AUBE สถานที่จัดงานแต่งแห่งการโอบรับความสุข โดดเด่นด้วย Minimal Architecture
ตู่ (เจ้าสาว) กับมาร์ค (เจ้าบ่าว) ทำธุรกิจด้านเทคโนโลยี ก็อยากหาสถานที่ที่ตอบโจทย์สไตล์ของเราและมีความสว่าง ตอนเราเห็น AUBE (โอบ) ในอินเตอร์เน็ตก็ชอบ Architecture เพราะดูมีซิกเนเจอร์ แค่เห็นก็รู้เลยว่าเป็น AUBE ค่ะ พอเห็นสถานที่จริง ยิ่งรู้สึกว่าสวยกว่าในรูปอีก เป็นการไปดูสถานที่แต่งงานที่แรกและที่เดียวก็เลือกเลยค่ะ
เราชอบหลายอย่างของที่นี่ ตั้งแต่ห้องจัดงานที่รองรับแขกได้ถึง 400 ท่าน ความเป็นไพรเวทของสถานที่ ทั้งพื้นที่เป็นงานของเราคนเดียว รวมไปถึงคอนเซ็ปต์ของชื่อโอบ และความหมายของห้องต่าง ๆ ที่ฟังแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่นและมีความหมายดีค่ะ
นอกจากนี้ คุณแพรยังเป็นกันเอง เซอร์วิสดี เปิดรับไอเดียให้เราสามารถตกแต่งหรือทำอะไรได้เต็มที่ ไม่มีข้อจำกัด เพื่อให้เรานำเสนอสิ่งที่เป็นตัวตนของเราได้มากที่สุดด้วยค่ะ
สะท้อนตัวตนด้วยกิมมิกเทคโนโลยี พร้อมเนรมิตงานด้วยสีสันคัลเลอร์ฟูล
เราจัดงานหมั้นเช้า เลี้ยงฉลองเที่ยง และต่อด้วยงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ตอนบ่าย โดยต้องการให้งานสื่อถึงตัวตนเราที่สุด เราจึงใส่ใจทุกดีเทล ตั้งแต่การเลือกใช้สีสันคัลเลอร์ฟูลจัดจ้าน เพื่อให้งานดูสนุกสนาน ซึ่งเราระบุเฉดสีแบบเจาะจงด้วยค่ะ เช่น สีชมพูเฉดพีโอนี สีเหลืองทานตะวัน เป็นต้น
ยิ่งไปกว่านั้น เราคิดคอนเซ็ปต์งานในชื่อว่า ‘Love Across the Multiverse’ นิยามคือ เรามีหลายพาร์ทในช่วงชีวิตค่ะ เราทำงานด้วยกันก็เป็นมัลติเวิร์สหนึ่ง เรามีสังคมของเพื่อน ญาติ และหุ้นส่วน ก็เป็นอีกมัลติเวิร์สที่แตกต่างกันไป แต่ไม่ว่าเราจะอยู่มัลติเวิร์สไหน สิ่งหนึ่งที่มีอยู่ตลอด คือ ความรักที่เรามีให้กันค่ะ
เนื่องจากเราทำบริษัทเทคโนโลยี ก็อยากให้งานดูทันสมัย เลยเปิดแอคเคาท์ Instagram ที่รวมเรื่องราวของงานแต่ง ไว้ให้เพื่อนได้ติดตามกันตั้งแต่ก่อนเริ่มงานเลยค่ะ โดยเราจะบอกเล่าเรื่องราวผ่านภาพพรีเวดดิ้ง เช่น ภาพแนวสตาร์วอร์ส ถือดาบให้ฟีลล้ำสมัย ภาพเซ็ตเซี่ยงไฮ้ เหมือนภาพถ่ายแนวย้อนยุคของหว่อง กาไว หรืออย่างภาพชุดบ่าวสาว ก็เปรียบเหมือนยุคปัจจุบันที่เราทั้งคู่แต่งงาน ให้ทุกคนเตรียมมาเจอกันค่ะ ซึ่งภาพใน Instagram ทั้งหมด จะปริ้นท์มาตั้งด้านนอกอาคาร โดยมีเขียนคำอธิบายใต้ภาพถึงคอนเซ็ปต์นั้น ๆ ด้วยค่ะ
ส่วนภาพรวมของงาน เราเน้นตกแต่งพุ่มดอกไม้เฉดสีม่วง ชมพู และน้ำเงินค่ะ ต้องชื่นชมเลยว่าทาง AUBE ทำออกมาได้สวยทุกจุด ทั้งจุดที่แซมตามภาพบ่าวสาว บนเวทีของห้องหมั้น ไปจนถึงห้องจัดเลี้ยงฉลอง ที่ตกแต่งพุ่มดอกไม้ทั้งบนเวที และประดับบนโต๊ะ Long Table ถูกใจเรามากค่ะ
อีกไฮไลท์ที่สะท้อนความเป็นคู่เราได้ดี นั่นคือการเลือกใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศพิเศษ อย่างการนำจอ LED เข้ามาวางข้างเวทีในห้องจัดเลี้ยงฉลอง แบ็คกราวน์เป็นภาพพรีเวดดิ้งบ่าวสาว พร้อมกับคำอวยพรที่ได้จากแขกในจุดลงทะเบียนเข้าร่วมงานค่ะ
แทนที่จะใช้สมุดอวยพรแบบที่เราคุ้นเคย เราเลือกใช้ iPad เพื่อให้แขกได้เขียนคำอวยพรถึงบ่าวสาวด้วยลายมือตัวเอง จะตกแต่งข้อความหรือลองพิมพ์เองก็ได้ตามใจเลยค่ะ ทุกคำอวยพรของแขกก็จะขึ้นวนตลอดทั้งงาน ยิ่งทำให้บรรยากาศงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นค่ะ
อีกทั้งระบบอวยพรออนไลน์นี้ เราทำเป็นลิงก์ส่งให้แขกที่ไม่สามารถมาร่วมงาน เขียนอวยพรได้ด้วยค่ะ ซึ่งคำอวยพรเหล่านี้จะถูกแสดงทั้งบนจอ บน Instagram และ มีไลฟ์ด้วยค่ะ
โอบรับความอบอุ่นเต็มที่ในพิธีหมั้นเช้า
สำหรับพิธีหมั้นเราหาชุดให้เพื่อนบ่าวสาวด้วยค่ะ จะได้ดูเป็นทีมเดียวกัน และเรายังเสิร์ฟอาหารให้แขกตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งข้าวต้มปลา เบเกอรี และเพิ่มบูธกาแฟสด รวมถึงขนมจีบจากร้านอาหารจีน ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวมาร์คค่ะ
พิธีการของเราเริ่มด้วยแห่ขันหมาก เราใช้พร็อพที่มีให้แบบจัดเต็ม ช่วยสร้างสีสันในงานได้ดีมากค่ะ อย่างป้ายถือตัวอักษรจีน และหัวสิงห์ที่ไว้ให้เพื่อน ๆ สวมมือตอนกั้นประตูเงิน-ประตูทองค่ะ
หลังจากมาร์คผ่านด่านครบถ้วนและไปสู่ขอผู้ใหญ่เรียบร้อย ตู่ที่ตอนแรกยืนรออยู่ตรงจุดไฮไลท์ข้างบน จะเดินลงมานั่งตรงซุ้มดอกไม้ เพื่อให้มาร์คมารับตัวและเดินไปห้อง Moon Struck ด้วยกัน ก่อนจะพิธีมอบสินสอดต่อ จากนั้นจะทานขนมอี๋ก่อน ตามด้วยพิธีสวมแหวนและยกน้ำชาค่ะ
งานฉลองตอนกลางวัน แอลกอฮออล์ฟรีโฟลว์ ต่อด้วยปาร์ตี้สนุกเต็มกราฟ
งานฉลองของเรามอบของชำร่วยให้แขกเป็นน้ำผึ้งใส่ขวดทรงแชมเปญ เพื่อให้ Relate กับพิธีรินแชมเปญทาวเวอร์ที่เราเลือก และจัดเลี้ยงเครื่องดื่มแอลกอฮออล์ตลอดทั้งวันเลยค่ะ
คิวแรกเราจะเปิดตัวบ่าวสาวเลย มีกิมมิกน่ารัก ๆ จากการได้ลูกหลานเพื่อน ๆ พี่ ๆ มาเป็น Flower Girl เดินนำหน้า ซึ่งเราก็หาชุดสีสันสดใสให้เด็ก ๆ ด้วยค่ะ
กระทั่งเราอยู่บนเวทีแล้ว ต่อมาจะเชิญพี่คนสนิทที่ทําให้เราสองคนได้เจอกันขึ้นมากล่าว Speech ถึงค่อยเป็นเราเล่าเรื่องราวความรักต่อกันและกัน จากนั้นจะเข้าสู่ช่วงประกาศรายชื่อแขกที่แต่งตัวโดดเด่นโดนใจ เพื่อมอบของรางวัลให้ 5 ท่านค่ะ
แจกรางวัลเสร็จแล้ว ก็ถึงช่วงรินแชมเปญทาวเวอร์ และปิดงานด้วยการตัดริบบิ้นช่อดอกไม้ ที่จะตัดไปทีละเส้นจนได้ผู้โชคดีมารับดอกไม้บนเวทีค่ะ
หลังจบพิธีการแล้ว เราก็มีเวลาไปเก็บตกถ่ายรูปกับแขก ทั้งด้านนอกและในห้องงานหมั้น ที่ยังคงการตกแต่งไว้อยู่ค่ะ
ช่วงที่เราไปเปลี่ยนชุดเพื่อมางานปาร์ตี้ เราได้เพื่อนเจ้าบ่าวเป็นเบียร์บอยคอยแจกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงาน ส่วนผู้หญิงจะถือตะกร้าแจกคุกกี้สายเขียวค่ะ จากนั้นเราทั้งคู่จะกลับมาด้วยชุดสีขาวแต่งปอมปอมหลากสี ถือปืนวอดก้า และเปิดตัวด้วยการฉีดวอดก้าลงแก้วที่เรียงแถวแบ่งเป็นฝั่งเพื่อนเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าสาวค่ะ โดยเราจะให้เพื่อน ๆ มาแข่งกันดื่ม ฝั่งไหนหมดก่อนชนะ สรุปก็คือฝั่งเจ้าสาวหมดก่อนค่ะ
งานปาร์ตี้ของเราให้ดีเจมาเปิดเพลง ที่เราใส่ใจคัดเพลงโปรดตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย บางเพลงก็มีความหมายสำคัญที่อยากให้เพื่อน ๆ ได้นึกถึงวันเก่า ๆ พร้อมกับเอ็นจอยไปกับบรรยากาศค่ะ ขอบอกว่าการจัดปาร์ตี้ตอนกลางวัน แขกได้สังสรรค์กันแบบเห็นหน้าเห็นตากัน และความสนุกก็ไม่ได้ลดลงเลยค่ะ
ในส่วนของอาหารจัดเลี้ยง เราเลือกเป็น Heavy Cocktail ที่แม้จะจัดอาหารแบบเป็นคำ แต่ก็อิ่มได้ค่ะ มีทั้งข้าวผัด ต้มยํา สปาเกตตี้ และมีนำเข้าเมนูหอยจ้อปูกับกระเพาะปลาหน้าปูล้น จากร้านครัวสยาม จ.นครปฐม ของบ้านมาร์คด้วยค่ะ
อีกอย่างที่เราประทับใจ คือ แคทเทอริ่งที่เป็นพาร์ทเนอร์ของ AUBE เขาคิดเมนูค็อกเทลสูตรพิเศษให้บ่าวสาวโดยเฉพาะ โดยจะทําเครื่องดื่มเชคกันสด ๆ หน้างานเลย ซึ่งมี 2 เมนู ทั้งค็อกเทลเป็นตัวแทนเจ้าบ่าว และม็อกเทลเป็นตัวแทนเจ้าสาว โดยเขาคิดค้นสูตร มิกซ์รสชาติ หน้าตา และสีของเครื่องดื่มให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของงานเราเลยค่ะ
บ่าวสาวดีใจได้จัดงานถ่ายทอดตัวตน และได้เห็นรอยยิ้มของแขก
เราทั้งคู่คิดโปรเจกต์และเตรียมงานเองทุกขั้นตอน เพราะต้องการถ่ายทอดเรื่องราวให้เป็นตัวเรามากที่สุด พอเห็นภาพรวมงานวันนั้น ทำให้เราประทับใจในทุกจุดเลยค่ะ โมเมนต์ที่เห็นได้ชัดเจน คือ การได้เห็นรอยยิ้มของทุกคน ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูอบอุ่น เอ็นจอย และการจัดงานกลางวันก็มีข้อดีตรงที่เห็นทุกคนชัดเจนในความสว่าง แถมแขก ๆ กลับบ้านปลอดภัย เราก็สบายใจค่ะ
ต่อมาคือความประทับใจต่อทุกทีมงาน ที่แม้จะมาจากต่างที่มา แต่ทุกคนทำงานร่วมมือกันอย่างเป็นทีมเวิร์คมาก ที่สำคัญคือเราประทับใจ AUBE มาก ทั้งสถานที่และทีมงานที่ให้คําแนะนําดี พร้อมซัพพอร์ตในหลาย ๆ ด้าน เช่น เวลาเราต้องทำงานหลายอย่าง เขาจะคอยช่วยรีมายด์บางอย่างที่เราอาจหลงลืมไป ด้วยความมืออาชีพของเขาเลยทำให้เราอุ่นใจ ลดความกังวลไปได้เยอะค่ะ
แถมในวันแต่งงาน ไม่ว่าเรามองไปทางไหนก็จะเห็นทีม AUBE แสตนด์บาย และคอยเฝ้าดูเหมือนเป็นแบ็คให้เรา หากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เขาพร้อมเข้าช่วยแก้ปัญหาทันที อยากขอบคุณทุกคนจริง ๆ ที่มีส่วนร่วมทำให้งานเราสมบูรณ์แบบค่ะ
คําแนะนําสำหรับบ่าวสาว
จัดงานแบบที่เป็นตัวเอง : ถ้าเป็นไปได้อยากให้บ่าวสาวเลือกจัดงานแต่งที่สะท้อนตัวตนของทั้งคู่มากที่สุด พอได้งานที่เป็นตัวเอง เราก็จะไม่รู้สึกเกร็งหรืออึดอัดอะไรเลย เรารู้สึกสบายใจและ Happy มาก ๆ งานจะตอบทุกอย่างไปโดยปริยาย แถมยังทำให้เราภูมิใจในความตั้งใจทำงานนี้ให้กับแขกทุกคน มองไปตรงไหนก็เห็นแต่โมเมนต์ที่มีความสุข และจะเป็นความทรงจำที่ดีของเราไปตลอดทั้งชีวิตค่ะ
สรุปจํานวนแขกให้ใกล้เคียงความจริงที่สุด : จำนวนแขกเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสโคปทุกอย่างในงานแต่งให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด แถมช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ เช่น การเลือกสถานที่แต่งงานที่ตอบโจทย์จำนวนแขก การกำหนดปริมาณอาหารและเครื่องดื่ม ที่สอดรับกับจำนวนแขกในจำนวนที่พอดีและเหมาะสม
เลือกสถานที่และทีมงานที่ทำให้เรามั่นใจ : ก่อนตัดสินใจเลือกเวนเดอร์เจ้าไหน อยากให้รู้ถึงสไตล์ที่เราชอบและดูผลงานที่ผ่านมาของเขาให้เยอะ ก็จะช่วยให้ได้ทีมที่แมทช์กับสไตล์ของเรา และทำให้วันสําคัญของเราน่าประทับใจยิ่งขึ้น
หาวันแต่งงานให้ได้ก่อนเป็นอย่างแรก : เป็นธรรมดาหากบ่าวสาวมือใหม่จะงง และไม่รู้จะต้องเริ่มจากตรงไหน อยากบอกว่าหลังจากคุยกับครอบครัวลงตัวแล้ว ให้รีบมองหาวันแต่งงาน กำหนดมาสัก 2-3 วัน เมื่อได้วันแล้ว ทุกอย่างจะตามมาเอง เช่น ต้องรีบหาสถานที่ ช่างแต่งหน้า ช่างภาพ เพราะมักเป็นเวนเดอร์ที่คิวเต็มไวและส่วนใหญ่ต้องจองข้ามปี
เจ้าสาวเผื่อเวลาทำสวยอย่างน้อย 3 เดือน : ในมุมมองของผู้หญิง เรื่องความสวยความงามเป็นสิ่งสำคัญ อยากให้เจ้าสาวน้องใหม่เผื่อเวลาเตรียมหน้า ไม่ว่าจะเป็นทาครีมบำรุงผิวหรือเข้าคลินิกทำหัตถการต่าง ๆ เช่น โบท็อกซ์ ควรเผื่อเวลาล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน เพราะทุกอย่างจะเข้าที่ และช่วยให้เจ้าสาวสวยมั่นใจในวันพิเศษได้ค่ะ
Photographer : bridiful