JW Marriott Hotel Bangkok สถานที่หรูหราทันสมัย พร้อมแพ็คเกจแต่งงานราคาคุ้มค่า
ผึ้งกับโบ๊ท (เจ้าบ่าว) หาข้อมูลสถานที่แต่งงานจากทั้งงานเวดดิ้งแฟร์และเว็บไซต์ของ SabuyWedding ค่ะ ซึ่งโรงแรม JW Marriott Hotel Bangkok (เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ) มีแพ็กเกจงานแต่งที่ตอบโจทย์เราที่สุด ครอบคลุมการจัดงานในหลาย ๆ ด้านเลย มากกว่านั้น เราได้ทริปฮันนีมูนต่างประเทศจำนวน 3 วัน 2 คืน จากแพ็กเกจนี้ด้วย เรารู้สึกว่าสิ่งที่เราได้คุ้มค่ากว่าเงินที่จ่ายไปเยอะเลยค่ะ
งานหมั้นบ่ายเรียบง่าย พร้อมบรรยากาศชื่นมื่น
สำหรับพิธีหมั้นช่วงบ่าย เราเลือกจัดงานขนาดเล็กเชิญแขก 100 คน ที่ห้องสุขุมวิทวิวค่ะ เน้นตกแต่งเรียบง่าย โดยให้ทางโรงแรมจัดการให้ทั้งหมด จุดเด่นของห้องนี้คือผนังไม้สีเข้มที่มีดีไซน์สวยหรู ทำให้เราไม่ต้องตกแต่งเยอะค่ะ แค่ติดป้ายชื่อ นำดอกไม้บางส่วนของงานเย็นมาตกแต่งและเสริมด้วย Flower Stand ของโรงแรมก็เรียบร้อยค่ะ
ซึ่งก่อนพิธีจะเริ่ม เราเตรียมอาหารจัดเลี้ยงช่วงกลางวันไว้รองรับแขกก่อนงานเริ่ม โดยเมนูอาหารที่มี ได้แก่ เมนูเกี๊ยวน้ำ ข้าวมันไก่ หมูปิ้ง และ ข้าวเหนียวมะม่วงค่ะ
ส่วนลำดับพิธีการ เราเริ่มด้วยพิธีแห่ขันหมากผ่านประตูเงินประตูทอง รับตัวเจ้าสาว และเข้าไปทำพิธีในห้องจัดงานที่มีทั้งการมอบสินสอด สวมแหวน ทานขนมอี๋ ยกน้ำชา ต่อด้วยพิธีรดน้ำสังข์ก็เป็นอันจบพิธีค่ะ หลังจากนี้เราจะไปเปลี่ยนชุดสำหรับงานเลี้ยงฉลองค่ะโดยระหว่างนี้ เราเตรียมอาหารว่างไว้ให้แขกได้รองท้องกันด้วยเมนูพายหมูแดง ปอเปี๊ยะทอด ขนมจีบและติ่มซำค่ะ
งานฉลองเย็นหวานละมุน ด้วยสีพาสเทลสดใส
สำหรับงานเลี้ยงฉลอง เราอยากเน้นความน่ารักสดใสมากกว่าสวยหรูค่ะ โทนจัดงานที่เลือกจึงเป็นธีมสีชมพู สีขาวและสีเขียวเป็นหลัก โดยเน้นตกแต่ง 2 จุด คือแกลเลอรีภาพบ่าวสาวและแบ็คดรอปถ่ายภาพ ซึ่งเราตั้งใจให้แบ็คดรอปดูโดดเด่น ด้วยการนำดอกไม้ยักษ์มาตกแต่ง ผสมผสานไปกับดอกไม้จริง เพิ่มโครงสร้างวางซ้อนกันให้ดูมีมิติแต่ยังคงความละมุนตาจากสีที่ใช้ในการตกแต่งค่ะ
ส่วนภายในห้องบอลรูม โรงแรมจะดูแลเรื่องการตกแต่งให้เราทั้งหมดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นฐานเค้ก ฉากผ้าม่านกลิตเตอร์ พื้นเวทีบนเวที และป้ายชื่อบ่าวสาว นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังจัดการระบบแสง สี เสียงในงานให้ด้วยค่ะ
เราเริ่มงานฉลองด้วยการเปิดวีดีโอช่วงงานหมั้นที่เพิ่งจัดกันไปแบบสด ๆ ร้อน ๆ เลยค่ะ หลังจากนั้น ผึ้งจะเดินเข้าไปในห้องพร้อมร้องเพลง 'อีกสักกี่ครั้ง' ของแสตมป์ อภิวัชร์ค่ะ ส่วนโบ๊ทจะเดินมาจากหน้าเวทีเพื่อมารับตัวผึ้งและพาเดินคู่กันไปขึ้นเวที ถัดไปพิธีกรจะเชิญประธานคนให้เกียรติกล่าวคำอวยพรบนเวที สัมภาษณ์บ่าวสาวสั้น ๆ ก่อนที่เราจะเดินไปตัดเค้ก โยนดอกไม้ก็จบพิธีการบนเวทีค่ะ พอพิธีการน้อย จบไว เราจึงมีเวลามากพอที่จะไปเดินขอบคุณแขกอย่างใกล้ชิดทุกโต๊ะ
สำหรับของชำร่วย โบ๊ทเป็นคนคิดและออกแบบลูกอมตัดแฮนด์เมดของ Candy Crush เองค่ะ ซึ่งเราเพิ่มลวดลายมาจากชื่อเราสองคน อย่างผึ้ง (ชื่อเจ้าสาว) เรือ (โบ๊ท ชื่อเจ้าบ่าว) และลายหัวใจค่ะ
ในส่วนของอาหาร เราเลือกจัดเลี้ยงเมนูโต๊ะจีนไว้รองรับแขก 400 คนค่ะ เช่น หอยเชลล์ผัดพริกไทย ปลานึ่งซีอิ๊ว ไก่แช่เหล้า เป็ดปักกิ่ง และลูกแพร์ตุ๋นใส่น้ำแข็งค่ะ เราปลื้มใจกับรสชาติอาหารมากเพราะแขกชมมาตั้งแต่อาหารมื้อเที่ยงว่าอาหารอร่อยมากค่ะ
บ่าวสาวชื่นใจทีมงานดี งานนี้มีแต่ราบรื่น
เรารู้สึกประทับใจโรงแรมเรื่องการให้บริการที่สุดค่ะ พนักงานทุกคนรวมถึงเซลล์ดูแลเราดีมาก ๆ เราชอบความเอาใจใส่และคำแนะนำที่เซลล์ให้เราตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ ทำให้เข้าใจภาพรวมงานแต่งมากขึ้นด้วย และแพ็กเกจงานแต่งก็ถูกใจเราที่สุด คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายเลยค่ะ
คำแนะนำบ่าว-สาว
วางแผนงานแต่งอย่างน้อย 6 เดือน : เราควรให้เวลาในการเตรียมงานแต่งงานอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมงานแบบไม่เร่งรีบเกินไป ระยะเวลาในการเตรียมงานยังมีผลต่อการจองคิวต่าง ๆ เพราะหากเรามีเวลาเตรียมงานน้อย เวนเดอร์ต่าง ๆ อาจคิวเต็มไวและส่งผลให้สุดท้าย เราต้องไปเลือกในสิ่งที่เราไม่ชอบ
อยากได้งานที่ดูโปรเฟสชั่นแนล ควรจ้างออแกไนซ์ : การจ้างออแกไนซ์จัดงานแต่งมีส่วนสำคัญอย่างมาก นอกจากจะเป็นตัวช่วยในการรันคิวต่าง ๆ ให้งานราบรื่นแล้ว ออแกไนซ์จะทำให้งานแต่งของเราดูมืออาชีพ และยังให้บ่าวสาวไม่เครียดและวุ่นวายไปกับหน้างานด้วย
เลือกทีมงานไหนก็ตาม ดูรีวิวให้เยอะ : ไม่ว่าจะจ้างเวนเดอร์เจ้าไหนก็ตาม ก่อนอื่นต้องเช็คให้ชัวร์ ดูประวัติให้ดี เพราะเราอาจได้ยินบ่าวสาวหลายคู่โดนโกง หรือ โดนเทงานแต่งมาบ้าง ฉะนั้น การดูรีวิวให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็เป็นส่วนช่วยคัดกรองทีมที่จ้างมาได้ระดับหนึ่ง
Photographer : Sasori Studio
พบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ!
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าสาว SabuyWedding
หรือเลือกดูโปรโมชั่นตามประเภทร้าน
พบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ! (1 รายการ)