The Gardens of Dinsor Palaceสถานที่แต่งงานเน้นความเป็นธรรมชาติ
น้ำและคุณเจ้าบ่าวอยากจัดงานในสวนค่ะ เรามีภาพในหัวของสถานที่จัดงานแต่งงาน ว่าอยากได้แสงที่ส่องมาจากร่มไม้เหมือนภาพเขียน Impressionism เลยลงตัวที่ The Gardens of Dinsor Palace (วังดินสอ) จัดงานได้ทั้ง Indoor และ Outdoor ด้วยตัวบ้านเป็นวังเก่ามีความโก้เก๋ ดูดีแบบที่เราต้องการ ตอบโจทย์เรื่องแขกที่ เชิญเฉพาะแขกสนิท นอกจากนี้ยังมีข้อดีในเรื่องสวนมีต้นไม้เยอะ มีร่มไม้ทำให้ไม่ร้อนมาก ภาพถ่ายจากแสงธรรมชาติก็สวยงามมากเลยค่ะ
ธีมงาน Impressionism & Minimal garden
น้ำเลือกตกแต่งแบบเรียบน้อยด้วยใบไม้และดอกไม้สีขาว เพราะต้นทุนสถานที่ดีอยู่แล้ว เราสามารถคุม Budget ได้พอดี นอกจากสไตล์สวยถูกใจ ราคาต้องคุ้มค่ากับสิ่งที่เราได้รับด้วย เราสองคนอยากเก็บเงินไว้เริ่มต้นชีวิตคู่มากกว่า อะไรที่ไม่จำเป็นก็ยอมตัดทิ้ง อยู่บนพื้นฐานของความพอดี ซึ่งนี่แหละคือไลฟ์สไตล์ของเรา
พิธีการน้อยแต่ครบถ้วนเรียบง่าย
ถึงงานนี้จะมีพิธีการน้อยก็จริง แต่ก็ครบถ้วนทั้งหมด ตั้งแต่ยกขันหมากเบาๆ กั้นประตูกันสนุกสนาน พิธีหมั้นและยกน้ำชาในสวนที่ไม่อยากให้จีนจ๋ามากเกินไป เน้นความเรียบง่าย หลังสวมแหวน เราก็มีกล่าวแลก Marriage vow กัน คำกล่าวของน้ำเป็นกลอนที่เคยเขียนไว้ เป็นความรู้สึกที่อยากถ่ายทอดให้คุณเจ้าบ่าวได้ฟัง ไม่มีการกราบตักเจ้าบ่าวหรือไหว้กันและกัน แต่เปลี่ยนเป็นการกอดแทน ซึ่งทำให้เกิดช่วงเวลาที่อบอุ่นและประทับใจมากเลยค่ะ
งานแต่ง D.I.Y ที่ร่วมด้วยช่วยกัน
ไลฟ์สไตล์ของน้ำคือชอบออกแบบ ชอบทำอะไรเอง เลยเป็นการร่วมมือร่วมใจของเพื่อน ๆ พี่น้อง ญาติสนิทมาช่วยกันค่ะ เช่น คุกกี้ที่แจกเป็นของชำร่วยก็ได้พี่สาวของน้ำมาทำให้ คัพเค้กที่แจกแขก ได้ความช่วยเหลือจากเพื่อนที่รับทำขนม ได้ออกมาเป็นคัพเค้กรสวานิลลาสีขาว โรยหน้าด้วยดอกไม้และถั่ว น่ารักและอร่อยมาก
เปิดตัวบ่าวสาวสุดโรแมนติกด้วย first dance
ตอนเที่ยงเราเปิดตัวบ่าวสาวด้วยการเดินลงบันได พร้อมเปิดเพลง la vie en rose มีเซอร์ไพรส์แขกด้วยการเต้นรำเป็น first dance โดยที่ไม่ได้ซ้อมมาก่อน ที่น่ารักมากคือมันกลายเป็นการเต้นรำที่รายล้อมด้วยครอบครัวและเพื่อนฝูง สัมผัสได้ถึงกำลังใจและความรักจากทุกคนเลยค่ะ จากนั้นเราก็พูดแนะนำตัว มีช่วงที่คุณแม่ทั้งคู่กล่าวอวยพรบ่าวสาว เป็นซีนที่ซาบซึ้งใจ ทำให้รักครอบครัวมากขึ้นเลย
flow งานลื่นไหล บรรยากาศอิ่มเอมหัวใจที่สุด
ช่วงรับประทานอาหาร เราจะแยกกันไปพูดคุยกับแขกตามโต๊ะหรือตามกลุ่มที่เขาอยู่กัน จะได้ต้อนรับได้อย่างทั่วถึง หลังจากทานอาหารกันเริ่มอิ่ม เราจึงเชิญแขกมาถ่ายภาพหมู่ แล้วโยนช่อดอกไม้ จากนั้นแจกของชำร่วย ที่แจกหลังเสร็จงานแบบนี้เพราะน้ำอยากให้ทุกคน handfree ไม่ต้องมีของให้คอยเก็บคอยถือ พอทำ flow แบบนี้ทุกคนบอกสะดวกขึ้นมากเลยค่ะ
วันพิเศษกับฉันคนเดิมที่สวยขึ้น
เรื่องเสื้อผ้าหน้าผม ด้วยความที่น้ำทำร้านตัดชุดแต่งงานอยู่แล้ว เลยออกแบบชุดกี่เพ้าให้ดูเรียบร้อย แต่ทันสมัย บวกกับการแต่งหน้าทำผม ให้เหมือนตัวเองเวอร์ชั่นที่สวยขึ้น น้ำคิดว่าเจ้าสาวมีออร่าของความสุข ไม่ต้องแต่งเติมอะไรมากก็สวยค่ะ
กิมมิคที่สะท้อนความเป็นเราทุกอณู
งานของน้ำเน้นเรียบง่ายแต่มีกิมมิคเยอะ อยากให้แขกทุกคนรู้สึกสบาย ๆ จึงอาศัยเสิร์ฟอาหาร ขนมอร่อย ๆ พร้อมบรรยากาศร่มไม้เย็น ๆ และดนตรีเพราะ ๆ น้ำเลือกเพลงแนว swing jazz ซึ่งเป็นดนตรีแห่งยุค1920s ด้วยจังหวะยุกยิกขี้เล่น ชวนขยับสะโพก เลยเป็นดนตรีที่ช่วยเสริมภาพรวมงานให้มีบุคลิกความเป็นเรามากขึ้นค่ะ
รูปถ่ายครอบครัวคือภาพถ่ายพรีเวดดิ้งที่ดีที่สุด
น้ำและคุณเจ้าบ่าวเรามีความคิดเห็นตรงกันว่าจะไม่ถ่ายพรีเวดดิ้ง ด้วยความที่เราคบกันมานานมาก มี Story ร่วมกันเยอะ เราเลยใช้ภาพถ่ายครอบครัวตอนเจ้าบ่าวมาสู่ขอ เป็นภาพถ่ายพรีเวดดิ้งที่ดีที่สุดสำหรับเราทั้งคู่ค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
พอใจกับสิ่งที่ได้และใช้เวลาอยู่กับโมเม้นท์ให้มากที่สุด : เราต้องรู้จักที่จะพอ ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น พอใจกับสิ่งที่ได้ เพราะว่าสุดท้ายแล้วมันคืองานของคนสองคนและครอบครัวค่ะ บางอย่างอาจไม่เพอร์เฟ็กต์ ก็ให้ปล่อยดีเทลเล็ก ๆ เหล่านั้นไปดีกว่า พยายามสบตาแขกทุกคน ยิ้มให้กันมากที่สุด เอ็นจอยกับช่วงเวลานั้น เพราะมันจะเข้าไปอยู่ในความทรงจำของคุณตลอดไปค่ะ