Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit สถานที่แต่งงานสวยหรู โลเคชั่นดี พร้อมบริการจากทีมงานมืออาชีพ
กอล์ฟกับพี่ปุ่น (เจ้าบ่าว) ดูตัวเลือกโรงแรมต่าง ๆ จากที่เวดดิ้งแพลนเนอร์เสนอมา เมื่อไปสำรวจสถานที่จริง เราชอบโรงแรม Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit (ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท) ที่สุด เพราะตอบโจทย์ได้ครบ ทั้งทำเลดี ใกล้ BTS เดินทางสะดวก ห้องบอลรูมเพดานสูงโปร่ง และขนาดรองรับกับจำนวนแขกที่แพลนไว้ 450 ท่านได้อย่างลงตัวค่ะ
งานหมั้นอบอุ่น เติมความพิเศษด้วยพุ่มดอกไม้ไซส์ใหญ่
กอล์ฟชอบดอกไม้มาก จึงตกแต่งเพิ่มจากที่ทางโรงแรมมีให้ด้วย โดยเน้นพุ่มดอกไม้ไซส์ใหญ่อยู่หลังจุดทำพิธี ทั้ง 2 พุ่มใช้ดอกไม้หลากสีสัน ทั้งสีขาว เขียว ชมพู เหลือง เพื่อให้ดูสดใส ไม่จืดชืดเกินไปค่ะ
เราทำพิธีสงฆ์กันที่วัดราชบพิธฯ ไปแล้ว ประกอบกับจัดงานหมั้นช่วงบ่าย ต่อด้วยเลี้ยงฉลองเลย จึงคัดเฉพาะพิธีการสำคัญเพื่อไม่ให้กินเวลาค่ะ ช่วงก่อนพิธีการเริ่ม 30 นาที เราให้แขกทานอาหารรองท้องกันก่อน พอได้เวลา พี่ปุ่นก็เจรจาสู่ขอกับญาติผู้ใหญ่ จากนั้นมารับตัวกอล์ฟ เพื่อไปทำพิธีมอบสินสอด สวมแหวน และรับไหว้ ซึ่งแขกผู้ใหญ่ทั้งสองฝั่งรวมกัน 20 คู่เท่านั้นค่ะ
ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ผสานสีสันโทนธรรมชาติ สวยแบบไม่หลุดธีม
เราผสมผสานระหว่างโทนสีของโรงแรมกับสีที่ชอบ จึงมาลงตัวในธีมโรสโกลด์ เอิร์ธโทน เบจ ส้ม ชมพู เหลือง และเขียว โดยใช้ดอกไม้เยอะเป็นพิเศษ ซึ่งเราส่งชนิดดอกไม้ที่ต้องการและระบุดอกไม้ที่ไม่อยากใช้ให้กับทีมตกแต่งด้วย เช่น ถ้าโทนสีเหลือง ขอไม่เอาดอกทานตะวันและดอกดาวเรืองค่ะ
เราไม่อยากให้ภาพรวมการตกแต่งงานดูแข็งทื่อ ทีมจึงดีไซน์โครงสร้างบางจุดให้โค้งคล้ายโขดหิน เห็นแล้วชอบมากค่ะ มีแต่งมุมแกลเลอรี่ โดยวางภาพบ่าวสาวบนขาตั้ง และอีกฝั่งตรงโถงรับรองของโรงแรมจะเห็นมุมครัว Open ซึ่งเราอยากปิดบังส่วนนี้ จึงทำบอร์ดภาพให้เหมือนผนังไปเลยค่ะ
สำหรับแบ็คดรอปถ่ายภาพจัดเต็มด้วยดอกไม้ รวมถึงแต่งไฟ LED เพื่อเพิ่มลูกเล่น ฝั่งขวาของฉากเติมพุ่มดอกไม้ที่ใช้ช่วงงานหมั้นด้วย ทำให้ดูมีดอกไม้เต็มตาขึ้นค่ะ
ภายในห้องบอลรูมจะต่างจากด้านนอก โดยลดทอนปริมาณดอกไม้ มีทรงหินโค้งและจัดวางองค์ประกอบไม่ให้เหมือนกันเกินไปค่ะ และด้วยห้องบอลรูมที่นี่เพดานสูงมาก จึงทำฉากเวทีให้สูงเป็นพิเศษ เพื่อรักษาความแกรนด์ไว้ค่ะ
งานฉลอง Keep Character เน้นเฮฮา สนุกสนาน
ความที่เราสองคนเป็นสายเฮฮา ชอบความสนุกสนาน บรรยากาศในงานจึงอยากให้ดูผ่อนคลายและสัมผัสได้ถึงความเป็นกันเอง หลังจากแขกลงทะเบียนรับของชำร่วยเป็นช้อนส้อมเรียบร้อยแล้ว ก็มาถ่ายรูปกับเราที่แบ็คดรอปและโฟโต้บูธก่อน
จากนั้นก็เปิดวิดีโอพรีเซนเทชั่น แล้วเราค่อยเดินเข้าห้องบอลรูมมาขึ้นเวที พิธีกรเชิญประธานขึ้นกล่าวคำอวยพร มอบพวงมาลัยให้คุณยาย แล้วเราจึงเผยความในใจกันเล็กน้อย และให้เพื่อนบ่าวสาว 2 ท่านขึ้นมาพูด Speech บนเวที จบแล้วถึงจะไปตัดเค้กค่ะ
จบพิธีการแล้ว เราให้แขกเล่นเกมทายคำถาม เพื่อหาผู้ชนะ 3 ท่านมารับของรางวัล หากใครตั้งใจดูวิดีโอพรีเซนเทชั่นที่ฉายไปในตอนแรกก็มีโอกาสตอบถูกสูง เพราะคำตอบจะอยู่ในนั้นทั้งหมดค่ะ เหตุผลที่เราเลือกให้มีเกมในงาน เพราะอยากมีช่วงเอนเตอร์เทนและให้แขกได้มีส่วนร่วม ซึ่งเราคิดถูกค่ะ เพราะทำให้งานสนุกขึ้นและเต็มไปด้วยเฮฮาอย่างที่อยากตั้งใจจริง ๆ ค่ะ
หลังได้ผู้ชนะครบและมอบรางวัลแล้ว ก็ถึงเวลาที่กอล์ฟโยนช่อดอกไม้ ส่วนพี่ปุ่นโยนกล่องเหล้า จากนั้นก็ต่ออาฟเตอร์ปาร์ตี้ เราไปเปลี่ยนชุดและกลับเข้ามาในห้อง มีเพื่อน ๆ ยิงเปเปอร์ชู๊ตให้ค่ะ และเปิดด้วยการรินแชมเปญทาวเวอร์ หลังจากนี้จะมีแต่ความสนุกจัดเต็ม เพราะกอล์ฟมีโชว์ที่ตั้งใจนำเสนอมากค่ะ โดยพี่ปุ่นจะนั่งรอตรงเซ็นเตอร์เพื่อดูกอล์ฟเต้นเพลงฮา ๆ ทั้งลูกทุ่ง หรือเพลงดังที่เป็นกระแสในโซเชียลค่ะ นับเป็นช่วงที่สร้างเสียงหัวเราะได้ เพราะเป็นเจ้าสาวไม่เน้นสวย เน้นฮาอย่างเดียวค่ะ
นอกจากนี้ เราเพิ่มความพิเศษให้งานแต่ง ด้วยการปริ้นท์รูปไดคัทน้องแมวที่มีความหมายต่อคู่เรามาก เพราะเก็บเขาจากข้างถนนและเลี้ยงมาด้วยกัน จากคนที่ไม่ชอบแมว กลับหลงรักแมวหัวปักหัวปำ ก็เลยอยากให้เขามาอยู่ในวันสำคัญของเราค่ะ
ในงานฉลอง เราจัดเลี้ยงซุ้มอาหารและเมนูค็อกเทล เช่น ซูชิ ซาซิมิ ปลาดิบ สปาเก็ตตี้ ซึ่งส่วนตัวประทับใจเรื่องรสชาติตั้งแต่ตอน Food Tasting แล้วค่ะ แม้ในเซ็ตเมนูจะมีบางอย่างที่เราทานไม่ได้ แต่ทางโรงแรมก็ปรับเปลี่ยนให้ตามต้องการค่ะ พอถึงวันงาน แขกชมว่าอาหารอร่อยกันเยอะมาก พอเราได้ยินก็ทั้งโล่งใจและดีใจที่สามารถสร้างความประทับใจให้แขกได้
สร้างความทรงจำดี ๆ ด้วยการมอบ 'กิ๊ฟเซ็ต' ให้เพื่อนเจ้าสาว
กอล์ฟใส่ใจเพื่อนเจ้าสาวเช่นกัน จึงทำกล่องกิ๊ฟเซ็ตมอบให้เป็นของขวัญ ซึ่งประกอบไปด้วยผ้าสีเหลือง สำหรับตัดเป็นชุดเพื่อนเจ้าสาว เราให้ผ้าแทนชุดสำเร็จรูป เพื่อให้เขานำไปดีไซน์ในแบบที่ถูกใจ เหมาะกับสรีระได้ เราเลือกสีเหลือง เพราะไม่ค่อยซ้ำและส่วนตัวเกิดวันจันทร์ค่ะ นอกจากนี้ยังมีเสื้อยืดสำหรับอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ที่แปะจุก และมาสก์หน้า พร้อมการ์ดที่เขียนให้แต่ละคนโดยเฉพาะด้วยค่ะ
หายเหนื่อยเมื่องานออกมาดีสมความตั้งใจ
เราประทับใจทุกอย่าง วันนั้นดีและลงตัวสุด ๆ ทีมงานก็มืออาชีพทุกทีม ตลอดจนเวดดิ้งแพลนเนอร์ที่ช่วยดูแลให้งานเราราบรื่น บิ้วให้แขกมีอารมณ์คล้อยตามบรรยากาศงาน รันคิว รวมถึงตกแต่งสวยถูกใจ ที่สำคัญ ช่วงงานหมั้นเราปรับแก้ดอกไม้กะทันหัน เขาก็จัดการปัญหาได้ดีและทันเวลาด้วยค่ะ
ส่วนโรงแรมดีในทุกมิติค่ะ พนักงานช่วยเหลือและบริการดีมาก แขกบางท่านที่ไม่คุ้นเคยกับโรงแรมอาจมีงง ๆ ทางบ้าง พนักงานก็เดินมาส่งถึงหน้างานเลย สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความประทับใจได้เหมือนกัน ที่ต้องพูดถึงเลย คือพี่นก Wedding Specialist ประทับใจตั้งแต่แรกเจอ เพราะกันเอง จริงใจ ไม่ฮาร์ดเซลล์ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับเรา อย่างก่อนที่จะตัดสินใจเลือกโรงแรมนี้ เรากังวลว่าการตกแต่งจะใช้ระยะเวลานาน หากมีงานอื่นด้วยก็กลัวจะวุ่นวายและเสร็จไม่ทัน ซึ่งพี่นกให้คำตอบชัดเจนว่าที่นี่ไม่รับงานชนกัน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวอย่างที่ต้องการค่ะ แถมยังอัปเกรดห้องพักบ่าวสาวให้เป็น Premier Suite วิวสวย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และกว้างมากเลยค่ะ
คำแนะนำบ่าว-สาว
จัดงานแต่งที่มีความเป็นตัวเอง : เราสามารถรับฟังความเห็นของญาติผู้ใหญ่ได้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำตามหมด เลือกปรับตามความเหมาะสม เพื่อให้ยังคงแบบที่เราชอบไว้ เช่น วงดนตรี การตกแต่ง ไปจนถึงพิธีการ เพราะอะไรก็ตามที่มาจากความชอบเรามักออกมาดีเสมอ
ถ้าอยากให้งานเป๊ะ ควรมีเวดดิ้งแพลนเนอร์ : การใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์เป็นตัวช่วยชั้นดีที่จะทำให้งานราบรื่น ทั้งนี้ ก่อนเลือกทีมใดก็ตาม แนะนำให้หาเวลาไปนัดเจอแบบตัวเป็น ๆ เพราะการที่เราเลือกจากการดูรีวิว หรือเพื่อนบอกต่อ พอมาถึงคู่ของเรา บางทีอาจไม่ถูกใจก็ได้ การได้เจอหน้าพูดคุยกันจะทำให้เราตัดสินใจง่ายขึ้น
รีบจองโรงแรมไว ๆ : ถ้าได้ฤกษ์แต่งงานแล้ว อย่าชะล่าใจ รีบหาโรงแรมที่ชอบและจองให้ไวจะดีมาก เพราะถ้ายังไม่ได้โรงแรม จะส่งผลให้การเลือกสิ่งอื่น ๆ ล่าช้าไปด้วย
ช่างแต่งหน้า-ทำผม ให้ลองใช้บริการก่อนวันจริง : อยากให้เจ้าสาวลองแต่งหน้าเองดูก่อนว่าชอบโทนไหน จากนั้นค่อยหาช่างแต่งหน้าที่มีสไตล์ที่เราต้องการ หรือหากชอบเจ้าไหน ลองจ้างให้มาแต่งหน้า ทำผม นอกรอบดูก่อน จะได้รู้ว่าเหมาะกับเราจริงไหม