Eastin Grand Hotel Sathorn สถานที่จัดงานแต่งโลเคชั่นดี เดินทางง่าย ห้องบอลรูมเพดานสูง
กรกับไมนด์ (เจ้าสาว) โชคดีที่ผู้ใหญ่อิสระในการตัดสินใจทั้งหมด เลยไม่กดดันในการเลือกสิ่งต่าง ๆ มากนัก อย่างสถานที่จัดงานแต่งงานเราก็ดูจากอินเตอร์เน็ตและลิสต์ไว้ 2-3 ที่ แต่ที่ชอบและเลือกโรงแรม Eastin Grand Hotel Sathorn ด้วยเหตุผลหลัก ๆ คือตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกสบายเพราะใกล้ BTS ด้วย ไซส์ห้องบอลรูมรองรับแขก 300 ท่านได้กำลังดี ไม่คับแคบไป รวมถึงราคาแพ็คเกจงานแต่งก็ถือว่าคุ้มค่าครับ และตัวผมเองเคยมีโอกาสมางานแต่งเพื่อนที่นี่ ก็จำได้ว่าอาหารอร่อยครับ
พิธีหมั้นไทย-จีน กระชับ เรียบง่าย ได้ความอิ่มใจ
เราจัดงานหมั้นคนละห้องกับงานเลี้ยงฉลอง ซึ่งพิธีนี้ได้โรงแรมจัดการเรื่องการตกแต่งให้ทั้งหมดครับ ทั้งพุ่มดอกไม้บริเวณจุดรับตัวเจ้าสาวตรงระเบียง และในห้องจัดงานบนเวทีจะมีดอกไม้หลากชนิดใส่ในแจกันตั้งเรียงรายบนโต๊ะยาว โดยฉากหลังจุดทำพิธีแต่งผ้าม่านสีอ่อน ประดับป้ายชื่อบ่าวสาวครับ
พิธีการก็เริ่มด้วยแห่ขันหมาก เจรจาสู่ขอกับผู้ใหญ่ ผมเดินไปรับตัวเจ้าสาวที่ระเบียง กลับเข้ามาในห้องทำพิธีมอบสินสอด สวมแหวน และยกน้ำชาก็เสร็จสิ้นครับ ส่วนอาหารช่วงงานหมั้นเราก็มีให้แขกทั้งคาวหวาน อย่างเมนูโจ๊ก ข้าวต้มปลา ชา กาแฟ ตลอดจนขนมที่นำเข้ามาด้วยครับ
พิธีฉลองอบอุ่น คุมโทนด้วยธีมสีครีม น้ำตาล เบจ
เราเลือกสีเอิร์ทโทนมาตกแต่งงาน เพราะเป็นโทนที่อบอุ่น สบายตา ประกอบกับเราทั้งคู่ชอบความเรียบง่าย การตกแต่งจึงไม่เว่อร์วัง แต่ก็ไม่ถึงขั้นมินิมอลเกินไป อยากให้ภาพงานออกมาสวยกำลังดี อย่างโถงรับรองมีการตกแต่งแกลเลอรีภาพ ประดับดอกไม้สองข้าง แบ็กดรอปถ่ายภาพเน้นฉากหลังตกแต่งด้วยผ้าม่าน เพราะคิดว่าการใช้ผ้ามาทำเป็นแบ็กกราวด์จะช่วยสร้างความพลิ้วไหว นุ่มนวล ได้ดีกว่า แต่เราก็ยังไม่ทิ้งฉากไม้ มีเสริมเข้ามาให้ดูมีเลเยอร์ และตกแต่งดอกไม้ไว้ข้างหนึ่งครับ
ฉากเวทีภายในห้องบอลรูมก็เช่นกัน ด้วยเพดานในห้องค่อนข้างสูง เราจึงเลือกใช้ฉากผ้าม่านให้มีความสูงเกือบชนเพดาน ช่วยให้ดูเนียนตากลมกลืนไปกับผนังของโรงแรมได้ครับ ส่วนดีเทลตกแต่งอื่น ๆ ก็มีนำโครงเหล็กสีขาวตกแต่งดอกไม้มาตั้ง 2 ข้างบนเวที เพิ่มลูกปัดคริสตัลร้อยเรียงเป็นเส้นเข้าไป เพื่อสร้างความหรูหราครับ
ก่อนพิธีในห้องบอลรูมจะเริ่มขึ้น ด้านนอกแขกจะทยอยมาลงทะเบียน รับของชำร่วยเป็นน้ำผึ้งใส่ขวด และเป็นช่วงเวลาที่แขกถ่ายภาพกับบ่าวสาว รวมถึงถ่ายรูปที่โฟโต้บูธกันครับ
จากนั้นก็ถึงคิวเราเปิดตัวเดินเข้าไปในงานคู่กัน เมื่อขึ้นเวทีแล้ว พิธีกรเชิญประธานทั้ง 2 ท่านกล่าวคำอวยพร ต่อด้วยสัมภาษณ์เรานิดหน่อย จบแล้วก็เดินไปตัดเค้ก กลับมาโยนดอกไม้ก็จบพิธี ซึ่งต้องบอกว่าขนาดเรามีพิธีการแค่นี้ ยังใช้เวลานานพอสมควรเลยครับ
ระหว่างนั้นแขกสามารถเอ็นจอยไปกับอาหารบุฟเฟ่ต์กันได้ ซึ่งแขกชมเยอะเลยว่าอาหารรสชาติดี นับว่ามีความเห็นตรงกันกับผมที่เคยได้ชิมจากงานแต่งเพื่อนมาก่อนหน้านี้ครับ
บ่าวสาวแฮปปี้ ทุกฝ่ายช่วยก่อร่าง สร้างงานแต่งให้สมบูรณ์แบบ
งานวันนั้นมีแต่โมเมนต์ดี ๆ ได้เห็นรอยยิ้มและคำชม การตกแต่งก็สวยตรงใจอย่างที่ต้องการ ทีมงานทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองอย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นทีมรันคิวที่จัดการแต่ละคิวได้ลื่นไหล ตากล้องถ่ายภาพสวยถูกใจ เมคอัพเจ้าวสาวก็แต่งออกมาได้ดีครับ นอกจากนี้ เราประทับใจสถานที่ ตลอดจนเซลล์ของโรงแรมที่ดูแลและประสานงานกับทีมงานส่วนอื่นให้ ช่วยลดความกังวลใจและความวุ่นวายในการเตรียมงาน พูดได้ว่าทุก ๆ ทีมเป็นองค์ประกอบที่ทำให้งานแต่งของเราผ่านไปได้แบบไม่มีสะดุดครับ
คำแนะนำบ่าว-สาว
เลือกอะไรต้องเคลียร์ให้ชัด 100% : ไม่ว่าเราจะเลือกอะไรที่เกี่ยวกับงานแต่ง เช่น รูปแบบงาน, ธีมสี, การตกแต่ง, ทีมงาน อยากให้เลือกในสิ่งที่ชอบ อย่าโลเล เพราะถ้าเราเลือกทุกอย่างแบบที่ใจต้องการและชัดเจนตั้งแต่แรก เราจะมีความสุขกับผลลัพธ์และจะไม่รู้สึกเสียดายภายหลัง
เลือกทีมงานจากผลงานที่ชอบ แต่ต้องเช็กให้ละเอียดที่สุด : อยากให้เลือกทีมงานจากผลงาน แต่ขณะเดียวกัน ราคาก็ต้องอยู่ในงบที่ตั้งไว้ เมื่อเจอที่ถูกใจก็ต้องเช็กให้ละเอียดอีกครั้งผ่านโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง เพื่อเพิ่มความไว้ใจและมั่นใจ เช่น ย้อนดูรีวิวจากบ่าวสาว ดูความเคลื่อนไหวหน้าเพจ นอกจากนี้ ให้หาทีมที่ชอบสำรองไว้อีก 2-3 ทีม เพื่อนำมาเปรียบเทียบกันว่าพูดคุยเป็นอย่างไร คลิกกันไหม หรือใส่ใจกับเรามากน้อยแค่ไหนด้วย