PaR Wedding Planner พร้อมรับฟังทุกความต้องการ บริการครบวงจร ดูแลบ่าวสาวดีเหมือนญาติมิตร
ช่วง 3-4 เดือนแรกของการเตรียมงานแต่งงาน มายด์กับณุ (เจ้าบ่าว) หาฤกษ์ โรงแรม และชุดแต่งงานกันเองค่ะ แต่ต่อมาเราทั้งคู่งานยุ่งมากจนไม่มีเวลา แถมเริ่มเครียด เลยตัดสินใจว่าจะใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์ค่ะ ทั้งหาจากอินเทอร์เน็ตและถามเพื่อน ซึ่งตอนที่เราได้คุยกับพี่เส่ย PaR Wedding Planner (พาร์ เวดดิ้ง) ครั้งแรก เรารู้สึกถูกชะตาและสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากคนอื่น พี่เส่ยมีความอบอุ่น ใจเย็น เหมือนคุยกับพี่สาว แม้มีบางจุดที่เราเรื่องเยอะนิดนึง แต่เขาก็พร้อมรับฟังความต้องการของเราค่ะ
แม้เราจะคุยกับพี่เส่ยแค่ทางโทรศัพท์ แต่เราก็ตัดสินใจเลือกที่นี่ค่ะ เพราะนอกจากการเป็นผู้รับฟังที่ดีแล้ว เรายังชอบที่เขามีบริการครบวงจร ทั้งเวดดิ้งแพลนเนอร์ ออแกไนซ์ ตกแต่งงาน รวมถึงรันคิว เราจึงสามารถปล่อยให้เขาดูแลทั้งหมดได้เลย ช่วยสร้างความอุ่นใจได้เยอะค่ะ
ตกแต่งธีมสี Sunset หน้าหนังสือและความทรงจำตอนขอแต่งงาน
เราจัดงานแต่งที่ Capella Bangkok ค่ะ เพราะชอบโทนสีและการตกแต่งของโรงแรม ตอนแรกเราไม่มีธีมในใจเลยค่ะ พี่เส่ยจึงถามเรื่องราวความรักของเรา ตั้งแต่เจอกันที่ไหน ไปจนถึงขอแต่งงาน เลยได้คอนเซ็ปต์การตกแต่งที่มีดีเทลของคู่เราสอดแทรกอยู่ค่ะ โทนสีของงานเป็นสี Sunset อย่างแดง ชมพู ส้ม ที่มายด์ชอบ และไม่อยากได้สีเขียวเยอะ เพราะไม่อยากให้ดูเป็นป่าเกินไปค่ะ
ตรงโถงรับรองด้านนอก จะมีไฮไลต์คือโครงสร้างแบ็คดรอปถ่ายภาพ ที่เราอยากให้ดู Pop-Up พี่เส่ยเลยทำฉากแยกชิ้นและซ้อนกันให้ดูมีมิติ เพิ่มกิมมิกเหมือนกระดาษพลิกตรงมุมด้านล่าง สื่อถึงตัวตนของเราที่ชอบอ่านหนังสือทั้งคู่ หรือในอีกแง่คือเป็นการเปิดหนังสือบทใหม่ ที่เหมือนเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกันค่ะ
ส่วนการตกแต่งในห้องบอลรูมที่ใช้จัดทั้งพิธีหมั้นและเลี้ยงฉลอง บนเวทีได้แรงบันดาลใจมาจากสถานที่ที่เราขอแต่งงาน บนยอดเขาที่มีพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าพอดี ณ Edinburgh ประเทศสกอตแลนด์ค่ะ โดยโครงสร้างเล่นเคิร์ฟให้เหมือนภูเขา และรูปทรงครึ่งวงกลมด้านหลังแทนดวงอาทิตย์ มีการตกแต่งดอกไม้และผ้าให้ดูพลิ้วไหวขึ้นค่ะ รวมถึงแฮชแท็กงานที่สื่อถึงความรู้สึกของเราอย่าง #MGonCloudNine ที่แปลว่า มีความสุขมาก ๆ ค่ะ
งานหมั้นจีนและฉลองเที่ยงอบอุ่นใจ ไม่เร่งรีบ เพราะจัดซีเควนซ์ดี
ด้วยความที่เราทั้งคู่เป็นครอบครัวเชื้อสายจีน เลยเน้นพิธีจีนเป็นหลักค่ะ กำหนดการแรกจะเป็นแห่ขันหมาก ผ่านประตูเงิน-ประตูทอง โดยมายด์จะรอที่ห้องรับรองก่อนค่ะ แต่ก็แวะมาแอบดูได้บ้าง หลังจากณุเล่นเกมเสร็จ เขาจะไปเจรจาสู่ขอในห้อง ส่วนมายด์เดินไปที่คอร์ทยาร์ดเพื่อรอให้เจ้าบ่าวมารับตัวค่ะ
เมื่อเราได้เจอกันก็กลับมาทำพิธีมอบสินสอด สวมแหวน ทานขนมอี๋ และยกน้ำชา เสร็จแล้วก็กลับมาเข้าสู่งานฉลองช่วงเที่ยงค่ะ
แม้ว่าจะเป็นงานต่อเนื่องกัน แต่เราก็ไม่รู้สึกว่าต้องรีบเร่งเลยค่ะ เพราะพี่เส่ยจัดซีเควนซ์ของงานได้ดี ทำให้ในช่วงที่บ่าวสาวแต่งตัวมางานฉลอง ก็ยังพอมีเวลาทานข้าวด้วยค่ะ
สำหรับงานฉลอง แขกจะลงทะเบียนและถ่ายโฟโต้บูธกันก่อนค่ะ จนกระทั่งเราลงมา แขกก็ทยอยมาถ่ายภาพร่วมกันที่แบ็คดรอป จบคิวนี้ มายด์จะไปเปลี่ยนเป็นชุดที่เดินสะดวกสบายมากกว่า และเดินเข้างานไปกับคุณพ่อค่ะ ส่วนณุจะรอในห้องและเดินมารับที่กลางทาง
จากนั้นเราเดินไปด้วยกันผ่านเพื่อนบ่าวสาวที่ยิงเปเปอร์ชู้ตค่ะ เราชอบที่พี่เส่ยใส่ใจดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างคิวนี้ เขาบรีฟกับเพื่อน ๆ เราด้วย โดยให้เราเดินนำหน้าไปก่อนนิดนึง เพื่อนถึงค่อยยิงเปเปอร์ชู้ต ก็จะทำให้กระดาษไม่ติดหน้าเรา แถมยังได้ช็อตภาพที่สวยงามค่ะ
ตอนเราอยู่บนเวที พิธีกรจะเชิญประธานฝั่งบ่าวสาวทั้ง 2 ท่าน มากล่าวคำอวยพร ตามด้วยคุณพ่อคุณแม่ของเรา และเพื่อนบ่าวสาวรวม 4 คน มาพูด Speech ค่ะ
จากนั้นเราก็ไปตัดเค้ก มอบเค้กให้ประธาน รวมถึงคุณพ่อคุณแม่ และปิดท้ายงานเลี้ยงฉลองด้วยการโยนช่อดอกไม้ 1 ช่อใหญ่ ที่แตกกระจายเป็น 3 ช่อเล็ก เพื่อให้ได้ผู้โชคดี 3 ท่านค่ะ กิมมิกนี้ก็ได้พี่เส่ยแนะนำให้เหมือนกันค่ะ
บ่าวสาวแฮปปี้ แขกชื่นชมบรรยากาศดี งานนี้มีแต่คำว่าราบรื่น
เราดีใจที่แขกแฮปปี้และชมว่าแม้งานจะดูหรูหรา แต่ก็มีความอบอุ่นสอดแทรกอยู่ค่ะ ส่วนเพื่อนรุ่นเดียวกันก็ชมว่างานน่ารัก สะท้อนความเป็นตัวตนบ่าวสาวได้ดีค่ะ ซึ่งตรงกับความต้องการของเราที่ไม่อยากให้งานดูทางการ อยากให้แขกรู้สึกถึงความกันเองค่ะ
ส่วนตัวเราประทับใจโรงแรมที่สวยบรรยากาศดี อาหารอร่อย และช่างภาพที่ถ่ายภาพออกมามู้ดแอนด์โทนดี แถมรู้ว่ามุมไหนสวยและเก็บทุกซีเควนซ์ด้วยค่ะ
ส่วนสำคัญในงานต้องยกให้ PaR Wedding Planner ค่ะ เขาเข้าใจบ่าวสาวอย่างแท้จริง รู้ว่าแก้ปัญหาแบบไหน อย่างตอนที่มายด์เครียดและอาจไม่เข้าใจกับณุบ้าง ก็ได้พี่เส่ยมาเป็นคนกลาง ช่วยหาทางออกทำให้เราลดการทะเลาะกันได้ค่ะ
นอกจากนี้พี่เส่ยยังทำให้ประทับใจอีกหลายอย่าง เช่น ช่วยแนะนำชุดแต่งงานที่เหมาะกับเราที่สุด, การตกแต่งในงานก็สวยเกินกว่าที่คิดไว้มาก แถมยังช่วยดูงบประมาณให้ไม่บานปลาย รวมถึงคอยอัปเดตงบที่ใช้ไปและนัดหมายต่าง ๆ ช่วยเตือนความจำ ทำให้เราไม่ตกหล่นด้วยค่ะ พี่เส่ยใส่ใจรายละเอียดทุกอย่าง ทำให้เราไม่รู้สึกเหนื่อย เราว่าที่นี่เป็นคำตอบที่ดีในการจัดงานแต่งจริง ๆ และคิดถูกมากที่เลือก PaR Wedding Planner ค่ะ
คำแนะนำสำหรับบ่าวสาว
บ่าวสาวไม่มีเวลา ควรจ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์ : ข้อดีของการจ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์ คือ เขามีประสบการณ์เรื่องงานแต่งมากกว่า คอยช่วยจัดการและฟอลโลว์อัพงานต่าง ๆ ทำให้บ่าวสาวอุ่นใจยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือช่วยคุมบัดเจ็ตได้ เช่น ถ่ายพรีเวดดิ้งกับชุดแต่งงานใช้ที่เดียวกันจะประหยัดงบได้มากกว่า
บาลานซ์ความต้องการของทุกฝ่าย : บ่าวสาวทุกคู่ย่อมอยากให้งานมีตัวตนของเรามากที่สุด แต่ขณะเดียวกัน การฟังความเห็นของครอบครัวก็สำคัญ ฉะนั้นควรหาจุดร่วมตรงกลาง เพื่อให้ครอบครัวมีความสุขในวันสำคัญของเรา
ควรคุยกับผู้ใหญ่เรื่องธีมสี ป้องกันการเปลี่ยนแปลงทีหลัง : บางทีผู้ใหญ่จะถือเรื่องสีมงคล เช่น ไม่ควรตกแต่งงานด้วยสีม่วงหรือดำ ถ้าเรามีธีมสีในใจที่อาจไม่ใช่สีมงคล ควรแจ้งให้ท่านทราบก่อนก็ดี เพื่อที่จะได้รู้ฟีดแบ็ก และรู้ว่าควรแก้ไขอย่างไร เช่น การไล่เฉดสีให้ดูกลมกลืนยิ่งขึ้น
ช่วงเตรียมงานเป็นช่วงทดสอบความอดทน : การเตรียมงานแต่งมีดีเทลหลายอย่างที่ต้องตัดสินใจ และอาจมีบ้างที่ความเห็นไม่ตรงกัน อยากให้ค่อย ๆ คุยกันด้วยความประนีประนอม และระลึกไว้เสมอว่านี่เป็นช่วงเวลาทดสอบความอดทน แม้มีอุปสรรคเยอะก็ขอให้จับมือกัน เพราะเมื่อผ่านไปได้ จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์แนบแน่นมากขึ้น
Photographer : Take Photography