็นข้าวและกับข้าวที่ทำให้อิ่มเร็ว ดังนั้นสามารถสั่งพอดีกับจำนวนแขกได้เลย แต่หากกลัวว่าแขกจะมาเกิน ให้หาคนช่วยสอดส่องดูปริมาณในระหว่างงานก็ได้ค่ะ หากเริ่มพร่องเยอะ เพราะจำนวนแขกมากกว่าที่คิด ให้รีบแจ้งทางโรงแรมเพื่อดูว่าสามารถออกอะไรมาสมทบได้อีกค่ะ

Photo : Dee Catering

       การสั่งอาหารงานแต่งให้พอดีกับจำนวนแขกไม่ใช่เรื่องยาก หากบ่าวสาววางแผนและคำนวณอย่างดี ด้วยเคล็ดลับที่เราแนะนำให้ รับรองว่าแขกทุกคนอิ่มท้อง แฮปปี้ และไม่มีอาหารเหลือทิ้งโดยไม่จำเป็นด้วยค่ะ