รีวิวงานแต่งสวยคลีนในสไตล์ Long Table ได้ความอบอุ่นเต็มพื้นที่ @Millennium Hilton Bangkok

Millennium Hilton Bangkok สถานที่แต่งงานริมน้ำ จัดพิธีได้หลากหลายบรรยากาศ ฟังก์ชั่นห้องสวยลงตัว พร้อมเซอร์วิสได้มาตรฐานและรสชาติอาหารถูกปาก

       ด้วยความที่ดัง (เจ้าบ่าว) ทำงานอยู่สิงคโปร์ การเซอร์เวย์สถานที่จะให้อ๊อฟเป็นคนเลือกว่าอยากไปดูที่ไหน อ๊อฟเลยเป็นคนทำการบ้านเรื่องสถานที่เป็นหลัก ซึ่ง Millennium Hilton Bangkok (โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ) ก็เป็นที่ที่เราสนใจ พอได้คุยกับเซลล์เรื่องแพ็กเกจ ราคาก็ไม่ได้แรงอย่างที่คิด ยิ่งเห็นสถานที่จริงก็ยิ่งชอบ เพราะมีหลายซีน สามารถทำพิธีเช้าริมแม่น้ำได้ และทำพิธีอื่น ๆ ในห้อง ซึ่งแกรนด์บอลรูมของที่นี่สวยอยู่แล้ว ไม่ต้องตกแต่งอะไรมาก ที่สำคัญเพดานสูงโปร่ง ไม่อึดอัด เพราะคุณพ่อของอ๊อฟเป็นคนกลัวที่แคบค่ะ ดูมาหลายที่ ที่นี่ตอบโจทย์หลายอย่าง บริการก็ครบ ทำให้เราไม่ต้องกังวลในการจัดงานแต่งเลยค่ะ  

งานหมั้นสวยอบอุ่น ในบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา

       เราจัดพิธีสงฆ์บริเวณริมแม่น้ำ ตั้งแต่สวดมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายปิ่นโตพระ ซึ่งได้ทางโรงแรมดูแลการตกแต่งให้ค่ะ นอกจากการจัดวางเก้าอี้และอุปกรณ์ต่าง ๆ สิ่งที่แตกต่างจากที่อื่นก็คือ เขาจะมีจอ LED ขึ้นโลโก้ให้เราด้วยค่ะ แล้วบรรยากาศริมน้ำก็อบอุ่น น่ารัก ถ่ายรูปออกมาสวยค่ะ  

       พอเสร็จพิธีสงฆ์แล้ว ครอบครัวของดังก็จะเริ่มตั้งขบวนขันหมากจากด้านในโรงแรม เพื่อเข้ามาทำพิธีหมั้น สวมแหวน รดน้ำสังข์ที่ห้องธนบุรีบอลรูมค่ะ

       ตอนแรกก็กลัวเหมือนกันว่าตอนแห่ขันหมากจะอ่อมไหม เพราะเราไม่ได้ขนเพื่อนมากั้นประตูเยอะ แต่พอเวดดิ้งแพลนเนอร์ให้ดูไลฟ์จากมือถือว่าเจ้าบ่าวกำลังผ่านประตูมานะ ก็เห็นว่าทั้งเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาวและญาติ ๆ ของเราทำการบ้านมาดี ทำให้ทุกอย่างสนุก และดีที่เราเลือกแห่ขันหมากจากในอาคาร อากาศไม่ร้อน เจ้าบ่าวและแขกก็เลยทำพิธีได้สบาย ๆ ค่ะ

       เมื่อแห่ขันหมากเรียบร้อย ดังก็จะเข้ามาเจรจาสู่ขอในห้อง และออกมารับตัวอ๊อฟที่รออยู่ตรงโถงบันไดค่ะ เพราะมีแสงธรรมชาติ ถ่ายรูปสวยและอยู่ใกล้ห้องที่ทำพิธี จากนั้นค่อยกลับมาสวมแหวน รดน้ำสังข์ และทำพิธีส่งตัวที่ห้องพักของโรงแรมค่ะ

       ช่วงงานเช้าเรามีอาหารเสิร์ฟทั้งคอฟฟี่เบรก ข้าวหมูแดง เป็ดย่าง ข้าวต้มปลา และของหวานข้าวเหนียวมะม่วงค่ะ ซึ่งส่วนหนึ่งที่เราเลือกโรงแรมนี้เพราะไปสืบมาจากเพื่อนที่เคยจัดงานที่นี่ว่าอาหารอร่อย และตอนที่เทสติ้งเมนู ก็รู้สึกว่าอาหารไทยทำได้ถูกปากครอบครัวด้วยค่ะ ถ้าใครเน้นอาหารไทยอร่อย เราว่าที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะคะ

ตกแต่งตามแบบที่ชอบ โทนสีขาวคลีน และอยู่ในบัดเจ็ท

       งานเย็นเราจ้างทีมงานข้างนอกเข้ามาตกแต่งค่ะ เน้นเรียบ ๆ สีขาว สีครีม เพราะเราไม่ชอบการตกแต่งเยอะ แบ็กดรอปใช้ฉากสีขาวสูงประดับโลโก้บ่าวสาว ฟอนต์เส้นสายบาง ๆ แล้วเพิ่มสีสันด้วยดอกไม้โทนสีชมพู พีช ขาว ให้ดูสบายตาค่ะ โดยมีโซนแกลเลอรีตามที่ดังขอ เป็นบอร์ดสีขาวเรียบ ตกแต่งด้วยรูปแนวไลฟ์สไตล์ของพวกเราค่ะ ทำให้ดูเหมือนเข้าไปอยู่ในแกลเลอรีศิลปะ

       ภายในห้องบอลรูม บนเวทีมีเพียงฉากที่ใช้จอ LED ขึ้นโลโก้บ่าวสาวและใช้ฉายวิดีโอช่วงพรีเซนเทชั่น รวมถึงเล่นเกม Bride and Groom Quiz ค่ะ โดยมีโต๊ะของบ่าวสาวประดับด้วยดอกไม้โทนสีขาว-ครีมแบบที่ชอบ ดูเข้ากันกับจุดวางแชมเปญทาวเวอร์ที่โรงแรมตกแต่งดอกไม้ให้ค่ะ

       เนื่องจากอ๊อฟอยากได้งานแต่งสไตล์ฝรั่ง คนน้อย ๆ มานั่งทานข้าวร่วมกัน และเรามีแขกผู้ใหญ่วัยเกษียณเยอะ ก็เลยเลือกจัดเป็น Long Table ให้แขกจำนวน 240 ท่านได้นั่งกันสบาย ๆ ดูเป็นระเบียบ แขกทุกคนสามารถโฟกัสกับงานเราได้ ประกอบกับตอนเลือกเมนูอาหาร รู้สึกว่าบุฟเฟ่ต์นานาชาติจะถูกใจเรามากกว่าด้วยค่ะ ซึ่งบนโต๊ะก็จะตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวและชมพูค่ะ

พิธีฉลองสั้นกระชับ ไม่มีประธาน แต่เน้นสปีชจากคนสนิท

       งานฉลองช่วงเย็น แขกจะได้รับของชำร่วยเป็นสบู่น้ำนมข้าว ซึ่งตอนพี่สาวอ๊อฟแต่งงาน แล้วอ๊อฟเคยใช้ มองว่าคุณภาพดี แขกน่าจะชอบและได้ใช้จริง ฟีดแบ็กที่ได้ก็ดีตามคาดค่ะ คุณพ่อของดังยังถามว่าซื้อมาจากที่ไหน อยากได้เพิ่มค่ะ

       เราอยากให้งานชิล ๆ เลยไม่ได้มีประธานมากล่าวอวยพรหรือคล้องพวงมาลัย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือแขกผู้ใหญ่เยอะเหมือนเดิม (หัวเราะ) อันนี้ต้องคุยกับที่บ้านให้ดี ๆ คอนเฟิร์มว่าแขกเท่าไร ขนาดเราคุยแล้ว แต่พอใกล้ ๆ งาน ก็มีแขกคุณพ่อคุณแม่มาเพิ่ม ซึ่งจะมีผลกับการสั่งอาหารและผังที่นั่ง เพราะเราจะต้อง Fix ว่าแขกแต่ละคนนั่งตรงไหน แต่เราแก้ปัญหาด้วยการให้คนของฝั่งผู้ใหญ่มาช่วยจัดที่นั่งให้แขกในวันงานด้วยค่ะ  

       พอเราไม่มีพิธีการเยอะ เลยให้พิธีกรช่วยรันพิธีให้ เริ่มด้วยการฉายวิดีโองานหมั้นตอนเช้า และเปิดตัวบ่าวสาว โดยอ๊อฟเดินเข้ามากับคุณพ่อ ดังเดินมารับตรงกลางห้อง แล้วพาขึ้นเวทีไปด้วยกันค่ะ จากนั้นก็เปิดวิดีโอพรีเซนเทชั่นที่ทำเองให้แขกได้รู้จักเราสองคน ตามด้วยเริ่มเสิร์ฟอาหารให้บ่าวสาว เราก็ทานข้าวร่วมกันกับแขก สลับกับเล่นเกม Kahoot ตอบคำถาม 3 คนแรกที่ตอบถูกมากที่สุดและเร็วที่สุดก็จะได้รางวัลเป็นข้าวสามสีค่ะ

       เสร็จจากเล่นเกม เราก็จะให้คุณพ่อ คุณแม่ รวมถึงเพื่อนบ่าวสาวฝั่งละ 2 คน ขึ้นมากล่าวสปีชบนเวที ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอยากได้อยู่แล้วค่ะ เพราะจะได้โมเมนต์ที่ซาบซึ้งและอบอุ่นมาก ๆ จบด้วยเราสองคนพูดความในใจต่อกัน ตามด้วยรินแชมเปญ มอบเค้กให้ผู้ใหญ่ แล้วก็โยนดอกไม้ค่ะ  

       จริง ๆ ทางโรงแรมก็มีเค้กแต่งงานให้ แต่เราไม่อินกับการตัดเค้ก เลยเอาเค้กที่เป็นชิ้น ๆ มอบให้ผู้ใหญ่แทนค่ะ ส่วนตอนโยนดอกไม้ เราคุยกับเพื่อน ๆ ไว้ก่อนว่า ช่วยออกมายืนหน่อย เพราะแขกผู้ใหญ่เยอะ กลัวไม่มีสาวโสดออกมาค่ะ

ประทับใจโรงแรมดูแลดี อาหารอร่อย แพลนเนอร์จัดการให้ได้ดั่งใจ  

       สิ่งที่แขกพูดตั้งแต่หลังจบงานเลยคืออาหารอร่อยค่ะ ตอนแรกก็กังวล เพราะคิดว่าแขกผู้ใหญ่จะทานไม่เยอะ แต่ปรากฏว่าอาหารเหลือน้อยมาก และด้วยโรงแรมฟรีซุ้มอาหาร 1 อย่าง เราจึงเอาไอศกรีมมหาชัยมา แขกก็ชอบค่ะ ทานหมดเลย รวมถึงโรงแรมให้ห้องพักสวีทที่กว้างขวาง เห็นวิวแม่น้ำชัดเจน ซึ่งวันแต่งงานเรามีทีมงานเยอะมาก ทั้งเวดดิ้งแพลนเนอร์ ช่างภาพ วิดีโอ ข่างแต่งหน้า ห้องกว้างแบบนี้เหมาะเลยค่ะ เพราะถ้าห้องเล็ก คนจะแน่นไปหมด รู้สึกเลยว่าที่นี่คือ good choice ของเราค่ะ

       ส่วนคุณบิ๋ม เซลล์ของโรงแรมก็ละเอียด ให้คำแนะนำดี ขนาดชุดรดน้ำสังข์ก็ส่งแบบมาให้เลือก ทำให้เรามีไอเดียจัดงานให้ดีอย่างที่ตั้งใจ ทีมเวดดิ้งแพลนเนอร์และออแกไนซ์ก็เก่งหน้างาน ทำให้เราไม่ต้องคิดอะไร แค่ทำตามแพลนเนอร์บอกเลยค่ะ  

คำแนะนำสำหรับบ่าวสาว

ตั้งบัดเจ็ทแล้ว ให้เผื่อไว้อีก 20-30% : งานแต่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้เงิน พอเราตั้งงบไว้แล้ว จะต้องเผื่อไว้ในใจเลยว่าถ้าบวกเพิ่มไปแล้วอยู่ในระดับที่เรารับได้ไหม จะได้ไม่ทะเลาะกันภายหลังว่าเกินบัดเจ็ท เพราะงานครั้งหนึ่งในชีวิต เราก็จะค่อนข้างทุ่ม เช่น รูปแบ็คดรอปอาจแอดเรื่อง QR code เพื่อให้แขกสแกนรับภาพได้ทันที ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเราว่าโอเคที่จะจ่ายเพิ่มไหม

แม้เราจะจ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์ ก็ต้องทำการบ้านเองด้วย : เวดดิ้งแพลนเนอร์ช่วยคัดหาสิ่งที่เหมาะกับบ่าวสาวได้ก็จริง แต่เราจะต้องรู้ว่าเราชอบอะไร อยากได้แบบไหน ให้บ่าวสาวลองไปดูไอเดียจาก IG, pinterest หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ถ้าเราไม่รู้ใจตัวเองเลย การทำงานก็จะยาก 

บ่าวสาวอยู่คนละที่ ยิ่งต้องคุยกัน : ต้องสื่อสารให้เข้าใจและแม้เจ้าบ่าวจะตามใจเจ้าสาว ให้ตัดสินใจเองได้เลย แต่เจ้าบ่าวก็ควรมีส่วนร่วมด้วย เช่น เจ้าสาวอาจคัดแบบที่ชอบมาไม่เกิน 5 แบบ เพื่อปรึกษากับเจ้าบ่าว แล้วค่อยนำไปตัดสินใจ 

Photographer : FAIPHOTO, BRILLIANTDAY PHOTOGRAPHY, Remind_Photography