Hyatt Regency Bangkok สถานที่แต่งงานสวยหรู เซอร์วิสดี มาพร้อมจอ LED สุดอลังถึง 20 เมตร
ออยกับมายด์ (เจ้าบ่าว) เลือก Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit (ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท) เพราะประทับใจโรงแรมที่ดูใหม่ สะอาดตา ห้องบอลรูมเพดานสูง ตกแต่งสวยหรู มีจอ LED ที่อลังการด้วยขนาดจอยาว 20 เมตร เห็นภาพรวมแล้วรู้สึกว่าง่ายต่อการตกแต่งค่ะ ซึ่งห้องหมั้นและห้องบอลรูมยังอยู่ชั้นเดียวกัน เราจึงได้พื้นที่จัดงานทั้งชั้น โดยที่มีความเป็นส่วนตัวอยู่ค่ะ เท่านั้นยังไม่พอ เราสัมผัสได้ถึงการบริการ พนักงานดูแลดี แม้แต่เซลล์ คุณมุก ก็ให้คำแนะนำดี ใส่ใจช่วยเหลือมากค่ะ
งานหมั้นสว่าง สบายตา ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น
สำหรับพิธีหมั้น เรามีแขกประมาณ 100 ท่าน เน้นครอบครัวและเพื่อน ๆ บรรยากาศเลยค่อนข้างกันเอง เราจึงตกแต่งเรียบง่าย เพื่อให้ดูชิลมากกว่าทางการค่ะ ส่วนโทนสีอยากให้ดูสว่าง สบายตา ประกอบกับส่วนตัวชอบดอกไม้สีขาว เราเลยใช้ดอกไม้สีขาวเป็นหลัก เสริมฉากไม้ทรงสูงสีเขียวอ่อนไว้ใส่ชื่อบ่าวสาวค่ะ ส่วนจุดรับตัวเจ้าสาวตรงระเบียงก็แต่งพุ่มดอกไม้ให้ดูสวยงามค่ะ
ความพิเศษของงานหมั้น คือ เราจัดหาชุดไทยให้เพื่อน ๆ เจ้าสาวด้วย โดยเลือกผ้าถุงสีฟ้าอมเขียว เพื่อให้เข้ากับสีสูทเพื่อนเจ้าบ่าว ซึ่งเป็นสีกรมท่าค่ะ
เราจัดพิธีหมั้นแบบไทย เริ่มต้นด้วยแห่ขันหมาก ผ่านประตูเงิน ประตูทอง ที่เพื่อน ๆ เจ้าสาวคิดเกมกันเองค่ะ หลังจากนั้นมายด์จะไปเจรจาสู่ขอกับญาติผู้ใหญ่ และออกมารับตัวออย ที่นั่งรออยู่ด้านนอกค่ะ จากนั้นเราก็ทำพิธีมอบสินสอด สวมแหวน และรดน้ำสังข์กันต่อค่ะ
สำหรับอาหารช่วงเช้าเน้นคัดสรรเมนูให้แขกอิ่มท้องค่ะ มีทั้งข้าวต้มปลา ข้าวหมูแดง และเกี๊ยวน้ำค่ะ
งานเลี้ยงฉลองสวยเหมือนหลุดมาจากดิสนีย์แลนด์ กับกิมมิก ‘มิกกี้เมาส์’ และโชว์แสนหวานจากบ่าวสาว
ในช่วงงานเลี้ยงฉลอง เราอยากให้งานสะท้อนตัวตนค่ะ จึงเลือกธีมดิสนีย์ เพราะออยชอบมาก และเพิ่งได้มีโอกาสไปดูโชว์ดิสนีย์ที่ต่างประเทศ มีอยู่ฉากหนึ่งที่ชอบเป็นพิเศษ ก็ถ่ายรูปเก็บไว้ จนถึงวันแต่งงาน เลยนำฉากนั้นมาเป็น Reference ตกแต่งงานค่ะ
ฉากนั้นจะมีสีสันจัดจ้านมากกว่าสีพาสเทลหวาน ๆ ค่ะ เราเลยเลือกธีมสีไปโทนฟ้า ม่วง น้ำเงินและแดงค่ะ ต้องขอชมทีมตกแต่งที่สามารถดึงความคิดในหัวของเราออกมาเป็นรูปธรรมได้อย่างสวยงาม ถูกใจเรามากค่ะ
เราต้องการให้ทั้งงานดูเป็นเรื่องราวเดียวกัน จึงตกแต่งโถงรับรองเป็นสวนดอกไม้ หากแขกออกจากลิฟต์มา จะเห็นภาพบ่าวสาวที่ตั้งเป็นบอร์ดขนาดใหญ่ ความสูงเกือบชนเพดาน ก่อนไปสู่แบ็คดรอปค่ะ เราตั้งใจทำให้เหมือนแขกเดินเข้าซุ้มประตูสีขาว เพลิดเพลินไปกับสวน และมิกกี้เมาส์ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนที่ออยชอบ โดยเอามาเป็นกิมมิกให้แขกเขียนอวยพร หลังจบงานก็สามารถนำไปตกแต่งบ้านต่อค่ะ
มาถึงตัวแบ็คดรอปถ่ายภาพ เราใช้ผ้าม่านสีกรมท่า เพื่อเชื่อมการตกแต่งตั้งแต่สวน ขณะเดียวกันก็ดูหรูหราเหมือนอยู่โรงละครค่ะ เราตกแต่งฉากด้วยดอกไม้สดล้วน ๆ ส่วนแบ็คกราวน์ใช้รูปปราสาท ซึ่งนำมาจากภาพที่ออยให้ทีมตกแต่งดูค่ะ
เวทีภายในห้องบอลรูม เราตกแต่งเป็นสวนดอกไม้ในเทพนิยาย มีส่วน Hanging บนเพดานดีไซน์ให้เหมือนอยู่ท่ามกลางสวนที่มีน้ำตก ด้วยการใช้ผ้าแก้วห้อยลงมา เหนือศีรษะตรงจุดตั้งเปียโน ทำเป็นโครงวงกลม 3 ชิ้นซ้อนกัน ตั้งใจให้ดูเป็น Hidden Micky ค่ะ และมีดีเทลเล็ก ๆ เช่น เทียน คริสตัล เพิ่มความโรแมนติก
สำหรับโมชั่นกราฟิกบนจอ LED มีหลายฉากค่ะ แต่คงธีมให้เป็นปราสาทในรูปแบบที่ต่างกันไป ซึ่ง LED ของที่นี่สามารถแบ่งจอได้ด้วย เราเลยแบ่งไว้บนเวทีและหลังห้อง เพื่อใช้เป็นแบ็คกราวน์ในงาน After Party ค่ะ
มาถึงพิธีการ เริ่มแรกแขกจะลงทะเบียน รับของชำร่วยเป็นแก้วน้ำ และมาถ่ายภาพร่วมกัน ไปจนถึงถ่ายโฟโต้บูธได้ค่ะ พอใกล้ได้เวลา เราจะเปิดวิดีโองานงานหมั้นช่วงเช้า ในขณะที่ทุกคนนั่งดูวิดีโอ ด้วยความที่ห้องมืด เราจะเซอร์ไพร์สแขก โดยออยแอบไปนั่งตรงเปียโน ส่วนมายด์ยืนข้างเวที เพื่อเตรียมตัวแสดงโชว์ค่ะ
เมื่อวีดีโอจบลง แสงไฟจะค่อย ๆ ส่องมายังจุดที่ออยนั่งเล่นเปียโน และร้องเพลง Can't Help Falling in Love ของ Elvis Presley จบแล้วจะส่งต่อให้มายด์ร้องเพลง แสนล้านนาที ของ เบล สุพล ค่ะ จากนั้นมายด์จะเดินมาหาออยตรงเปียโน เพื่อเดินกลับขึ้นเวทีไปด้วยกัน จบโชว์ด้วยเอฟเฟ็กต์พลุ Sparkular ซึ่งเพื่อนหลายคนบอกว่า เหมือนมาดูคอนเสิร์ตเลยค่ะ
เราทั้งคู่คิดคิวเปิดตัวนี้ หลังจากคุยกันว่าไม่อยากได้วีดีโอพรีเซนเทชั่นเท่าไหร่ แต่อยากนำสิ่งที่ชอบมา Represent ตัวตนผ่านการแสดง ก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็นค่ะ
เรามีประธานทั้งฝั่งบ่าวสาวรวม 2 ท่าน ขึ้นมากล่าวคำอวยพร ตามด้วยเราพูด Speech และขอบคุณแขก รวมถึงครอบครัว จากนั้นก็เดินลงเวที เพราะตั้งใจเก็บภาพที่เราเดินผ่านเพื่อน ๆ ที่โปรยกลิตเตอร์ เพื่อไปตัดเค้กค่ะ เสร็จแล้วถึงช่วงโยนช่อดอกไม้ และเข้าสู่อาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่ทุกคนรอคอยค่ะ
ในขณะที่เราเปลี่ยนชุด แขกจะมูฟไปอยู่หลังห้อง ซึ่งตั้งเวทีวงดนตรีสดไว้ค่ะ โดยทำโมชั่นกราฟิกให้เข้ากับงานปาร์ตี้ด้วย พอเรากลับเข้ามาอีกครั้งก็สนุกกันมาก แถมช่วงนี้เรานำเข้าซุ้มมาม่า มีเชฟปรุงให้สด ๆ ซึ่งเพื่อน ๆ ชอบมากค่ะ
อาหารจัดเลี้ยง เราเลือกเป็นค็อกเทลและซุ้มอาหาร ซึ่งมีทั้งของโรงแรม เช่น แซลมอนอบเกลือ กระเพาะปลา ข้าวเหนียว-คอหมูย่าง สปาเก็ตตี้ และที่นำเข้ามาเอง อย่างข้าวมันไก่ และอาหารญี่ปุ่น เราดีใจที่แขกเอ็นจอยและพูดถึงว่าอาหารอร่อยทุกเมนูค่ะ บางคนบอกว่าเหมือนมาทานบุฟเฟ่ต์ที่เติมได้ไม่อั้นค่ะ
บ่าวสาวประทับใจงานสวยอลัง เปลี่ยนฝันให้เป็นจริง
เราสองคนประทับใจที่ได้ดีไซน์งานในแบบที่ตัวเองชอบ แต่การได้รับคำชมจากแขก ยิ่งเป็นอะไรที่ปลื้มใจกว่า หลายคนบอกว่าเป็นงานแต่งที่ชอบที่สุดในชีวิต เพราะทุกอย่างดีมาก ทั้งอาหาร การตกแต่ง ไปจนถึงบรรยากาศค่ะ
เราต้องขอบคุณทุกทีมงาน ที่ช่วยสานฝันให้เป็นจริง ตั้งแต่เวดดิ้งแพลนเนอร์ ที่ดูแลเราดีทุกอย่าง สมกับคำที่เขาเคยพูดไว้ ว่าจะดูแลเราตั้งแต่วันแรกจนถึงเข้านอน รันคิวก็เป๊ะ ไปจนถึงการตกแต่ง พอเดินเข้าไปในงาน คือน้ำตาจะไหล เพราะตื้นตันที่งานสวยตรงตามที่ฝันไว้ค่ะ เป็นทีมงานที่เราสองคนประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ
ทางโรงแรมก็ดูแลดีมากเช่นกัน แขกส่วนใหญ่ชมว่าพนักงานยิ้มแย้มและบริการดี เสิร์ฟรวดเร็ว ไม่ต้องรอนานค่ะ คุณมุกเองก็ใส่ใจความรู้สึกของเราสองคนมาก เวลาเรามีปัญหา หรือต้องการปรับตรงไหน เขารับฟังและยินดีแก้ให้ รวมถึงตอนชิมอาหาร เชฟก็ปรับตามที่เราต้องการ โดยไม่มีอีโก้เลย ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
อีกอย่างที่ชอบ คือ ห้องพัก เราได้อัปเกรดห้องพักเป็นไทป์ท็อปสุดของโรงแรม ซึ่งห้องใหญ่มากจริง ๆ และตกแต่งภายในสวยงาม จนออยคุยกับมายด์ว่า ขอพักต่ออีกสักอาทิตย์ได้ไหม
คําแนะนําสำหรับบ่าวสาว
ถ้ามีงบ แนะนำให้ใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์ : หากบ่าวสาวมีบัดเจ็ตมากพอ การจ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์จะช่วยให้เราไม่ต้องมานั่งปวดหัว ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง เพราะเขาจะเป็นที่ปรึกษา พร้อมดูแลเราตั้งแต่ต้นจนจบงาน ทำให้ทุกอย่างดูง่ายไปหมด อย่างของงานเราใช้บริการทีม Ladawan the Wedding Planner ซึ่งดูแลคู่เราดีมากจริง ๆ ถ้าไม่มีทีมลดาวัลย์ งานแต่งที่เป็นเหมือนความฝันนี้คงเกิดขึ้นได้ยาก
พักผ่อนให้พอและไม่ต้องกังวลมากไป : ก่อนวันแต่งงาน พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะถ้านอนน้อย ในวันงานเราจะไม่สดชื่น ที่สำคัญอย่ากังวลเกินไป ปล่อยใจให้ตัวเองมีความสุขกับโมเมนต์ตรงหน้าดีกว่า
เช็กความน่าเขื่อถือให้ดี : ไม่ว่าจะเลือกทีมงานหมวดใด พยายามเช็กข้อมูลให้เยอะที่สุด เช่น ดูภาพรวม ความนิยม รีวิวต่าง ๆ ประกอบกับควรทักไปพูดคุยสอบถาม เพื่อจะได้ดูว่าเขาตอบกลับเราอย่างไร ถ้าเป็นไปได้ ควรช่วยดูทีมงานที่ครอบครัวจ้างมาด้วย
ได้ฤกษ์แล้ว รีบจองทีมงาน : รู้วันแต่งงานแล้ว อยากให้รีบจองสิ่งสำคัญ ๆ เช่น โรงแรม ช่างแต่งหน้า ช่างภาพ เพราะบางทีหลายคู่อาจได้ฤกษ์แต่งงานตรงกัน ทำให้มีโอกาสที่ทีมงานยอดนิยมจะคิวเต็มไว
Photographer : Remind Photography, Smallmoon Photo