รีวิวงานแต่งสุดละมุนสี Soft Colorful พิธีไม่เยอะ แต่อิ่มใจและอิ่มท้อง @ Impact Wedding

Impact Wedding สถานที่แต่งงานตอบโจทย์ทุกไซส์งาน แพ็กเกจคุ้มค่า พร้อมเซอร์วิสครบครัน

       เบสท์กับการ์ตูน (เจ้าสาว) มีเวลาเตรียมงานแต่งประมาณ 1 ปี เราหาข้อมูลจนมาเจอ Impact Wedding (อิมแพ็ค เวดดิ้ง) หลังจากนัดวอล์คอินเข้าไปดู และลองเปรียบเทียบกับที่อื่น สุดท้ายเราเลือกที่นี่ เพราะตอบโจทย์หลายอย่างครับ ตั้งแต่ห้องจัดงานที่มีให้เลือกหลากหลายไซส์ อย่างงานเราใช้ห้อง Amber 1-3 ซึ่งภายในตกแต่งสวยงาม มีแชนเดอเลียร์ที่เสริมให้ตัวห้องดูหรูขึ้น แถมยังมีที่จอดรถเยอะ และมีสำรองไว้ให้เราได้สูงถึง 50 คันเลยครับ

จัดงานหมั้นแบบทางการในบรรยากาศ Homey  

        ทางอิมแพ็คเขาดูแลเรื่องการตกแต่งให้ด้วย ซึ่งสไตล์ของเราทั้งคู่ชอบความพอดี เรียบง่ายอยู่แล้ว การตกแต่งที่เขาทำให้เราจึงตอบโจทย์มากครับ สำหรับงานหมั้น ตรงเวทีจะเป็นผนังโค้งดีไซน์สวยงามอยู่แล้ว เราจึงประดับเพียงชื่อบ่าวสาว และมี Flower Stand ใช้ดอกไม้สีฟ้า ชมพู และขาว ตั้งสองข้างเวที เพียงเท่านี้งานก็สวยแล้วครับ

       เนื่องจากเราจัดพิธีหมั้นช่วงบ่าย ผมเลยสั่งข้าวกล่องจากอิมแพ็คมาให้แขกได้ทานกันก่อน เพราะคิดว่าแขกน่าจะไม่ได้ทานกันมา เมื่อเรียบร้อยแล้ว เราถึงเริ่มพิธีด้วยการแห่ขันหมากผ่านประตูเงิน-ประตูทอง ซึ่งคิวต่าง ๆ ของช่วงนี้ เราได้ทีมออแกไนซ์ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับอิมแพ็คมาช่วยดูแลให้ การได้ทีมที่มีประสบการณ์ทำให้เราไม่ต้องกังวลกับพิธีทางการเลยครับ        

       หลังจากผมเข้าไปเจรจาสู่ขอกับญาติผู้ใหญ่เสร็จ ผมจะเดินมาพร้อมแม่เจ้าสาว เพื่อไปรับการ์ตูนที่นั่งรออยู่ด้านนอก เรียบร้อยแล้วเราจะกลับเข้ามามอบสินสอด สวมแหวน และปิดท้ายด้วยยกน้ำชาครับ

       ช่วงที่พวกเราต้องไปเปลี่ยนชุดสำหรับพิธีถัดไป เราเตรียมของว่างให้แขกทานระหว่างรอด้วยครับ  

งานแต่งละมุนสี Soft Colorful พิธีการไม่เยอะ เน้นให้แขกเอ็นจอย

       เรายังคงความเรียบง่ายในงานเลี้ยงฉลอง โดยใช้ธีมสี Soft Colorful เหมือนในงานหมั้น เพราะเราไม่ชอบการตกแต่งที่ดูหวือหวาหรืออลังการเกินไปครับ เราเลือกแบบที่อิมแพ็คมีอยู่แล้ว แต่มา custom เพิ่มตามชอบ อย่างตรงโถงทางเดิน เรามีแบ็คดรอปถ่ายภาพที่ใช้ผ้าม่านสีขาว สร้างความละมุนนุ่มนวลเป็นพื้นหลัง และตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสี ส่วนแกลเลอรีบ่าวสาวจะเป็นการแขวนภาพบนโครงเหล็ก จัดวางฝั่งละ 4 ภาพสองข้างทางเดินครับ

       ภายในห้องจัดงาน เราประดับเทียนปลอมตลอดสองข้างทางเดินเปิดตัวบ่าวสาวเลยครับ ส่วนบนเวทีมีวาง Flower Stand ไล่ระดับ และตกแต่งดอกไม้ที่พื้นเวทีด้วยครับ

       หลังจากถ่ายภาพกับแขกครบถ้วนแล้ว เราจะเปิดตัวคู่กันเดินเข้างานและขึ้นเวที พิธีกรเชิญประธานขึ้นมากล่าวคำอวยพร ต่อด้วยเราพูดความในใจต่อกัน จากนั้นเราจะไปตัดเค้ก รินแชมเปญทาวเวอร์ และจบคิวสุดท้ายของงานด้วยการดึงริบบิ้นช่อดอกไม้ครับ แม้งานเราจะไม่มีงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้จริงจัง แต่ด้วยความที่เสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว เลยเลิกดึกไม่ต่างกันครับ

       อาหารจัดเลี้ยงงานนี้ เป็นเมนูโต๊ะจีนที่มาจากห้องอาหาร Fisherman ครับ ซึ่งเราประทับใจรสชาติตั้งแต่ตอนฟู้ดเทสติ้ง ผมกำชับกับทีมงานเลยว่า ให้เสิร์ฟต่อเนื่องเลย เพราะกำหนดการงานเราไม่ได้เยอะมากครับ แขกจะได้ไม่ต้องรอนานเกินไป สามารถเอ็นจอยกับอาหารไปได้เรื่อย ๆ โดยเมนูที่เลือกมามีประมาณ 9-10 อย่าง เช่น เป็ดปักกิ่ง กระเพาะปลาผัดแห้ง ขาหมูยัดไส้ ซี่โครงหมูลำไย ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว ฯลฯ แขกบอกว่าทานกันอิ่มมากเลยครับ

ประทับใจงานสวย สมูธ เพราะบริการจากทีมงานเป็นหลัก

       เราประทับใจมากที่บรรยากาศในงานออกมาดูสวยอบอุ่น แขกชอบและชมงานเราเยอะมากครับ ส่วนสถานที่อย่างอิมแพ็ค เราก็ประทับใจหลายอย่าง ทั้งสต๊าฟที่เต็มใจให้บริการ ขออะไรไปเขาก็หาให้เราได้หมด มีความยืดหยุ่น ใส่ใจบ่าวสาว คอยช่วยประสานงานเรื่องที่พัก และหาของแถมในส่วนของสปามาให้เราเพิ่มด้วย

       ผมเลยคิดว่าแพ็กเกจงานแต่งของที่นี่คุ้มค่าจริง ๆ ครับ เพราะเราสามารถจัดงานแบบคุมบัดเจ็ตได้ โดยแทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติม เหมือนจ่ายเท่านี้คือจบเลย เราอยากขอบคุณทั้งสถานที่และสต๊าฟของอิมแพ็คจริง ๆ ครับ  

คำแนะนำสำหรับบ่าวสาว

สถานที่ดี ทีมงานต้องพร้อม : นอกจากจะเลือกสถานที่ดี สวยงาม และตอบโจทย์ความต้องการของเราแล้ว อยากให้ลองพิจารณาทีมงานก่อนการตัดสินใจด้วย ดูว่าเขาพร้อมซัพพอร์ตเหมือนเป็นเพื่อนคู่คิดของเราได้ไหม เพราะถ้าเราได้ทีมงาน เซลล์ หรือคนประสานงานที่เต็มใจช่วยเหลือ พร้อมให้บริการ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้งานแต่งของเราราบรื่นขึ้น  

คำนึงถึงที่พักแขก : หากบ่าวสาวคู่ไหนมีแขกที่เดินทางมาไกลจากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ควรสำรองห้องพักให้แขกในละแวกใกล้เคียงกับที่จัดงาน และควรเลือกในราคาที่เรารับไหว รวมถึงต้องจองล่วงหน้านานหน่อย ไม่งั้นห้องพักอาจเต็ม และทำให้เราต้องไปเลือกห้องที่อยู่ไกลมากขึ้น

วางแผนดี มีแต่ราบรื่น : สิ่งสำคัญข้อแรกคือควรคุยกับผู้ใหญ่ให้เคลียร์ตั้งแต่เริ่ม เพราะบางทีท่านอยากออกความเห็น หรือมีแขกที่อยากเชิญมา เราจะได้เอามาพิจารณาด้วย อีกข้อคืออยากให้เผื่อเวลาเตรียมงานอย่างน้อย 6 เดือน เพราะงานแต่งมีดีเทลเยอะมาก ทั้งอาหาร ธีมงาน สถานที่ ยิ่งมีเวลาเตรียมนานเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะจะทำให้เรามีเวลาเปรียบเทียบทีมงานและสถานที่ ทำให้โอกาสได้เจอที่ที่ดีตรงใจเรายิ่งขึ้น

Photographer : Saturday Photographer