Hyatt Regency Bangkok โรงแรมสุดหรู สไตล์โมเดิร์น เดินทางง่าย ติดถนนสุขุมวิทและใกล้ BTS นานา
เนตรกับพี่ท๊อป (เจ้าบ่าว) ตั้งใจจัดงานหมั้นกับงานแต่งแยกวันกัน เพราะไม่อยากเหนื่อยเกินไป เลยมองหาโรงแรมไว้จัดเลี้ยงโดยเฉพาะ โดยต้องรองรับแขกราว 500 คนได้ เราหาข้อมูลจาก Sabuywedding ก็เจอโรงแรม Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit (ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท) ซึ่งโลเคชั่นอยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้ BTS เดินทางสะดวก ทั้งโทนสีและสไตล์ของโรงแรมก็สวยหรู ห้องบอลรูมเพดานสูง ได้ความโปร่งดีด้วยค่ะ
พอได้คุยกับพี่นก Wedding Specialist ก็ประทับใจเลย เขาพยายามเลือกวันเข้าไปดูสถานที่จริงให้ตรงกับที่มีจัดงานแต่ง จะได้เห็นภาพยิ่งขึ้น สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกที่นี่ค่ะ
ตกแต่งบนความเรียบง่าย แต่ได้ความสวยหรู มีเสน่ห์
งานนี้มีแขกผู้ใหญ่มาร่วมมากถึง 70% เนตรเลยไม่กำหนดธีมสี Dress Code ของแขก เพราะไม่อยากไปบังคับให้ท่านต้องแต่งตัวตามธีมค่ะ พอแขกใส่สีอะไรก็ได้ สีตกแต่งก็ควรเป็นโทนสีกลาง ๆ เรียบง่าย ใครใส่สีไหนมาก็ยังเข้ากับการตกแต่งได้ จึงลงตัวในกลุ่มสีเอิร์ธโทน ม่วงอ่อน และชมพูอ่อนค่ะ
ตัวแบ็คดรอปด้านนอกกับด้านในห้องบอลรูม เราเน้นเล่นเคิร์ฟและเทกซ์เจอร์ให้มีมิติ แต่ก็ต่างกันตรงที่ฉากในห้อง เราเติมลูกเล่นด้วยการทำเฉียงลงด้านหนึ่งค่ะ และจัดวางดอกไม้ในตำแหน่งองศาไม่เหมือนกัน แถมใช้ดอกไม้เยอะกว่า โดยจัดเป็นพุ่มขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้ดูสวยเต็มตาค่ะ
อีกสิ่งที่เราตั้งใจเลือกก็คือของชำร่วยค่ะ เป็นการ์ดโฮลเดอร์หนัง เราพยายามเลือกของขนาดเล็ก เพื่อให้แขกพกง่าย หรือเก็บใส่กระเป๋าใบเล็กได้ อีกทั้งเป็นของที่เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัยด้วยค่ะ
พิธีการครบถ้วน แพลนเวลาดี ไม่มียืดเยื้อ
ด้วยความที่งานเราแขกเยอะ เราใช้เวลายืนต้อนรับและถ่ายภาพกับแขกตรงแบ็คดรอปนานพอสมควรเลยค่ะ ดังนั้นบนเวทีเราก็ตั้งใจแล้วว่าจะไม่ใช้เวลายืดเยื้อเกินไปค่ะ พอเปิดวีดิโอพรีเซนเทชั่นแล้วเราเดินเปิดตัวคู่กันขึ้นเวที โดยมีเพื่อน ๆ โปรยกลิตเตอร์
จากนั้นก็เริ่มด้วยประธานกล่าวอวยพร บ่าวสาวขอบคุณแขก พูดความในใจต่อกันอีกนิดหน่อย ก็ลอดซุ้มกระบี่เพื่อไปตัดเค้ก มอบเค้กให้ผู้ใหญ่ และจบพิธีด้วยโยนช่อดอกไม้ค่ะ
หลังจากนั้นก็ให้แขกเอ็นจอยและรีแลกซ์ไปกับวงดนตรีทรีโอ้ แบนด์ ที่ได้แพลนเนอร์ดูแลมู้ดแสง สี ยิ่งทำให้ช่วงจบงานเหมือนอาฟเตอร์ปาร์ตี้ไปโดยปริยายค่ะ
พอมีแขกผู้ใหญ่เยอะ เราต้องใส่ใจคัดสรรอาหารจัดเลี้ยงเป็นพิเศษ เราใช้เมนูค็อกเทล และเพิ่ม Food Station เช่น ข้าวหน้าเป็ด ข้าวมันไก่ ข้าวซอยไก่ ซูชิ Roasted Sirloin Beef แซลมอนอบเกลือ พาสต้า และเกี๊ยวน้ำกุ้ง ถือว่าค่อนข้างเยอะค่ะ ซึ่งแขกส่วนใหญ่แฮปปี้และชมว่าอาหารอร่อย โดยเฉพาะ Roasted Sirloin Beef และข้าวซอยไก่ค่ะ
ที่แขกชมอีกอย่างคือมุมค็อกเทลที่อาหารไม่พร่องเลย มีพนักงานคอยเติมตลอด ทำให้ยังคงความสวยของการตกแต่งจัดวางอาหารได้ดี ซึ่งเราเซอร์ไพร์สเหมือนกันว่าจุดเล็ก ๆ นี้ แขกก็สังเกตเห็นค่ะ
งานแต่งเต็มเปี่ยมด้วยความรักและผ่านไปได้ด้วยดี
เราตื้นตันใจที่เห็นเพื่อน ๆ มากันเยอะ แถมทุกคนช่วยเหลืองานเราเต็มที่ค่ะ ส่วนแขกผู้ใหญ่เองก็ตั้งใจมาแสดงความยินดีเกินความคาดหมาย ซึ่งการที่เราได้เห็นทุกคนแฮปปี้ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้วค่ะ
เนตรต้องขอบคุณพี่ท๊อปที่คอยอยู่เคียงข้าง แม้ช่วงเตรียมงาน เราจะได้ยินเพื่อนบอกว่าให้ระวังไว้ เพราะมีโอกาสทะเลาะกันได้ง่าย แต่คู่เราไม่มีเลย พี่ท๊อปพยายามเข้าใจเนตรเสมอ กระทั่งวันแต่งงาน เราอาจตื่นเต้น กังวล แต่พี่ท๊อปก็คอยจับมือและให้กำลังใจตลอดเลยค่ะ
ทีมงานที่เราเลือกมาก็ดีจริง ๆ ค่ะ ทีมแพลนเนอร์ควบคุมดูแลงานดี และทีมตกแต่งที่ดีไซน์งานออกมาสวยกว่าตอนเห็น 3D มาก ส่วนทางโรงแรม ประทับใจพี่นก ที่ดีลงานง่าย คอยรีเช็กตลอดว่าเราเตรียมงานถึงไหนแล้ว ที่สำคัญสามารถแก้ปัญหาได้อย่างมืออาชีพ อย่างวันงาน เรามีแขกมาเกินกว่าที่ตั้งไว้ราว 20% แต่ทางพี่นกรีบแจ้ง พร้อมเสนอทางออกและจัดการแก้ไขปัญหา เช่น เพิ่มปริมาณอาหาร แล้วประสานงานกับออแกไนซ์ หรือส่วนต่าง ๆ ต่อทันที ทำให้เรารู้สึกสบายใจและอุ่นใจว่ามีทีมงานคอยซัพพอร์ตอยู่ข้างหลัง คิดถูกที่เลือกจัดงานโรงแรมนี้ค่ะ
คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว
ถ้าไม่มั่นใจ ควรใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์ : หากบ่าวสาวมีเวลาเตรียมงานกระชั้นชิด หรือไม่มั่นใจว่าเราจะจัดการงานเองทั้งหมดได้ ควรพึ่งเวดดิ้งแพลนเนอร์ เพราะเขาจะนำความมืออาชีพและประสบการณ์มาช่วยดูแลงานแต่ง ทำให้เราไม่เครียด ไม่เหนื่อย เหมือนได้มีที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำอยู่ใกล้ ๆ
แนะนำให้ชิมอาหารก่อน : อาหารเป็นสิ่งที่จะสร้างความประทับใจให้แขกได้ ฉะนั้นควรชิมว่ารสชาติเป็นอย่างไร อีกทั้งการเลือกเมนูก็สำคัญ ควรเลือกให้หลากหลาย และไม่ใช่แค่เลือกตามความชอบของบ่าวสาวเท่านั้น แต่ควรเลือกตามกลุ่มวัยของแขกด้วย
บ่าวสาวควรหาข้อสรุปตรงกลางเพื่อความเข้าใจกัน : ช่วงเวลาเตรียมงานจะมีดีเทลมากมาย อยากให้บ่าวสาวคุยกันอย่างประนีประนอม เพื่อหาสิ่งที่ชอบและข้อสรุปไปในทิศทางเดียวกัน เพราะสิ่งสำคัญกว่างานแต่งคือความรู้สึกของกันและกัน