รีวิวงานแต่งวันเดียว 3 สไตล์ จัดได้ครบทั้งปาร์ตี้พิธีการ @JW Marriott Bangkok

JW Marriott Bangkok สถานที่แต่งงาน Proper เซอร์วิสเป๊ะ
          ปัณฑ์เลือกจัดงานหมั้นเช้าเลี้ยงเที่ยง ต่อด้วยฉลองเย็นที่ JW Marriott Hotel Bangkok (โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ) ค่ะ จริงๆ เราเริ่มจากการอยากจัดงานกับเพื่อน แต่คุณพ่อคุณแม่ก็อยากให้จัดงานผู้ใหญ่ด้วย เลยตัดสินใจว่าจัดแยกกันไปเลยดีกว่า เช้าเที่ยงจะเป็นงานสำหรับผู้ใหญ่ ส่วนฉลองเย็นเป็นงานสำหรับเพื่อนค่ะ
          เราเลือกสถานที่แต่งงานที่จัดที่เดียวกันได้ จะได้ไม่ต้องขนย้ายของมาก เลยเลือกที่ JW Marriott Hotel Bangkok ซึ่งตอบโจทย์เราในทุกๆ รูปแบบงานค่ะ ทางเซลล์โรงแรมก็ช่วยแนะนำห้องอาหารจีน Man Ho มาให้ เรารู้สึกว่าห้องนี้ดี มีความเป็นสัดส่วน เข้ากับพิธีจีนของเรา แถมยังมีห้องน้ำในตัว สะดวกกับญาติผู้ใหญ่ด้วยค่ะ

          เรื่องนึงที่เราอุ่นใจ คือตัวโรงแรมเองมีชื่อเสียงอยู่แล้ว บวกกับทีมงานเขามีความยืดหยุ่น เข้าใจในความต้องการของเรา เรื่องที่จอดรถก็สะดวกสบาย รองรับได้มากถึง 700 คัน การบริการต่างๆ ก็ดี เวลาเข้ามาคุย เขาดูแลอย่างดีตลอด เป็นสถานที่ที่มีมาตรฐาน เหมาะสำหรับการแต่งงานค่ะ อาหารเราทานหมดแล้วทุกห้อง อร่อยทุกห้องจริงๆ (หัวเราะ) เชฟออกมาคุยเองเลย รับฟัง ใส่ใจ ปรับตามรสที่เราชอบ ในขณะเดียวกันก็ยังคงเอกลักษณ์ และคุณภาพของเขาอยู่ เราไม่ต้องกังวลเลย

จีนจัดเต็ม ทั้งคอสตูม พิธี บรรยากาศ
          การเตรียมงานครั้งนี้ปัณฑ์ไม่ได้ใช้แพลนเนอร์ แต่ได้รับคำแนะนำจากพี่สาวซึ่งแต่งงานไปก่อนหน้านี้ค่ะ คอสตูมช่วงเช้าจะเห็นได้ว่าเราเต็มสูตรมาก เจ้าบ่าวกะเอาฮา เพราะพิธีการเราจีนจ๋าจริงๆ เราเตรียมขันหมากเมืองมังกรจากนครสวรรค์มาด้วย มีสวมแหวน ยกน้ำชา ส่งตัว ซึ่งเราใช้รถลากเวียนรอบโรงแรมค่ะ ได้อารมณ์จีนจริงๆ (หัวเราะ)   
          สำหรับของชำร่วย ช่วงเช้าเราเลือกใช้ข้าวเหนียวกับขนมมงคลตามธรรมเนียมคนใต้ มีชาที่ทำเป็นรูปบ่าวสาวจาก Tea Studio ซึ่งเป็นของเพื่อนปัณฑ์เองค่ะ สำหรับงานช่วงเที่ยงคุณพ่อเจ้าบ่าวก็ได้เตรียมเหรียญ 20 บาทไว้ให้แขกเป็นของชำร่วยค่ะ

สวยแบบมีระดับ ประทับใจแขกผู้ใหญ่
          ช่วงเลี้ยงเที่ยง เราจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน (65 โต๊ะ) ที่ห้อง Sukhumvit Grand Ballroom ปัณฑ์เลือกเซ็ตที่มีหมูหันฮ่องกง ซึ่งทุกคนชอบกันมาก เรียกว่ากินกันจนถึงหางเลยทีเดียวค่ะ (หัวเราะ) อาหารอื่นๆ ก็ประทับใจมาก ถูกใจผู้ใหญ่
          นอกจากนี้เรายังมีลูกเล่นในงานเป็น Photo booth แบบ 3ACTS ด้วย ผู้ใหญ่ชอบมากๆ ส่วนตอนเย็นเราเลือกเป็น Selfie Greeting ถ่ายแล้วเขียน อัดคลิปวิดีโอสั้นๆ แทนสมุดอวยพรได้เลย จบงานได้ไฟล์เอาไปทำเป็น Photo book มีรูปพร้อมคำอวยพรเลยค่ะ

สนุกสุดใจ ได้ความรู้สึกอบอุ่น 
          จบช่วงสำหรับแขกผู้ใหญ่ไป เราก็ต่อด้วยงานช่วงเย็นสำหรับเพื่อนๆ ที่ Manhattan Studio ห้องนี้ปัณฑ์ชอบที่ด้านหน้าเป็นบาร์ต่อเนื่องกัน จัดปาร์ตี้กับเพื่อน 200 คนของเราได้สบาย บรรยากาศเหมือนผับ อบอุ่นกำลังดี สถานที่ไม่ใหญ่ไป เต้นร่วมกันได้แน่นอน (หัวเราะ) 
          ด้านนอกเรามี Backdrop ที่มีตัวย่อชื่อบ่าวสาวมาตกแต่ง แล้วก็มีไฟนีออนดัดเขียนว่า Since 2003 ซึ่งเป็นปีที่ปัณฑ์กับแฟนรู้จักกัน พร้อมพวกพร็อพกระเป๋าโบราณ  แกลอรี่ก็ใช้รูปไซส์เล็กมาติดตามระแนง แล้วติดไฟเพิ่มค่ะ งานนี้เราสบายมาก เพราะสถานที่ดีอยู่แล้วจริงๆ ที่สำคัญคือห้องนี้มีกลิ่นอายย้อนยุคนิดๆ แบบที่เจ้าบ่าวชอบ สวยอยู่แล้ว ไม่ต้องตกแต่งมากเลยค่ะ

          ธีมตอนเย็น ปัณฑ์บอกเพื่อนว่าให้แต่งตัวเป็นธีม Glittery or Vintage ค่ะ แล้วเขียนว่า เอาให้มั่นใจว่าจะเต้นในชุดนี้ได้ (หัวเราะ) ส่วนของชำร่วยเราเตรียมพวงกุญแจไว้ให้ มีตัวห้อยเล็กๆ เขียน #chwwpunn กับวันที่ ส่วนนี้ปัณฑ์นั่งหนีบที่ห้อยเองเลยค่ะ (หัวเราะ) 1,200 อัน ส่วนตัวห้อยรูปต่างๆ สามารถเพิ่มได้เอง มีให้เลือก 50 แบบเลย

อาหารค็อกเทลก็เพอร์เฟ็กต์ได้ แถมอร่อยด้วย!
          อาหารช่วงนี้ เราจัดค็อกเทลสำหรับเพื่อนๆ แล้วก็มีจานหลักด้วย ตั้งไว้ 4 สเตชั่น แถมมีครัวบิ้วด์อิน ทางโรงแรมก็จะแนะนำว่าทำอะไรได้บ้าง เมนูที่เราเลือกไว้อย่างเช่น สเต็กวากิว ข้าวมันไก่ พวกขนมก็ปรับเปลี่ยนได้ค่ะ เลือกเป็นผลไม้ก็ได้ คือดีไซน์ได้ตามความต้องการของเราจริงๆ จากที่แต่ก่อนปัณฑ์เคยคิดว่าค็อกเทลก็แค่ค็อกเทล แต่พอมางานนี้ที่ทุกคนบอกว่าดี เพื่อนเจ้าสาวทุกคน รวมถึงแขกชมกันหมดว่าอร่อย อิ่ม เหลือเฟือ ก็เปลี่ยนความคิดของเราที่มีต่อค็อกเทลไปเลย ชอบที่ทีมโรงแรมช่วยรักษาสิทธิของเราด้วยค่ะ อะไรที่สั่งเพียงพอแล้วก็บอกกันตรงๆ อาหารจะไม่ได้เหลือ แล้วต้องเสียดายค่ะ

          พิธีการช่วงฉลองเย็นของเรากระชับมาก เพราะตอนกลางวันเรามีองคมนตรีขึ้นพูดแล้ว เราเลยให้เปิดตัวบ่าวสาวพร้อมคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่ายบนเวที มีสัมภาษณ์กันนิดหน่อย คุณพ่อคุณแม่อวยพรให้ แล้วรินแชมเปญ ถัดจากนั้นก็ปาร์ตี้เลย แต่เจ้าบ่าวเขามีเซอร์ไพรส์ให้ด้วย โดยเตี๊ยมกับเพื่อนว่าตอนสัมภาษณ์ ให้สัมภาษณ์ปัณฑ์ก่อน เพราะเขาจะปิดท้ายด้วยการร้องเพลง แล้วมีวงมาช่วยร้องต่อ ส่วนเขาไปตีกลองค่ะ
          เครื่องดื่มตอนแรกเราคิดว่าเตรียมมาเยอะมากแล้ว สุดท้ายไม่พอจนต้องสั่งเพิ่ม โชคดีได้เบียร์โรงแรมมาเพิ่ม ความขำคืองานนี้เจ้าบ่าวเราจำได้ถึงแค่ตอนตีกลองเท่านั้นนะคะ อีกครึ่งคืนหายไปไหนไม่รู้ เมาครบทั้งพ่อตาทั้งลูกเขย หิ้วปีกกันไปค่ะ (หัวเราะ) เพื่อนทุกคนกลุ่มก็เอนจอยกัน เป็นช่วงเวลาที่สนุกมากๆ จริงๆ ค่ะ

แนะนำบ่าวสาว
บาลานซ์ความต้องการระหว่างเรากับผู้ใหญ่ : ตอนแรกปัณฑ์ก็คิดว่างานเรา ควรจะเป็นไปอย่างที่เราต้องการสิ แต่ปรากฏว่าคนที่มีความสุขม้ากมากในวันนั้นเลย ก็คือพ่อแม่ของเราเองค่ะ ยิ้มจนไม่รู้จะยิ้มมากกว่านี้ได้ยังไงแล้ว (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นถ้าทุกอย่างมันไม่เป็นอย่างใจเราบ้างก็ไม่เป็นไร เอาที่ทุกคนแฮปปี้และสะดวกดีที่สุดเลย
คาดหวังได้ แต่อย่าเครียดกับมันมาก : ต้องปล่อยวางค่ะ ในการเตรียมงานมันมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อยู่แล้ว ทำใจสบายๆ อย่าเป็น Bridezilla ปัณฑ์เองก็หน้างอวันงานมาแล้ว มันไม่งามเลยค่ะ อะไรจะผิดพลาด มันปกติมาก ให้มันเป็นไปค่ะ
เตรียมงานเองแล้วมีความสุข ทำเลยค่ะ! : อย่างปัณฑ์เองก็ Customize ทุกสิ่งเองหมด ไม่ต้องคิดว่าคนอื่นเขาคงไม่รู้ แค่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพราะถึงคนอื่นไม่รู้ แต่เรารู้ค่ะ เราจำแล้วเรามีความสุข ไม่ต้องมานั่งเสียดายทีหลังด้วยค่ะ