Rosewood Bangkok โรงแรมดีไซน์ Modern Luxury ห้องบอลรูมฟังก์ชันลงตัว พร้อมโคมไฟเพดานทรงคลื่น สวยแบบมีเอกลักษณ์
นีน่ากับเปี๊ยก (เจ้าบ่าว) มีงานแต่งในฝันที่เน้นความอบอุ่น ขณะเดียวกันก็ต้องมีความสวยงาม เก็บไว้เป็นความทรงจำดี ๆ ได้ด้วยค่ะ เราจึงให้ความสำคัญกับการเลือกสถานที่ โดยลิสต์โรงแรม Rosewood Bangkok (โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ) ไว้ เพราะก่อนหน้านี้ เราเคยไปทานอาหาร แล้วชอบทั้งรสชาติและ Vibes ของโรงแรมที่ดูสวยลักซ์ชัวรีค่ะ
พอไปสำรวจพื้นที่จัดงานก็ชอบเลย รู้สึกว่าการตกแต่งมีทิศทางเดียวกับสไตล์ของเรา นอกจากขนาดของห้องบอลรูมจะพอเหมาะต่อจำนวนแขก 200 ท่านแล้ว ยังชอบโคมไฟเพดานที่มีรูปทรงพลิ้วไหวคล้ายสายน้ำ ดูสวยหรูและมีเอกลักษณ์มากค่ะ ยิ่งเมื่อได้มางานเวดดิ้งแฟร์ที่โรงแรมจัด ก็ยิ่งทำให้เห็นภาพชัดขึ้น ว่าที่นี่จะเป็นสถานที่จัดงานแต่งในฝันของเราค่ะ
สวยหรู ดูแกลม กับธีมตกแต่งเหมือนย้อนเวลาสู่ยุคโรมัน
Classic / Vintage / Goddess คือ 3 คำนิยามของการตกแต่งงานเราค่ะ ซึ่งเราบอกถึงคอนเซ็ปต์และให้โจทย์ทีมตกแต่งว่า อยากให้งานดูแกรนด์ ย้อนยุคและมีเอกลักษณ์ โดยส่งเรฟเฟอร์เรนซ์ที่หาจาก Pinterest และ Instagram ค่ะ เราใช้ธีมสี Soft Color เลือกดอกไม้ในโทนฟ้า ชมพู โอลด์โรส และม่วงค่ะ ซึ่งทางทีมตกแต่งก็ผสมผสานแบบที่เราส่งไป จนได้สไตล์ที่ถูกใจค่ะ ซึ่งการตกแต่งโดยรวมเน้น 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ ผ้าม่าน ดอกไม้ และซุ้มโค้งโรมัน โดยส่วนตัวไม่ชอบฉากทึบ เลยใช้โครงสร้างแบบเปลือยหลัง เพราะอยากโชว์การตกแต่งของโรงแรมด้วยค่ะ
นีน่าขอพูดถึงแบ็คดรอปถ่ายภาพก่อน เพราะชอบมาก ตัวฉากมีการจัดพุ่มดอกไม้ฝั่งซ้ายและขวา ตกแต่งผ้าม่านน้ำตกไล่ระดับสไตล์โรงละคร ตรงกลางทำซุ้มโค้ง เติมลูกเล่นด้วยบันไดยกระดับ เพราะนอกจากจะดูเก๋แล้ว ยังสามารถยืนเพื่อไล่ระดับไม่ให้บังกันด้วยค่ะ
ตรงข้ามแบ็คดรอป เราตั้งโฟโต้บูธไว้ค่ะ เนื่องจากพื้นที่โรงแรมไม่กว้างนัก การเลือกโฟโต้บูธทรงตู้กล่องจะลงตัวพอดีค่ะ ส่วนแกลเลอรี เราเลือกฉากหลังเป็นแท่งทรงสูง ประดับภาพบ่าวสาวแทรกกับดอกไม้ค่ะ
ในห้องบอลรูม ฉากหลังบนเวทียังคงมีโครงสร้างสไตล์โรมัน เพื่อเป็นตัวยึดผ่าม่านไว้ค่ะ และเพิ่มพุ่มดอกไม้ให้เยอะกว่าแบ็คดรอป ด้วยลวดลายวอลเปเปอร์ของโรงแรมด้านข้างเวที ทำให้เราไม่ต้องเพิ่มการตกแต่งเลยค่ะ แถมทำให้ดูเป็นหนึ่งเดียวกันด้วย ส่วนเค้กแต่งงานเราเลือกเป็นสไตล์วินเทจเช่นกันค่ะ
งานเลี้ยงฉลองกระชับพิธี แถมไฮไลต์ First dance สุดโรแมนติก
ในช่วงเช้าวันแต่งงาน เราทำพิธีที่โบสถ์ก่อน ดังนั้นงานที่จัดขึ้นในโรงแรมจะมีเพียงงานเลี้ยงฉลองเท่านั้นค่ะ เมื่อเราแต่งตัวเสร็จแล้ว เราจะลงมาทำพิธียกน้ำชาจำนวน 11 คู่ ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จสิ้น ก่อนที่แขกจะทยอยมาในช่วง 6 โมงเย็น เราก็จะออกมารับแขกที่หน้าแบ็คดรอปต่อเลยค่ะ ซึ่งแขกจะได้รับของชำร่วยเป็นชาเขียวบรรจุในแพ็กเกจที่เข้าธีมสีของงานค่ะ
เราพยายามกระชับพิธีให้มากที่สุด เพราะไม่อยากให้แขกเบื่อค่ะ หลังจากที่ถ่ายรูปร่วมกับแขกเรียบร้อย กำหนดการต่อไปจะเปิดวีดีโอตอนทำพิธีที่โบสถ์ค่ะ เสร็จแล้วเราก็เดินเปิดตัวเข้าไปคู่กัน และขึ้นบนเวที ที่เชิญประธานมากล่าวคำอวยพร จากนั้นเราพูดความในใจของกันและกัน ต่อด้วยตัดเค้ก มอบเค้กให้ผู้ใหญ่ค่ะ
ด้วยความที่เราโยนดอกไม้ไปแล้วที่โบสถ์ คราวนี้เลยตั้งใจล็อคมง มอบช่อดอกไม้ให้เพื่อนสนิทที่ยังโสด 2 ท่านค่ะ ซึ่งเพื่อนก็เซอร์ไพรส์เบา ๆ จากนั้นเราปิดท้ายด้วย First Dance ในบทเพลง Stranger in the Night ของศิลปิน Frank Sinatra ค่ะ ตอนแรกนีน่าจะเต้นรำกับคุณพ่อก่อน แล้วคุณพ่อจะส่งให้เปี๊ยกมารับช่วงต่อค่ะ เป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ที่เราชอบมาก ๆ
จากนั้นจะเข้าสู่ช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ หลังจากที่เราเปลี่ยนชุดเรียบร้อย ก็กลับเข้ามาด้วยการรินแชมเปญทาวเวอร์ แล้วสนุกไปกับวงดนตรีสดแนวป๊อปยุค 90 ซึ่งจะต่างจากช่วงพิธีการที่เราเลือกดนตรีแนว Jazz ให้เหมาะกับงานสไตล์วินเทจคลาสสิก เราใส่ใจทุกดีเทล เพื่อให้ไม่หลุดธีมค่ะ
สำหรับอาหารจัดเลี้ยง เราเลือกเป็นเมนูค็อกเทลและเพิ่มซุ้มอาหารของโรงแรมประมาณ 4-5 ซุ้มค่ะ มีหมูกรอบ Porchetta, พาสต้า, ข้าวหมูแดง หมูกรอบ เกี๊ยวน้ำ และราดหน้าปลาเต้าซี่ค่ะ โชคดีที่ครอบครัวของเราสองคนให้อิสระในการตัดสินใจทุกอย่าง รวมถึงเมนูอาหาร ที่เราปรึกษาเซลล์เพื่ออาศัยประสบการณ์ของเขา ว่าเมนูไหนควรมีในงานแต่งค่ะ ฟีดแบ็กที่ได้รับก็ปลื้มปริ่มมากค่ะ เพราะแขกชมว่าอร่อย โดยเฉพาะหมูกรอบค่ะ และบอกตามตรงว่า เราไม่ค่อยเจออาหารค็อกเทลที่อร่อยทุกเมนู แล้วรสชาติไม่ชืดจนจบงานด้วยค่ะ
บ่าวสาวประทับใจงานเลิศ เก็บทุกโมเมนต์ใส่กล่องแห่งความทรงจำ
งานออกมาอบอุ่น เป็นกันเอง อย่างที่อยากได้ ซึ่งแขกก็รู้สึกรีแลกซ์และเอ็นจอยไปกับงานที่ไม่ได้มีพิธีเยอะแยะ พอทุกอย่างกระชับ ทําให้เราได้ใกล้ชิด พูดคุยกับแขกมากขึ้นค่ะ อีกทั้งเราเองก็ไม่คิดว่าจะได้งานที่เกินความคาดหมาย ซึ่งมาจากการที่ได้ทีมงานมืออาชีพ ทั้งทีมตกแต่ง ออแกไนซ์ รันคิว ช่างภาพ ทำให้เราไว้ใจ สามารถปล่อยให้เขาทํางาน โดยไม่ต้องกังวลเลยค่ะ
ในแง่ของโรงแรม เราประทับใจทุกอย่างค่ะ ตั้งแต่สไตล์การตกแต่งและตัวบุลคล ทั้งคุณพิมพ์ และ คุณซานดร้า Managing Director ที่น่ารักกับคู่เรามาก ๆ เขาเทคแคร์และให้คำแนะนำดีค่ะ สัมผัสได้ว่า เขาพยายามจัดสรรให้ได้ตามความต้องการมากที่สุด การบริการของพนักงานก็ใส่ใจดีค่ะ เราคิดถูกมากที่เลือกโรงแรม Rosewood ค่ะ
คําแนะนําสำหรับบ่าวสาว
เลือกสถานที่ที่เข้ากับธีมงาน : ดูสไตล์การตกแต่งของโรงแรมให้เหมาะกับธีมงาน เพราะถ้าสไตล์ของโรงแรมไปในทิศทางเดียวกับธีมงาน จะทําให้ตกแต่งง่าย แถมประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ
ไว้ใจให้ทีมงานที่เลือกได้ทำงานในสไตล์ของเขาเอง : ไม่ว่าเราจะเลือกทีมงานใดก็ตาม ทุกคนล้วนมีลายเซ็นเป็นของตัวเอง อยากให้เลือกทีมที่เราชอบผลงานจริง ๆ อย่าเอาเรฟเฟอร์เรนซ์ของเจ้าอื่นไปให้เขา ต้องยอมรับในสไตล์และปล่อยให้เขาโชว์ศักยภาพ บ่าวสาวจะได้ไปโฟกัสในส่วนอื่นต่อ
ไม่ต้องยึดแพทเทิร์นแบบเดิม : การแต่งงานในยุคนี้เริ่มเปิดกว้างมากขึ้น ไม่อยากให้บ่าวสาวยึดติดกับแพทเทิร์นเดิม ๆ เราสามารถ Custom พิธีแบบที่อยากให้มีได้ เพื่อที่จะได้มีเวลาไปพูดคุยกับแขก แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูตามความเหมาะสมของแต่ละครอบครัวด้วย
Enjoy The Moment : ท่องไว้ว่า วันนี้ฉันเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด ทุกคนรักฉัน หากมีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ปล่อยไป ไม่ต้องกังวล หรือจมกับความเครียด จนพลาดความสุขในปัจจุบัน เพราะในวันแต่งงาน ทุกอย่างผ่านไปเร็วมาก จงมีความสุขในทุกนาที เพื่อเก็บความทรงจําดี ๆ อยู่ใน Memory Box ของเรา
Photographer : Brilliant Day