รีวิวงานแต่งไซส์เล็กสไตล์ Homey ได้วิวสวนกลางเมือง @Grande Centre Point Terminal 21 Bangkok

Grande Centre Point Terminal 21 Bangkok โดดเด่นด้วยพื้นที่จัดงานหลากสไตล์ ห้องบอลรูมสวยโมเดิร์นและสวนบนดาดฟ้าวิวเมือง เดินทางง่าย ใกล้ทั้ง MRT และ BTS

       ปุ้ยกับโก้ (เจ้าบ่าว) จัดงานแต่งงานช่วงหลังโควิด 19 ซาได้ไม่นานค่ะ ปัจจัยหลักอยากได้โรงแรมใจกลางเมือง เดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า เพราะมีญาติจากต่างจังหวัดมาร่วมงานเยอะค่ะ เราทั้งหาโรงแรมเองและมีรุ่นพี่แนะนำมา นั่นคือ Grande Centre Point Terminal 21 Bangkok (แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 กรุงเทพฯ) ซึ่งตอบโจทย์ทุกอย่างค่ะ แถมห้องหมั้นและห้องเลี้ยงฉลองอยู่ชั้นเดียวกัน แขกผู้ใหญ่ไม่ต้องเดินไกล ได้พื้นที่เป็นส่วนตัวด้วยค่ะ

       เราชอบที่ด้านบนของโรงแรมมีพื้นที่เอาท์ดอร์เป็นสนามหญ้ากว้าง สามารถนำมาเป็นกิมมิกในช่วงแห่ขันหมากได้ หรือหากบ่าวสาวคู่ไหนอยากจัดงานสไตล์ค็อกเทล เราว่าตรงนี้เหมาะมากค่ะ เพราะบรรยากาศดี วิวสวย และมีสระว่ายน้ำเป็นอีกมุมในงานแต่งด้วยค่ะ

เนรมิตงานด้วยสีโรสโกลด์ ชมพู ส้ม สร้างความหวานและอบอุ่น

       เราตั้งใจให้งานแต่งของเราเป็นการรวมตัวคนที่เรารักให้มาพบปะพูดคุยกัน หลังจากไม่ได้เจอกันนาน เพราะสถานการณ์โควิด 19 จึงอยากให้ภาพรวมของงานดูอบอุ่นมากกว่าความอลังการค่ะ ส่วนโทนสีการตกแต่ง เราเลือกจากสีที่ทั้งสองคนชอบ อย่างสีชมพู ส้ม โรสโกลด์ค่ะ ภายในงานจึงเรียบง่าย ละมุน ขณะเดียวกันก็แฝงไว้ด้วยลูกเล่น อย่างฉากงานหมั้น เราทำให้ดูเหมือนเป็นรอยหยักเพื่อสร้างมิติ ตกแต่งด้วยดอกไม้ ซึ่งฉากงานหมั้นนี้จะถูกปรับเป็นแบ็คดรอปถ่ายภาพในงานเลี้ยงฉลองเที่ยงด้วยค่ะ บริเวณโถงรับรองยังมีโต๊ะลงทะเบียน ภาพบ่าวสาวบริเวณทางเดิน ตลอดจนพื้นที่ไว้วางของว่างและคอฟฟี่เบรกด้วยค่ะ

       ส่วนภายในห้องบอลรูม เนื่องจากบนเวทีมีจอประกบข้าง และหลังจากงานนี้ทางโรงแรมมีจอ LED แล้วด้วย เราเลยตกแต่งน้อย เพราะกลัวรกสายตา ส่วนกลางจึงเลือกใช้ผ้าม่านสีขาว ประดับชื่อบ่าวสาว และดอกไม้นิดหน่อยตรงฐานเค้กค่ะ 

จัดงานไซส์เล็ก อิ่มเอมใจในทุกขณะ

       ช่วงงานหมั้นเช้า เราจ้างรันคิวมาดูแลในแต่ละพิธีให้ค่ะ เพราะเขารู้ลำดับการต่าง ๆ ช่วยให้เราไม่ต้องกังวลค่ะ ทางโรงแรมเองก็น่ารักมาก ที่ช่วยแนะนำเส้นทางการเดินแห่ขันหมาก ว่าควรเริ่มจากตรงไหน-ไปไหน เพื่อให้เราได้เก็บภาพสวย ๆ ระหว่างทำพิธีค่ะ

       ก่อนเริ่มพิธี เรามีอาหารว่าง ชา กาแฟ แซนด์วิช และมื้อหนักอย่างข้าวมันไก่ ให้แขกได้ทานกันก่อน เพราะเราเชื่อว่าหลายคนรีบมาร่วมงานจนไม่ได้ทานอะไรตอนเช้าค่ะ

       เมื่อได้เวลา เจ้าบ่าวตั้งขบวนแห่ขันหมากอยู่ลานสนามหญ้า โดยทางโรงแรมบริการดีมาก มีการล็อกลิฟต์ให้เรา เพื่อที่จะได้เดินทางสะดวกค่ะ

       หลังจากแห่ขันหมาก ผ่านประตูเงิน ประตูทอง เจรจาสู่ขอกับญาติผู้ใหญ่ แล้วโก้จะมารับตัวปุ้ยที่นั่งรออยู่ที่ลานสนามหญ้ค่ะ จากนั้นเราจะลงมาห้องทำพิธีพร้อมกัน เพื่อมอบสินสอด สวมแหวน ยกน้ำชา เสร็จพิธีหมั้นก็ขึ้นไปส่งตัวที่ห้องพักค่ะ

       สำหรับงานเลี้ยงเที่ยง เราเชิญแขกราว 200 ท่าน โดยแขกทยอยมาถ่ายภาพในห้องหมั้นเดิมค่ะ จากนั้นก็ลงทะเบียน รับของชำร่วยเป็นน้ำผึ้งใส่ชะลอมสานที่สั่งจากร้านค้า OTOP ซึ่งเราตั้งใจหาสินค้าเฉพาะวิสาหกิจชุมชน เพราะอยากกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชนค่ะ

       หลังถ่ายรูปที่แบ็คดรอปเรียบร้อยแล้ว บ่าวสาวก็เปิดตัวคู่กันขึ้นเวที พูดเรื่องราวความรักและความประทับใจกันและกัน จากนั้นถึงเชิญประธานในพิธีมากล่าวคำอวยพร พร้อมมอบพวงมาลัย ต่อด้วยตัดเค้ก และมอบเค้กให้ผู้ใหญ่ค่ะ ซึ่งช่วงที่เราจัดงานใกล้วันแม่ ทางโรงแรมก็เลยมีเซอร์ไพรส์ เอาพวงมาลัยมาให้เรา เพื่อนำไปไหว้คุณแม่ด้วยค่ะ

       เราไม่มีโยนดอกไม้ เพราะเราและเพื่อนต่างก็โตกันหมด บางคนก็มีครอบครัวแล้วด้วยค่ะ เราจึงใช้เวลาที่เหลือไปทักทายและถ่ายรูปกับแขกตามโต๊ะแทนค่ะ สำหรับอาหารจัดเลี้ยง เราเลือกเป็นเมนูโต๊ะจีน เพราะมีแขกสูงอายุเยอะค่ะ ซึ่งแขกส่วนใหญ่ชอบอาหารกันทั้งนั้นค่ะ

บรรยากาศออกมาอบอุ่นสมใจ และงานราบรื่นกว่าที่คิด

       ก่อนหน้านี้เรามีกังวลเล็กน้อย เนื่องจากจัดงานช่วงโควิด 19 ซาได้ไม่นาน แต่ก็พบว่าทุกคนปลอดภัย แถมยังได้รับคำชมกลับมาเยอะว่างานดี เป็นงานเล็กที่ดูสวย บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข อบอุ่นและกันเอง การได้เห็นแขกตั้งใจมาแสดงความยินดี เห็นรอยยิ้ม ได้พูดคุยกัน เป็นความสุขของเราทั้งคู่จริง ๆ ค่ะ

       ต้องชื่นชมโรงแรมและพนักงานของที่นี่ค่ะ เรารู้สึกว่าทางโรงแรมซัพพอร์ตดีมาก ทั้งคุณเปิ้ล ที่ช่วยประสานงานกับทีมต่าง ๆ เช่น ออแกไนซ์ รันคิว เพื่อช่วยให้งานสมูธที่สุด ทำให้ 3 วันก่อนงานแต่งที่ควรจะยุ่งวุ่นวาย แต่เรากลับไม่รู้สึกเครียดเลยค่ะ ส่วนสถานที่ ไม่ต้องตกแต่งเยอะก็ดูสวยได้ค่ะ ถือว่าเพอร์เฟ็กต์สำหรับคู่เราเลย ทั้งตัวโรงแรมและการบริการ ขนาดทีมตกแต่งยังชมเลยค่ะ หากใครอยากจัดงานขนาดเล็ก อบอุ่น ที่นี่ทำให้ประทับใจแน่นอนค่ะ

คำแนะนำสำหรับบ่าวสาว

บ่าวสาวควรเปิดอกและแชร์ความคิดร่วมกัน : บ่าวสาวเปิดใจพูดกันตรง ๆ ว่าเราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร หรือแม้แต่มีปัญหาก็ควรพูดออกมาเลย จะได้พยายามหาทางปรับให้เข้ากัน อย่าหันหลังชนกัน เพราะถ้าเก็บไว้ ไม่ยอมคุยกัน จะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลายไปเรื่อย ๆ

ไม่ว่าจะจัดงานเล็กหรืองานใหญ่ ขอแค่ตั้งใจจัดงานให้ดี : ไม่ว่าจัดงานขนาดใด อยากให้ทำเต็มที่ เพราะงานแต่งสามารถถ่ายทอดความเป็นตัวตนได้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็อย่าลืมคำนึงถึงความรู้สึกผู้มาร่วมงานด้วย งานแต่งที่ดีควรสร้างความประทับใจได้ทั้งแขกและบ่าวสาว เราจะได้ความทรงจำดี ๆ ที่นึกย้อนเมื่อไหร่ก็มีความสุข

Photographer : Loveumentary