สถานที่แต่งงานสวยจบ ครบทุกฟีลในหนึ่งฟลอร์
ผมกับเจ้าสาว (คุณเฟ็บ) เราเลือกโรงแรม The Landmark Bangkok (เดอะแลนด์มาร์ค กรุงเทพ) เป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน เพราะเป็นโรงแรม 5 ดาว ทำเลใจกลางเมือง สะดวกแก่การเดินทางครับ
ภาพลักษณ์ของโรงแรมดูสวยงามและอบอุ่น งานเช้าด้วยความที่เจ้าสาวชอบบรรยากาศ Glasshouse ของห้อง Conservatory ที่นี่จึงตอบโจทย์ นอกจากนี้ห้องจัดเลี้ยงงานเย็นยังมีขนาดใหญ่ สามารถรองรับแขกของเราได้เพียงพอ และมี Walkway ที่ยาวพอสำหรับซุ้มกระบี่ 9 คู่ แขก VIP สามารถนั่งใกล้ๆ เพื่อซึมซับบรรยากาศงานได้
สำหรับการวางคอนเซ็ปต์ เราอยากให้แขกเหมือนได้เข้ามายังโลกของเราเรื่อยๆ ผมวางแผนตั้งแต่การเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เนื่องจากเจ้าสาวเป็นอาจารย์หมออยู่ที่นั่น หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ปล่อยทีเซอร์การขอแต่งงาน และเชิญมางานแต่งงาน ออกมาทีละตัวในช่วง 2 เดือนก่อนแต่งงาน ส่วนพรีเซนเทชั่นเราใช้ธีม Destiny of love เพราะเราสองคนเจอกันจากการที่ผมขับรถไปชนรถเขาครับ (หัวเราะ)
หลอมรวมการตกแต่งแบบธรรมชาติ
นอกจากนี้ด้วยความที่เพื่อนเราเยอะ เราเลยมีจัดฟุตบอล Wedding Match กันสนุกๆ และเนื่องจากเจ้าบ่าวจบโรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จึงมีเพื่อนๆ เป็นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศและตำรวจ ซึ่งทั้ง 4 เหล่าก็ให้เกียรติมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วยครับ
สำหรับการตกแต่ง เจ้าสาวชอบงานแนวเจ้าหญิงในเทพนิยาย ดูหรูหรา แต่แฝงความเป็นธรรมชาติ งานนี้เลยจะมีพร็อพทั้งต้นไม้ กวาง และนกยูงสวยๆ ประดับอยู่ เราใช้ทีมออแกไนซ์ทั้งหมด 2 ทีม โดยบนเวทีเป็นทีมหนึ่ง ส่วนบรรยากาศในงานกับแบ็คดรอปก็อีกทีมหนึ่งครับ
การวางเลเอ้าท์งาน เราเลือกรูปจากพรีเวดดิ้ง 6 รูปมาฉายเป็นสไลด์ เวลาแขกขึ้นลิฟท์มา จะบังคับเลี้ยวซ้ายไปเจอแบ็คดรอปขนาดใหญ่ มีชื่อย่อบ่าวสาวด้านบน ขนาบข้างด้วยซากุระสีขาว 2 ต้น ถัดไปเป็นจุดลงทะเบียนกับซุ้มถ่ายรูป โดยเราเอาเรื่องราวตอนขอแต่งงานไปใส่ไว้ตรงนั้น ของชำร่วยเลือกใช้เป็นแจกันดอกไม้หอมสำหรับเสียบการ์ดได้ มี 2 สีคือ ชมพูกับเขียว ซึ่งเป็นธีมสีของงานนี้ครับ
ส่วนของการตกแต่งด้านในห้อง เราก็ดูรายละเอียดเองทั้งหมดเหมือนกัน อย่างบนเวที ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าผมแอบไม้เรียวไว้อันนึง เหมือนเป็นการแสดงความรัก เคารพ ระลึกถึง ต่ออาจารย์ท่านนึงของผม เวลาถ่ายรูปก็จะติดออกมาด้วยครับ
สำหรับฟีดแบคเรื่องอาหารก็ดีมากครับ คือได้รับคำชมว่าอร่อย ทั้งเนื้อออสเตรเลียอบ ปลาแซลมอน โดยเฉพาะซุ้มข้าวหน้าเป็ด กระเพาะปลา พาสต้า และก๋วยจั๊บ ได้รับความนิยมมาก และยังเป็นออปชั่นที่สามารถสั่งเพิ่มได้หากไม่เพียงพอ
เปิดตัวด้วยเซอร์ไพรส์ชุดใหญ่ตั้งแต่ต้น
ก่อนเริ่มพิธีการ เราได้รับเกียรติจาก อ.นพดล ฉิมท้วม เป็นผู้ทำการแสดงแซ็กโซโฟนและฮาร์โมนิกาให้ ถัดจากนั้นผมจะร้องเพลงของคุณเอ๊ะ จิรากรนำมาหนึ่งท่อน แล้วต่อด้วยคุณเอ๊ะตัวจริงซึ่งเป็นเซอร์ไพรส์ของงานในช่วงนี้ร้องสวนขึ้นมา นำเจ้าสาวกับคุณแม่เข้ามาทางประตูด้านหน้าครับ ถัดจากนั้นก็จะเดินผ่านทีมเพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาวกว่า 50 คนมายังกลางห้อง ผมคุกเข่ามอบดอกไม้ให้ แล้วขึ้นไปบนเวที
งานนี้ประธานของเรามีทั้งหมด 3 ท่าน คือท่านศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. ให้เกียรติมาเป็นประธานใหญ่ คล้องพวงมาลัย กล่าวถึงบ่าวสาว ต่อด้วยการเชิญประธานฝั่งเจ้าสาวซึ่งเป็นคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ขึ้นมากล่าว และปิดท้ายด้วยรองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธร ภาค 1 ของผมครับ
หลังจากนั้นก็จะเป็นการสัมภาษณ์บ่าวสาวถึงความประทับใจ ลอดซุ้มกระบี่ 9 คู่ไปตัดเค้ก เทแชมเปญ เจ้าสาวโยนดอกไม้ เจ้าบ่าวโยนลูกบอล เพื่อนเจ้าบ่าวจะได้ไม่งอน มีกิจกรรมร่วมกับเขาเหมือนกัน สุดท้ายเป็นอาฟเตอร์ปาร์ตี้เล็กๆ ที่เราจ้างวงดนตรีสดมาเพิ่ม มีเหล้า 7 ลัง ให้สำหรับเพื่อนๆ โดยใช้ห้องเดิมต่อ แค่ปรับเวทีให้เล็กลงครับ
ค่าของความทรงจำที่มีความหมาย
งานครั้งเดียวนี้เราอยากให้ทุกอย่างออกมาสมูธ รายละเอียดอย่างชื่อบ่าวสาวที่เราแฝงหูฟังหมอ กับหมวกตำรวจเข้าไปด้วย ก็เป็นไอคอนที่เราใส่ใจ ไม่อยากให้ตกหล่น ฟีดแบคจากแขกถือว่าดีมากๆ ทั้งแขกผู้ใหญ่และเพื่อนๆ ต่างชื่นชมและประทับใจ เราก็ดีใจที่ทุกคนเห็นถึงความตั้งใจของเรา ติดตามและอินไปกับเราด้วยจริงๆ ครับ
แนะนำบ่าวสาว
(เจ้าบ่าว) ลงดีเทลตั้งแต่แรก ทุกอย่างจะได้เป็นเรื่องราวเดียวกัน : ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความประทับใจให้กับแขกจริงๆ เงินที่เราใช้ในการจัดงาน เป็นเหมือนค่าความทรงจำให้กับแขกครับ ลองถามตัวเองดูว่าค่าความทรงจำของเรามีค่าขนาดไหน ควรค่าแก่การลงมาดูเองในทุกขั้นตอนรึเปล่า เราจะทำได้ดีที่สุดคือระยะเวลาในการเตรียมงาน เพราะวันงานจริงจะต้องมีคนช่วยตัดสินใจแทนเรา อย่างของผมก็เป็นน้องสาว ซึ่งถือเป็นกำลังเสริมที่สำคัญมากๆ ครับ
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
สถานที่แต่งงาน:
The Landmark Bangkokช่างภาพ วิดีโอ:
Love&Learn Galleria