Kalanan Riverside Resort สถานที่แต่งงานริมแม่น้ำ ย่านนนทบุรี โดดเด่นด้วยสวนร่มรื่น บรรยากาศดี
สตีฟกับขิง (เจ้าสาว) มีโจทย์ว่าอยากจัดงานเอาท์ดอร์ เลยเลือกดูสถานที่แต่งงานที่มีสวนและเทียบกันว่าสวนแบบไหนที่เราชอบ ซึ่ง Kalanan Riverside Resort (กาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท) เป็นช้อยส์แรก ๆ ที่เราสนใจ เลยลองไปดูเวดดิ้งโชว์เคสกันก่อนครับ พอได้เห็นรูปแบบการตกแต่งและสถานที่จริงแล้ว เราตัดสินใจจัดงานแต่งงานที่นี่เลย เพราะโลเคชั่นอยู่ริมน้ำ สวนสวยมีเอกลักษณ์ พื้นที่กว้างขวาง บรรยากาศโปร่งสบาย รองรับแขกได้ถึง 400 ท่าน มีมุมสวยให้ถ่ายรูปได้หลากหลาย แถมใกล้บ้านเจ้าสาวด้วยครับ
White & Green ธีมสีที่ผสานกับสวน “สราญรมย์”
เราเลือกธีมสีตกแต่งงานเป็นสีขาวและสีเขียว เพราะดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับสวน ส่วน Dress Code เลือกเป็นสีเขียวและสีฟ้าครับ
สำหรับการตกแต่งทั้งหมด จะรวมอยู่ในแพ็กเกจที่เราเลือก ซึ่งเราแทบไม่ต้องออกไอเดีย หรือบรีฟอะไรมากมายเลย เพราะทางสถานที่มีรูปแบบโครงสร้างการตกแต่งที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว ซึ่งเราชอบผลงานตั้งแต่เห็นในงานเวดดิ้งโชว์เคสแล้วครับ จึงมีปรับดีเทลเล็กน้อยเท่านั้น
หลัก ๆ จะมีแกลเลอรีบ่าวสาวสีขาว ตั้งวางเรียงประมาณ 10 รูป ใกล้กันเป็นแบ็คดรอปถ่ายภาพ ที่มีลูกเล่นใช้ฉากหลากขนาดและรูปทรงมาประกอบกัน แต่งด้วยใบไม้และดอกไม้สีขาวครับ
ส่วนบนเวทีทำเป็นฉากแนวตั้ง ตรงกลางซ่อนไฟให้เหมาะกับงานกลางคืน และเพิ่มแท่นสีขาวตั้งแบบทิ้งระยะห่าง ตกแต่งด้วยดอกไม้ครับ รอบ ๆ ตกแต่งไฟปิงปองเพื่อเพิ่มความสว่าง และตรงกลางเราตั้งแชมเปญทาวเวอร์ และโดนัททาวเวอร์ แซมด้วยดอกไม้ตามธีมสีของงานครับ เรานำโดนัทเข้ามาใช้แทนเค้กงานแต่ง เพราะขิงมองว่าน่ารักดี เป็นกิมมิกในงานได้ครับ
เรายังมีกิมมิกน่ารัก ๆ อีก โดยไดคัทรูปน้องหมาและน้องแมวที่เราเลี้ยงไว้มาตกแต่งตรงจุดลงทะเบียน เพราะอยากให้เขามีส่วนร่วมในงานของเราครับ ส่วนของชำร่วยเลือกเป็นกระจกพกพาและน้ำผึ้ง แขกจะได้มีตัวเลือก ซึ่งผลสุดท้ายปรากฏว่าแขกงานเราชอบน้ำผึ้งมากกว่าครับ
เจ้าบ่าวร้องเพลงให้เจ้าสาว กลายเป็นไฮไลต์ของงาน
งานเลี้ยงฉลองของเรามีแขกประมาณ 180 ท่านครับ หลังจากที่ถ่ายภาพกับแขกตรงแบ็คดรอปเสร็จแล้ว เราจะฉายวิดีโอพรีเซนเทชั่นก่อน แล้วค่อยเปิดตัวบ่าวสาว คิวนี้ผมจะเปิดตัวจากจุดตั้งวงดนตรีสด และร้องเพลง ‘คู่ชีวิต’ ของ Cocktail ขณะเดินไปรับตัวขิงจากทางเข้างาน จากนั้นถึงเดินกลับมาทางเวที ผ่านเพื่อน ๆ ที่โปรยดอกไม้ครับ
เมื่อเราอยู่บนเวที พิธีกรจะเชิญประธานมากล่าวคำอวยพร แล้วต่อด้วยครอบครัวของเรา รวมถึงเพื่อนบ่าวสาว 4 ท่านมาพูด Speech ครับ
หลังจากนั้นเราก็ลงจากเวทีไปโรยไอซิ่งบนโดนัท ซึ่งจะแจกโดนัทให้แขกในงานได้กินไปพร้อม ๆ กันครับ ต่อด้วยรินแชมเปญทาวเวอร์ และกลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง เพื่อกล่าวความในใจและดึงริบบิ้นดอกไม้ เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีครับ
เราเลือกจัดรูปแบบโต๊ะเป็น Long Table แต่จะมีเฉพาะโต๊ะ VIP 2 โต๊ะเท่านั้นที่เป็นโต๊ะกลมครับ ส่วนอาหารจัดเลี้ยงเป็นเมนูบุฟเฟ่ต์ ซึ่งเน้นอาหารไทยเป็นหลักครับ เพราะที่นี่เขาขึ้นชื่อเรื่องอาหารไทยอยู่แล้ว
ความอบอุ่นเต็มพื้นที่ งานนี้สุดราบรื่น
อย่างแรกที่เราประทับใจ คือ บรรยากาศที่อบอุ่นมาก ชอบทุกพิธีการเลยครับ รู้สึกว่าเป็นวันของเราจริง ๆ จากการได้เห็นสายตาของแขกที่จ้องมองเราด้วยรอยยิ้ม ยิ่งตอนผมร้องเพลงเปิดตัว แขกเองก็เซอร์ไพร์ส นับว่าเป็นโมเมนต์ดี ๆ แถมเรายังได้เป็นตัวเอง ไม่รู้สึกเครียดอะไรเลยครับ
อีกเรื่องหนึ่ง ก่อนหน้านี้ขิงไม่ให้ผมไปดูตอนลองชุดเจ้าสาวเลย พอถึงวันจริง ผมเห็นขิงในชุดเจ้าสาวและเป็น First reaction เลยก็ว่าได้ วันนั้นเจ้าสวยสวยมากครับ เป็นอีกโมเมนต์ที่ช่วยให้เรามีความทรงจำดี ๆ ร่วมกันครับ
เบื้องหลังงานนี้ ต้องบอกว่าเซลล์ดูแลเราดีตั้งแต่วันแรกจนถึงวันแต่งงาน ทั้งอัปเกรดห้องพัก เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้ รวมถึงเรื่องบริการ อย่างโดนัทที่เราเอาเข้ามาเอง สถานที่ก็จัดพนักงานมาช่วยจัดเรียงให้ การเสิร์ฟเครื่องดื่มและอาหารต่อเนื่องดีมาก ทำให้เราไม่ต้องกังวล ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีจริง ๆ ครับ
คำแนะนำสำหรับบ่าวสาว
เลือกทุกอย่างให้สอดคล้องกับรูปแบบงาน : ไม่ว่าเราจะจัดงานแบบไหน ต้องคำนึงถึงปัจจัยรอบด้าน เช่น ถ้าอยากแต่งงานในสวน ก็ควรเลือกจัดช่วงปลายปี เพื่อเลี่ยงฝน และคิดเรื่องการแต่งหน้า แต่งตัวให้เหมาะสมกับงานเอาท์ดอร์
โฟกัสที่ตัวเองเป็นหลัก : ใครจะแนะนำอะไรก็ตาม ถ้าในมุมมองของเราคิดว่าไม่เหมาะ ก็ไม่จำเป็นต้องทำตาม ให้เลือกตามความชอบของเราก่อน เวลาเห็นงานที่มีแต่สิ่งที่เราอยากได้ก็จะสบายใจ
คำนวณแขกให้ดี เพราะส่งผลต่อการจัดโต๊ะอาหาร : จำนวนแขกมีผลในเรื่องการจัดรูปแบบโต๊ะ ถ้ายังไม่ชัดเจน การจัดโต๊ะจะไม่คงที่ ทำให้เราปวดหัวระหว่างเตรียมงานได้
เผื่อบัดเจ็ตไว้ เพราะยังไงก็บานปลาย : แม้เราจะตั้งงบไว้แล้ว แต่ระหว่างทางในช่วงเตรียมงาน อาจนึกไอเดียใหม่ ๆ เพื่อเป็นกิมมิกในงานขึ้นมา เช่น ดนตรี เพิ่มของชำร่วย โฟโต้บูธ ฯลฯ จึงควรเผื่องบประมาณจากที่ตั้งไว้ด้วย แต่พยายามคุมให้ไม่บานปลายจนเกินไป เราจะได้มีทุกอย่างตามที่ต้องการ
Photographer : Sasori Studio