The Okura Prestige Bangkok โรงแรมสวยสไตล์ญี่ปุ่น เดินทางง่าย ใกล้ BTS เพลินจิต
ทรายกับไวท์ (เจ้าบ่าว) จัดงานแต่งที่ The Okura Prestige Bangkok (โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ) เพราะส่วนตัวชอบเชนโรงแรมสัญชาติญี่ปุ่น ประกอบกับอาหารที่นี่อร่อยค่ะ อีกทั้งโลเคชั่นใกล้รถไฟฟ้าด้วย ช่วยให้แขกเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ส่วนห้องแกรนด์ บอลรูม เราชอบตรงเพดานสูงและมีชั้นลอยที่สามารถทำเป็นดับเบิ้ลสเตจได้ พอเห็นก็คิดภาพออกเลยว่าจะใช้เป็นกิมมิกตอนเปิดตัวค่ะ
งานหมั้นตกแต่งด้วยความเรียบง่ายที่แสนหวาน
เราจัดงานหมั้นเช้าที่ห้อง 'SORA' ค่ะ อยากให้งานดูอบอุ่น จึงตกแต่งเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความละมุนจากการใช้สีพาสเทลค่ะ โดยเราตกแต่งทั้งจุดรับตัวเจ้าสาว ที่เซ็ตดอกไม้ให้ชูช่อ 2 ข้าง ส่วนในห้องจัดงาน เราตกแต่งตั้งแต่ทางเดินบ่าวสาวสองข้างเลยค่ะ โดยบนเวทีมีลูกเล่นที่โครงวงกลมกระจกตั้งไว้ตรงกลางและตกแต่งดอกไม้แบบเล่นระดับค่ะ และความพิเศษอีกอย่างคือ เราสั่งตัดชุดให้เพื่อน พร้อมกระเป๋าเข้าเซ็ตด้วยค่ะ
ส่วนพิธีการเริ่มจากไวท์แห่ขันหมาก มารับตัวเจ้าสาว จากนั้นก็กลับมาทำพิธีในห้อง มีทั้งมอบสินสอด สวมแหวน ทานขนมอี๋ รดน้ำสังข์ค่ะ
จบพิธีนี้เราก็ไปเปลี่ยนชุดเพื่อลงมายกน้ำชา ขณะเดียวกัน แขกจะทานอาหารที่เราจัดเตรียมไว้ให้ ทั้งอุด้งเทมปุระ เกี๊ยวน้ำ ข้าวหมูแดง หมูกรอบ และเมนูกระเพาะปลาค่ะ พอเรายกน้ำชาเสร็จแล้ว ก็ไปส่งตัวบนห้องพักของโรงแรมค่ะ
งานฉลองธีม ‘คัลเลอร์ฟูล พาสเทล’ สวยหวานด้วยดอกไม้เสมือนจริง 100%
เราเลือกใช้ดอกไม้ปลอมตกแต่งในงานทั้งหมด เพราะทรายแพ้เกสรดอกไม้ค่ะ แต่เราก็พยายามคัดดอกไม้ที่ดูสมจริงที่สุดมาตกแต่ง เพราะรู้สึกว่า 'ดอกไม้’ เป็นตัวแทนสื่อถึงความสวยงามได้อย่างชัดเจนค่ะ
โดยเราต้องการงานฉลองที่สวยละมุน ผสานความโรแมนติก จึงใช้ธีมสีเดียวกับงานหมั้นและบรีฟทีมตกแต่งเพิ่มว่าขอดอกไม้แน่น ๆ พร้อมตกแต่งเทียน และไฟดวงกลมไว้ในทุกส่วนค่ะ ส่วนโครงสร้างต่าง ๆ นั้น เราขอให้มีความมนและโค้ง เพราะที่บ้านถือเรื่องนี้ค่ะ
จะเห็นได้ว่าองค์ประกอบที่เราต้องการ ถูกตกแต่งตั้งแต่โซนแกลเลอรี ที่ใช้ภาพติดทั้งบนบอร์ดแนวยาวและเติมด้วยภาพที่ได้คัทวงกลมแยกออกมาค่ะ ส่วนแบ็คดรอปเราทำฉากให้สูงเกือบชนเพดานเลยเพราะอยากให้ดูสวยแกรนด์ ตัวฉากดีไซน์ให้เว้าลึกลงไปตรงกลางและเล่นเส้นสายลายโค้งด้วยสีทองค่ะ
นอกจากนั้น เรายังทำอุโมงค์ดอกไม้ที่ประดับตรงพื้นและห้อยลงมาจากด้านบน สลับกับดวงไฟ คลุมด้วยผ้าสีดำ ตั้งช่วงทางเข้าไปสู่ห้องบอลรูม เพราะอยากให้แขกรู้สึกพิเศษและปรับอารมณ์ก่อนเข้าไปในงานค่ะ
บนเวทีภายในห้องบอลรูมเราจัดเต็มมากค่ะ ใช้ดอกไม้สีสันสดใสแต่งเยอะเป็นพิเศษ ให้ล้อกับการทำฉากเวทีที่กว้างและสูง เพราะเราทำบันไดเหล็กเชื่อมไปสู่ชั้นลอยอย่างที่ตั้งใจไว้ว่าจะใช้ตอนเปิดตัวค่ะ
ช่วงงานเย็น หลังจากแขกลงทะเบียนรับของชำร่วยเป็นที่เปิดขวดแม็กเน็ตแล้ว เราจะปล่อยให้แขกเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งถ่ายรูปโฟโต้บูธ และให้แขกเขียนอวยพรลงในอะคริลิกรูปหัวใจ เขียนเสร็จแล้วก็หย่อนลงกล่องได้เลย พอจบงาน เราจะได้นั่งอ่านคำอวยพรเหล่านั้นทีละชิ้นค่ะ
เมื่อได้เวลา เราเปิดตัวด้วยการเดินลงมาจากชั้นลอย และไปนั่งที่โต๊ะบ่าวสาว พร้อมรับประทานอาหารร่วมกันกับแขก ระหว่างนี้ก็เปิดวีดีโอช่วงงานหมั้นกับพรีเซนเทชั่นเรื่องราวความรักของเราให้แขกได้รับชมด้วยค่ะ
อีกโมเมนต์ที่น่าจดจำ คือน้องสาวของทรายอยากมีส่วนร่วมในวันสำคัญนี้ เลยคิดโชว์พิเศษด้วยการให้เพื่อนของน้องสาว 2 คนมาเป่าแซกโซโฟน บรรเลงเพลงเพราะ ๆ ให้เราค่ะ
จบช่วงนี้ พิธีกรก็ให้บ่าวสาวพูดถึงกันและกัน ตามด้วยขอบคุณแขก จากนั้นก็ไปรินแชมเปญทาวเวอร์ มอบเค้กให้คุณพ่อและคุณแม่ ต่อด้วยกลับมานั่งฟังเพื่อน ๆ รวม 5 ท่าน พูดความในใจ และโยนดอกไม้ปิดงานค่ะ
งานนี้เราตั้งใจจัดโต๊ะแบบ Sit down dinner เพราะอยากให้แขกมีที่นั่งครบทุกท่าน จะได้เอ็นจอยกับอาหารเต็มที่ เรามองว่าเป็นภาพที่สวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อยค่ะ โดยเราจัดเลี้ยงอาหารเป็น Full Course Western Set Menu เช่น เมนู Hamachi Ceviche, Japanese Wagyu Tenderloin และ Hokkaido Milk Cheese Cake ค่ะ
โรงแรมก็น่ารักมาก อย่างในเซ็ตเมนูเขามีบริการขนมปังให้ตลอด แล้วก่อนหน้านี้เขาสอบถามเราว่าอยากได้ขนมปังแบบไหน ซึ่งเราเคยมาทานอาหารที่ร้าน 'Element' แล้วชอบขนมปังชาร์โคลเลยอยากให้มีในงาน แต่ด้วยความที่ตัวขนมเป็นสีดำอาจไม่เหมาะกับงานมงคลนัก เราเลยขอปรับเป็นขนมปังใส่บีทรูทแทน ทางโรงแรมก็จัดให้ได้ตามต้องการค่ะ
งานอบอุ่น สวยงาม และเต็มไปด้วยความประทับใจ
เรื่องแรกที่เราประทับใจ คือ บรรยากาศของงานแต่งที่ดูชิล อบอุ่น กันเองอย่างที่อยากได้ค่ะ และอีกสิ่งสำคัญ คุณฝน เซลล์ของโรงแรมค่ะ ที่น่ารัก คุยกันรู้เรื่องตั้งแต่วันแรก และคอยตอบข้อสงสัยเราตลอด เวลาที่เราเจรจาต่อรองเงื่อนไขต่าง ๆ เขาก็ยืดหยุ่นให้เสมอค่ะ
ส่วนพนักงานก็ใส่ใจการบริการดีเช่นกัน แม้กระทั่งดีเทลเล็ก ๆ อย่างอาหารเมนู Full Course วันแต่งงาน เราสังเกตว่าแต่ละพอร์ชั่นใหญ่และให้ปริมาณเยอะขึ้นเมื่อเทียบกับตอนที่เราไป Food Testing ค่ะ ส่วนตัวมองว่าเขามีความเอาใจเขามาใส่ใจเราพอสมควรเลยค่ะ
คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว
นับจำนวนแขกให้ชัวร์ที่สุด : สิ่งสำคัญที่บ่าวสาวควรใส่ใจ คือ เช็กจำนวนแขกให้ดี และควรคุยกันให้ได้คำตอบชัดเจนว่าทางครอบครัวแต่ละฝั่งมีแขกกี่คน เพราะพอเราได้จำนวนแขกแล้ว ก็ต้องมาดูต่อว่าอยากจัดเลี้ยงแบบไหน บุฟเฟ่ต์ โต๊ะจีน หรือ Long Table เพราะจำนวนแขกและรูปแบบการจัดเลี้ยงมีผลต่อการเลือกขนาดห้องจัดงาน หากตัวเลขแขกยังไม่นิ่ง แต่เลือกสถานที่จัดงานไปแล้ว เมื่อต้องปรับหรือ เปลี่ยนแปลงก็จะยาก