จัดงานที่บ้านตามธรรมเนียมความเชื่อของผู้ใหญ่
งานของเหมียวเป็นพิธีเช้าและเลี้ยงเย็นค่ะ ตอนแรกเหมียวอยากจัดโรงแรมทั้งหมด แต่ด้วยเป็นลูกสาวคนแรกที่แต่งงาน ผู้ใหญ่ท่านมีความเชื่อว่าขันหมากต้องเข้าบ้าน เลยตัดสินใจเจอกันตรงกลาง จัดงานเช้าที่บ้านและงานเย็นที่โรงแรมค่ะ
ไม่มีประสบการณ์ ก็เตรียมงานแต่งเองได้
เหมียวจัดงานแต่งงานด้วยตัวเองค่ะ เหมียวเป็นคนชุมพร แต่งงานที่ต่างจังหวัดเลยต้องหาข้อมูลทำการบ้านเยอะ ซึ่งการเตรียมงานจะเริ่มจากวางแผน ดูว่าชอบอะไร แล้วลองคำนวณค่าใช้จ่ายค่ะ
เหมียวเป็นคนโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ตอนเตรียมงานจึงไม่อยากปรึกษาคนเท่าไหร่ เพราะยังไม่อยากได้ความคิดเห็นหรือคำแนะนำตอบกลับมา แค่อยากหาข้อมูลให้รู้ภาพรวมงานก่อน ก็เลยเริ่มหาเว็บไซต์ด้านงานแต่งเพื่อศึกษาค่ะ พอมาเจอเว็บ SabuyWedding เรารู้สึกว่าตอบโจทย์ได้มากๆ เป็นเพื่อนคุยที่ดี ให้ความรู้ได้ละเอียดโดยไม่โต้แย้ง ทำให้เหมียวเห็นภาพงานได้ชัดขึ้นและรู้ว่าควรระวังเรื่องอะไรเป็นพิเศษบ้าง
หลังจากที่ศึกษาข้อมูลแล้ว เหมียวก็ Checklist ตามที่เว็บบอกเลยค่ะว่าควรทำอะไร มีตรงไหนที่ทำได้หรือต้องปรับ อะไรที่ดูแล้วเป็นตัวเราก็จะมาร์คเก็บไว้ จากนั้นจึงเริ่มลิสต์ร้านที่ชอบ พอได้ข้อมูลทุกอย่างแล้วก็นำรูปที่เราเห็นในเว็บไปคุยกับร้านค้าที่ใช้ เพื่อให้เห็นภาพและเข้าใจตรงกันมากขึ้น
ด้วยความที่เหมียวอยากให้ทุกอย่างมี Story ในตัวเอง เหมียวจึงคิดไว้ตั้งแต่การถ่ายพรีเวดดิ้งเลยค่ะ ว่าวันงานจะเป็นยังไง เหมียวเป็นคนหน้าดุมาก ตอนที่ถ่ายพรีเวดดิ้งจะบรีฟคอนเซ็ปต์ช่างภาพไว้เลยว่าจะไม่ยิ้ม ถ่ายออกมาให้คนที่เห็นเข้าใจไปเลยว่าเราเป็นคนดุ แล้วพอวันจริงเหมียวจะหวาน เหมียวอยากให้คนรู้จักตัวตนของเรามากขึ้นว่ามีอีกมุม ต่างจากที่เห็นแค่ในภาพนิ่งอย่างเดียวค่ะ
งานเช้าวิถีไทย จัดงานเรียบง่ายแต่อบอุ่น
งานเช้าเหมียวจัดที่บ้าน ทำให้ค่อนข้างจำกัดเรื่องการใช้สถานที่ จึงตกแต่งให้เข้ากับธรรมชาติและตัวบ้านเลยค่ะ หลังคาบ้านเราสีออกตุ่นๆ ประกอบกับตัวเหมียวเองไม่ได้เป็นผู้หญิงสไตล์หวานจ๋า จึงใช้สีที่คุมโทน เป็นสีส้มอ่อนๆ เน้นดอกไม้สีขาวเขียว เวทีทำพิธี Backdrop ใช้พื้นหลังสีเทาอ่อน มีกรอบใบไม้ดอกไม้ ใช้ตัวอักษรสีเงินและใช้โซฟาสีขาวค่ะ
ช่วงพิธีการงานเช้าเราจัดเป็นแบบวิถีไทยเลยค่ะ เริ่มจาก 06.30 น. ทำพิธีสงฆ์ แล้วต่อด้วยแห่ขันหมากแบบกองยาวที่มีชาวบ้านมาร่วมแจมด้วยค่ะ พอขบวนขันหมากมาถึง เราจะปล่อยขันหมากเข้าไปในบ้าน ยกเว้นพ่อกับแม่เจ้าบ่าวที่กันให้นั่งอยู่ในจุดที่ฝ่ายบ้านเจ้าสาวเตรียมไว้ จากนั้นเจ้าบ่าวก็มาไหว้ฝากเนื้อฝากตัวกับพ่อแม่เหมียวค่ะ
หลังจากผ่านด่านเกมส์กั้นประตูแล้ว เจ้าบ่าวจะนำพวงมาลัยมาให้เหมียว แล้วพาไปรับพ่อแม่เจ้าบ่าวค่ะ เสร็จขั้นตอนนี้ก็เป็นการสู่ขอ นับสินสอด สวมแหวน รับไหว้ตามปกติ และสุดท้ายก็รดน้ำสังข์ค่ะ พอเสร็จพิธีแล้วก็จัดเลี้ยงอาหารเที่ยงแขก แล้วพอบ่ายโมงก็ไปทำพิธีส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอ โดยมีคุณพ่อคุณแม่เป็นคนส่งตัว เพราะท่านครองรักกันมานานและเราเชื่อว่าพ่อแม่รักเราที่สุดด้วยความบริสุทธิ์ใจค่ะ
Loft Mania Boutique Hotel Chumphon สถานที่แต่งงานสไตล์ loft ตกแต่งแบบที่ชอบได้ตรงใจ
สถานที่จัดงานตอนเย็นคือโรงแรม Loft Mania Boutique Hotel Chumphon(โรงแรมลอฟต์มาเนีย บูทิก) ค่ะ เราเลือกที่นี่เพราะเป็นโรงแรมใหม่และเป็นสไตล์ loft ปูนเปลือยแบบที่ชอบ ตัวห้องจัดงานโล่ง ไม่มีเสา เหมาะกับการจัดงานของเราดีค่ะ
สำหรับการตกแต่งงานเย็น เราใช้สีเทาเป็นหลัก และใช้ดอกไม้แซมเล็กน้อยค่ะ ซึ่งเมื่อเดินออกจากลิฟต์โต๊ะลงทะเบียนจะอยู่ขวามือเลยค่ะ ตรงข้ามจะเป็นรูปพรีเวดดิ้งรูปใหญ่ที่สุดที่เราใส่แฮชแท็กงานเราลงไปด้วย ส่วนซ้ายมือจะเป็น Backdrop ซึ่งระหว่างทางเดินจะมีรูปตั้งอยู่ขวามือค่ะ
ตรงส่วน Backdrop ตามคอนเซ็ปต์ที่ไม่เน้นดอกไม้ จึงใช้เป็นกิ่งไม้แทน ถ้ามองดีๆ จะเห็นว่าเราทำเป็นรูปหัวใจ และเมื่อไปยืนตรงกลาง ตัวเราก็จะต่อกิ่งไม้พอดี ส่วนพื้นหลังเราใช้เป็นสีขาวให้ดูโล่งสบายตาและทำโลโก้ตัวอักษรสีเงินค่ะ
ในห้องจัดงานเราเน้นเป็นสีขาวเขียว และด้วยความที่เราจัดเลี้ยงเป็นโต๊ะจีนจึงทำทางเดินไว้ตรงกลางแล้วแบ่งโต๊ะเป็นซ้ายขวา ส่วนเวทีหลักอยู่หน้าห้องค่ะ
สำหรับของชำร่วย เราใช้เป็นกุญแจหนังถักสีเงินกับสีทอง เพราะรู้สึกว่าแขกสามารถนำไปใช้ได้จริง นอกจากนี้ยังมีความหมายดีเป็นหนังถักคล้องเป็นห่วงด้วยกัน ดูหนักแน่น แล้วสีเงินสีทองที่เราเลือกก็เหมือนว่า แขกมางานแล้วได้เงินทองกลับไปด้วยค่ะ
อบอุ่นหัวใจด้วยความรักจากครอบครัวและคนสนิท
งานเย็นเราเริ่ม 18.00 น. ค่ะ ตอนเปิดตัว เหมียวจะเดินเข้างานกับคุณพ่อ เราไม่ได้ทำตามค่านิยม แต่เป็นเพราะเหมียวกับคุณพ่อสนิทกันมาก ชื่อจริง เนตรชนก ที่แปลว่าดวงตาพ่อ ท่านก็เป็นคนตั้งให้ เลยอยากมีกิมมิคเล็กๆ ด้วยกัน เหมือนว่า คุณพ่อได้เดินมาส่งดวงตาของตัวเองให้เจ้าบ่าวค่ะ จากนั้นเหมียวก็จะควงเจ้าบ่าวขึ้นเวที แล้วเชิญประธานมาอวยพรและคล้องมาลัย ต่อด้วยบ่าวสาวพูดความรู้สึกค่ะ
พรีเซนเทชั่นของเราไม่ใช่วีดีโอที่เล่าเรื่องความเป็นมาของบ่าวสาว แต่ใช้เป็นภาพบรรยากาศงานเช้าเพื่อให้แขกที่ไม่ได้ไปร่วมงานได้รับชมด้วย จากนั้นเหมียวก็เลือกเพื่อนสนิทของเหมียวสองคน ขึ้นมาพูดเรื่องราวของเหมียวกับเจ้าบ่าวแทน ซึ่งคนที่มาพูด คนหนึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักเหมียวกับเจ้าบ่าวตั้งแต่ ม.ปลาย อีกคนเป็นเพื่อนในมหาวิทยาลัยของเหมียว เหมียวให้มาพูดถึงเจ้าบ่าวในมุมที่เคยเห็น จากนั้นก็เป็นรินแชมเปญและโยนดอกไม้ค่ะ
พอจบงาน เหมือนเราได้ผ่านอุปสรรคต่างๆ มาแล้ว ว่ากันว่าช่วงแต่งงานจะเนื้อหอม คู่ของเหมียวไม่มีอุบัติเหตุ แต่มาเจอปัญหาเรื่องชุดแต่งงาน โชคดีที่ได้เจอร้านดีที่พร้อมช่วยเหลือเรา รวมถึงเจอเว็บไซต์ที่ดีที่เหมือนเป็นเพื่อนคุยของเราได้ เหมียวประทับใจ SabuyWedding มากเลยค่ะ งานที่เกิดขึ้นมาได้เพราะได้ข้อมูลความรู้มาจากเว็บนี้เลย จากคนไม่มีประสบการณ์เรื่องงานแต่งงาน มืดแปดด้าน เหมียวสามารถเตรียมงานได้เอง แถมยังไปเป็นแม่งานช่วยงานพี่สาวและงานของเพื่อนได้อีกด้วยค่ะ (หัวเราะ)
แนะนำบ่าวสาว
อย่าเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย : ให้หาร้านที่มีมาตรฐานจริงๆ เคยมีคนใช้และเคยได้รับบริการ ไม่ต้องหรูก็ได้ แต่ให้เลือกร้านที่มีความเป็นมืออาชีพ เพราะเขาจะใส่ใจเราค่ะ
ทุกอย่างในโลกไม่มีอะไรเพอร์เฟ็กต์ : แต่เราสามารถทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ และอย่าคาดหวัง แค่ได้ตามแบบ 90% ก็ดีแล้ว ดังนั้นอย่าไปนอยด์มาก แต่ถ้าโดนเอาเปรียบขนาดว่าจากขาวเป็นดำ เราต้องไฟท์ค่ะ