เมื่อการแต่งงานเป็นจุดเริ่มต้นอันเป็นมงคลของชีวิตคู่ ในอดีตเรื่องพิธีการและความเชื่อเกี่ยวกับงานแต่งงานจึงมักจะมาควบคู่กันค่ะ และแม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ความเชื่อที่ส่งผลให้ชีวิตคู่ราบรื่นเหล่านี้ก็ยังได้รับการสืบต่อในหลาย ๆ ครอบครัว รู้ไว้ปฏิบัติตามก็ดีค่ะ ส่วนจะมีความเชื่ออะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
1. ฤกษ์แต่งงาน
ฤกษ์มงคลที่เหมาะกับคู่บ่าวสาวเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเชื่อว่าหากแต่งงานตามฤกษ์งามยามดี ก็จะทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น ซึ่งฝรั่งเขาก็มีความเชื่ออะไรแบบนี้เหมือนกันนะ เช่น หากแต่งงานในวันจันทร์จะร่ำรวย จัดงานในวันอังคารจะสุขภาพแข็งแรง และจัดงานในวันพุธก็จะโชคดี เป็นต้น
Cr.Pinterest brides.com
2. ความเชื่อเกี่ยวกับขบวนขันหมาก
มีความเชื่อว่าให้เชิญผู้ใหญ่ที่เจ้าบ่าวให้ความเคารพและประสบความสำเร็จในชีวิตครอบครัวมาเป็นคนนำขบวนขันหมาก ชีวิตคู่ของบ่าวสาวจะได้ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน รวมถึงในระหว่างที่ทำการแห่ขันหมากมา พ่อแม่ของฝ่ายหญิงห้ามไปเจอกับขบวนขันหมากก่อน ให้รอในห้องทำพิธี เพราะเชื่อว่าหากเผชิญหน้ากับขบวนขันหมากอาจทำให้อนาคตมีเรื่องไม่ถูกกันค่ะ
3. เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวห้ามเจอกันก่อนแต่งงาน
ทางชาวตะวันตกก็มีประเพณีคลุมถุงชนไม่ต่างกับฝั่งเอเชียเรา จึงมีความเชื่อว่าห้ามทั้งคู่เจอกันก่อนแต่งงาน เพื่อเลี่ยงการปฏิเสธการแต่งงาน ปัจจุบันความเชื่อนี้บางบ้านยังถือปฏิบัติอยู่ เช่น ห้ามคู่บ่าวสาวพบกัน 3 วัน ก่อนแต่งงาน ไม่อย่างนั้นชีวิตคู่จะไม่ยั่งยืน หรือจะมีเหตุให้อย่าร้างกัน นั่นก็เป็นเพราะในอนาคต อาจมีช่วงที่คนรักต้องอยู่ห่างกันด้วยหน้าที่การงานหรือธุระจำเป็น ข้อนี้จึงเป็นเคล็ดให้ฝึกความอดทนอดกลั้น ว่าถ้ารักมีระยะห่าง ทั้งคู่จะยังมั่นคงมากพอหรือไม่ค่ะ
4. ก่อนแต่งงาน ห้ามเดินทางไกล
โบราณว่า ช่วงแต่งงานคือช่วงที่เนื้อหอมเป็นพิเศษ (เนื้อหอมในที่นี้ หมายถึง ไวต่ออันตรายทั้งหลาย) ว่าที่บ่าวสาวจึงไม่ควรเดินทางไปไหนมาไหนไกล ๆ เพราะอาจเสี่ยงอันตราย หรืออาจประมาทในการเดินทาง ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ดังนั้นหากไม่จำเป็นก็อย่าเพิ่งเดินทาง ใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังไว้ก็ดีค่ะ
5. ห้ามไปงานขาว-ดำ และงานแต่งคนอื่น
บ้านใครมีเชื้อสายจีนที่เคร่งครัดหน่อย คงเคยได้ยินข้อห้ามว่าไม่ให้ไปร่วมงานศพและงานแต่งคนอื่นในช่วง 4 เดือน ทั้งก่อนและหลังวันแต่งงาน นั่นก็เพราะงานศพเป็นงานอวมงคล คนที่กำลังจะเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยความมงคลจึงไม่ควรไปค่ะ ส่วนทำไมถึงห้ามไปงานแต่งคนอื่น อันนี้เป็นความเชื่อว่าคู่ของเราจะนำความโชคดีไปให้บ่าวสาวคู่อื่น หนำซ้ำยังอาจเกิดการเปรียบเทียบระหว่างงานแต่งงานของตัวเองกับงานแต่งงานของคนอื่น จนทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้ด้วยค่ะ
6. ความเชื่อเกี่ยวกับผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว
ตามความเชื่อของชาวตะวันตก ชุดเจ้าสาวมักจะมีผ้าคลุมหน้า หรือ Veil เสมอ ด้วยความเชื่อที่ว่า เวลเปรียบเสมือนเครื่องระลึกความทรงจำของเจ้าบ่าวตอนเจอเจ้าสาวเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังเชื่อว่าจะช่วยปกป้องเจ้าสาวจากสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ที่อยู่รอบกายได้อีกด้วย
Cr. Instagram Prayalundberg
7. มงคลแฝดและพวงมาลัยคล้องคอ
มงคลแฝดสวมศีรษะตอนทำพิธีรดน้ำสังข์ มีความเชื่อว่าเป็นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของทั้งสองให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่แคล้วคลาดจากกัน ดังนั้นห้ามมงคลแฝดหลุดจากศีรษะใครคนใดคนหนึ่งก่อนพิธีจบเด็ดขาก ส่วนพวงมาลัยบ่าวสาวที่เป็นไอเท็มคู่กันนั้น มีความเชื่อว่าให้เลือกใช้ดอกไม้ที่มีความหมายดี ๆ เช่น ดอกรัก ดอกกุหลาบ ดอกมะลิ เน้นสีดอกไม้สีขาว สีชมพูอ่อน อีกทั้งควรใช้มาลัยบ่าวสาวคู่เดียวกันทั้งพิธีเช้าและเย็น เพื่อที่บ่าวสาวจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างราบรื่น
8. ความเชื่อในพิธีสวมแหวน
หากในพิธีสวมแหวน ตอนที่เจ้าบ่าวสวมแหวนให้เจ้าสาว หากเจ้าบ่าวต้องให้เจ้าสาวช่วยสวมแหวน ไม่ว่าจะเป็นเพราะทำแหวนหล่น หรือสวมแหวนไม่สุด เชื่อว่าเจ้าสาวจะมีอำนาจเหนือเจ้าบ่าว
9. พิธีตัดเค้ก มือใครอยู่บน คนนั้นเป็นใหญ่
ถ้าสังเกตกันดี ๆ ตอนพิธีตัดเค้ก ส่วนใหญ่มักจะให้เจ้าสาววางมือไว้บนมือของเจ้าบ่าว เพราะมีความเชื่อว่า หากมือใครอยู่ด้านบนจะเป็นใหญ่ การให้มือฝ่ายหญิงอยู่ด้านบนหมายถึงให้สามารถควบคุมสามีได้ สามีจะให้ความเกรงใจค่ะ
10. ห้ามทำของแตกในวันแต่งงาน
อีกหนึ่งความเชื่อที่คนโบราณถือกันมากก็คือ ห้ามทำสิ่งของใดแตกในวันแต่งงาน รวมถึงไม่ควรมีอาหารประเภทที่เปราะ แตกหักง่ายเสิร์ฟในงานด้วย เพราะเชื่อว่าจะทำให้เกิดความแตกร้าว ร้าวฉาน ครอบครัวแตกแยกเหมือนสิ่งของที่ตกแตกนั่นเอง
แม้สิ่งเหล่านี้จะเป็นเพียงแค่ความเชื่อ แต่ก็ล้วนแล้วแต่มีเหตุผลและความหมายซ่อนอยู่นะคะ ดังนั้นการพยายามทำตามความเชื่อที่สืบทอดกันมาสักหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร ผู้หลักผู้ใหญ่จะได้สบายใจด้วยค่ะ