รีวิวงานแต่งธีมสี Slate Blue สวยเรียบหรู ดูโมเดิร์น @ The Berkeley Hotel Pratunam

The Berkeley Hotel Pratunam สถานที่แต่งงานไซส์ใหญ่ ใจกลางเมือง
           แนทเลือกจัดงานแต่งงานที่โรงแรม The Berkeley Hotel Pratunam ค่ะ ได้เจอโรงแรมตอนไปงานเวดดิ้งแฟร์ เซลล์พรีเซ้นท์ดีมาก เขามั่นใจว่าอาหารของโรงแรมอร่อย มี Voucher ให้ไปทานอาหารที่โรงแรม ซึ่งพอเราได้ลองแล้ว อร่อยจริงค่ะ แล้วสถานที่ก็ลงตัวกับความต้องการของเรา ห้องจัดงานใหญ่ มีบันไดวนที่ดูแกรนด์ ราคาโอเค นอกจากนี้โลเคชั่นยังดีด้วย อยู่ใจกลางเมือง ใกล้บ้านบ่าวสาวและญาติ การเดินทางสะดวก และมีที่จอดรถรองรับได้เป็นพันคัน ไม่ต้องห่วงว่าแขกจะไม่มีที่จอดรถเลยค่ะ
           อีกเหตุผลหลักที่ช่วยตัดสินใจคือเซลล์ค่ะ เราคิดว่าถ้าเซลล์ดีตั้งแต่แรก เขาจะสามารถดูแลเราได้ตลอดจนจบงาน แต่ถ้าแค่เริ่มก็ไม่ดีแล้ว เราว่าเขาไม่น่าจะดูแลเราได้ ซึ่งสำหรับ The Berkeley Hotel Pratunam ตั้งแต่เข้าไปดูสถานที่ คุณจ๊อบที่เป็นเซลล์ ช่วยเหลือดีมาก เขาเปิดพรีเซนเทชั่นงานอื่นให้ดู พาชมห้อง แนะนำและบริการอย่างดีเลย ประทับใจมาก จะบอกว่าตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะเซลล์ด้วยก็ได้ค่ะ

ห้องจัดเลี้ยงสุดอลัง จัดโต๊ะจีนได้ตอบโจทย์
          งานของแนทมีแขก 450 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ ซัพพลายเออร์และพาร์ทเนอร์ธุรกิจของเจ้าบ่าว เราจึงจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน ให้แขกนั่งสบายๆ ซึ่งก็ต้องใช้พื้นที่มาก จึงเลือกใช้ห้อง Mayfair Ballroom A-B ที่มีขนาดใหญ่ และมีพื้นที่โถงด้านหน้ากว้างขวาง สามารถใส่ลูกเล่นและตกแต่งพร็อพเยอะได้ค่ะ

จัดสรรพื้นที่เป๊ะ ดีไซน์งานให้เรียบหรู
          แนทชอบงานเรียบๆ กึ่งมินิมอล มีดอกไม้นิดหน่อยพอให้งานดูหวาน และมีความโมเดิร์นในตัว จึงตั้งธีมสีหลักเป็น Slate Blue (สีฟ้าครามน้ำทะเล) ภาพรวมงานจะเป็นโทนขาวที่หนักไปทางสีน้ำเงินค่ะ ซึ่งเมื่อแขกมาถึงจะเจอโต๊ะลงทะเบียนอยู่ทางขวามือ เราดีไซน์ให้ดูเรียบ มีแค่โลโก้ชื่อเราตรงกลาง และของชำร่วยที่เป็นกระเป๋าใส่เหรียญทรงสามเหลี่ยมจัดวางอยู่

          ตรงที่เขียนอวยพร เรามีให้เลือกด้วยค่ะ ว่าจะเขียนลงสมุดหรือโปสการ์ดรูปคู่เราสองคน แนทรู้สึกว่าการที่ให้เขียนลงโปสการ์ด เวลาที่กลับมาดู เราสามารถย้อนไปในวันงาน แล้วรับรู้ฟีลลิ่งของแขกได้ ดูน่ารักดีค่ะ
          ส่วนด้านซ้ายมือเป็นมุมถ่ายรูปที่เราตั้งใจทำไว้ให้แขกได้มาถ่ายรูปเล่นกันสนุกๆ ระหว่างรอ ซึ่งจะมีเป็น Gallery Wall ภาพพรีเวดดิ้งของแนทกับเจ้าบ่าว และมี Photo Booth แบบ 3 แอ็ค ถ่ายแล้วปริ้นท์ได้เลยค่ะ

          เนื่องจากโถงของโรงแรมกว้างมาก เราอยากให้พื้นที่ดูกระชับขึ้นอีกหน่อย และอยากให้มีอะไรมาบังบ่าวสาวเหมือนเป็นเซอร์ไพรส์แขก จึงทำอุโมงค์ต่อจาก Gallery Wall ขึ้นมา ด้านในจะมีรูปคู่บ่าวสาว ประดับด้วยไฟ และมีกิมมิคเป็นโบว์ที่มองไกลๆ เหมือนผีเสื้อ พอแขกเดินทะลุอุโมงค์แล้ว จะได้เจอบ่าวสาวหน้า Backdrop ที่ทำเป็นสีขาว มีโลโก้สี Slate Blue และใช้ดอกไม้ตามสีธีมค่ะ

          สำหรับในห้องจัดงาน ตัวห้องสวยดีอยู่แล้วค่ะ เราจึงไม่ได้ตกแต่งอะไรเพิ่มมาก แค่เอาไฟเข้าไปย้อมห้องตามธีมงานนิดหน่อย ฉากเวทีเราใช้ผ้าสีขาวแล้วห้อยไฟ LED และติดโลโก้ชื่อเราไว้ ดูเรียบๆ แต่ถ่ายรูปออกมาสวยเลย ส่วนเค้ก เรามีเวทีแยกออกมาอยู่หน้าเวทีหลัก และจัดโต๊ะจีนไว้ 2 ข้างทางเดิน โรงแรมแถมดอกไม้มาวางขนาบทางเดินให้ด้วยค่ะ น่ารักดี  ทำให้ทางเดินไม่โล่งเกินไปค่ะ

โมเม้นท์ความทรงจำ เซอร์ไพรส์จากบ่าวสาวที่ตราตรึงทั้งคู่
          ช่วงพิธีการเรารันงานไปตามปกติค่ะ เริ่มจากเปิดพรีเซนเทชั่นก่อน แล้วเปิดตัวบ่าวสาว โดยจะมีเพื่อน 18 คน เดินเข้าไปก่อนบ่าวสาวทีละคู่ ตอนนี้เราอยากให้บรรยากาศงานดูอลังนิดนึง จึงใส่เทียน LED ลงไปในกรวยดอกไม้ให้เพื่อนถือเข้างานด้วยค่ะ พอขึ้นบนเวทีแล้ว คุณพ่อของเจ้าบ่าวก็ขึ้นมากล่าวเปิดงาน จากนั้นพิธีกรก็จะสัมภาษณ์บ่าวสาว
           แนทมีเซอร์ไพรส์ที่เตรียมไว้ให้เจ้าบ่าวด้วย เตี๊ยมกับพิธีกรว่าสัมภาษณ์เสร็จให้เปิดวีดีโอที่แนทรวมภาพตั้งแต่เราคบกันตลอด 10 ปี เพื่อขอบคุณเจ้าบ่าว แต่บังเอิญเจ้าบ่าวเขาก็มีเหมือนกัน สัมภาษณ์ไปสักพัก พิธีกรก็บอกว่า เจ้าบ่าวมีเซอร์ไพรส์ให้เจ้าสาวนะ แล้วก็เปิดของเจ้าบ่าวที่ร่วมกันทำกับเพื่อนสนิทเราก่อน แนทชอบพี่จั๊ก ชวิน ที่เป็นนักร้อง เจ้าบ่าวกับเพื่อนๆ ก็ไปติดต่อพี่จั๊กขอให้ร้องเพลงแล้วอวยพรเราในคลิปวีดีโอ จากนั้นพิธีกรก็บอกว่าเจ้าสาวก็มีเหมือนกัน แล้วเปิดของเราค่ะ มันเป็นโมเม้นท์ที่ไม่ใช่แค่บ่าวสาวมีความสุข แต่แขกในงานก็ซึ้งไปกับเราด้วย

          เซอร์ไพรส์เสร็จก็เป็นตัดเค้กค่ะ เราพยายามให้บรรยากาศงานดูสนุก ไม่เหมือนคนอื่นและไม่เป็นทางการมากไป จึงมีเกมให้แขกเล่นด้วย ชื่อเกม Kahoot โดยจะให้ทุกคนเข้าลิ้งค์ในมือถือตัวเอง แล้วตอบคำถามที่เราเตรียมมา 5 ข้อ ใครตอบได้ถูกและเร็วสุดจะได้ Voucher เซ็นทรัลไปเป็นรางวัลค่ะ จากนั้นก็เป็นโยนดอกไม้ ซึ่งก็มี  Voucher ให้เหมือนกัน เราเข้าใจว่าบางทีเขาจะเขิน ไม่กล้าออกมา เลยมีรางวัลให้ คนจะได้มาสนุกกันค่ะ
           เรามีพิธียกน้ำชาที่หน้า Backdrop ต่อด้วย ที่จริงงานจบไปตั้งแต่เช้าแล้ว แต่มีแขกบางคนไม่ได้มา เราจึงจัดเป็นพิธีง่ายๆ ขึ้นมา แค่ยกน้ำชา มอบของขวัญ รับไหว้ ก็เสร็จแล้วค่ะ ซึ่งทางโรงแรมก็มาจัดโต๊ะ เซ็ตสถานที่ เอาชุดน้ำชามาให้อีกรอบ คอยช่วยเสิร์ฟอย่างดีเลย

          งานนี้เราประทับใจทุกอย่าง ตอนแรกก็คิดมากว่าจะใช้แพลนเนอร์รันคิวดีไหม แต่เราหาข้อมูลเอง ครบหมดแล้ว เลยรู้สึกว่าแพลนเนอร์ไม่ได้จำเป็น ส่วนรันคิว สุดท้ายก็ไม่ได้จ้างค่ะ เพราะคุณจ๊อบ เซลล์โรงแรม ให้ความช่วยเหลือดีมาก เราแค่ลิสต์ไว้ให้เขาก่อนเริ่มงานว่าใครเป็นใคร ทำอะไร คิวไหน คุณจ๊อบจะคอยตามและรันคิวให้หมดเลย คอยช่วยเหลือตลอด 
          เรื่องอาหารฟีดแบคแขกคือดีเลยค่ะ ผู้ใหญ่ชม คุณภาพดี แล้วบรรยากาศโดยรวมวันงาน ออแกไนเซอร์ก็ตกแต่งได้โอเค ในงานตั้งแต่พรีเซนเทชั่นก็มีคนชอบมาก ยิ่งมีเซอร์ไพรส์บ่าวสาวให้แก่กัน แขกก็ยิ่งซึ้งไปกับงาน แล้วมีเล่นเกมอีก เขาก็รู้สึกเหมือนไม่ได้มางานแต่ง ได้เอนจอยและมีส่วนร่วม ทุกอย่างที่ออกมาคือความประทับใจของเรามากๆ ค่ะ

แนะนำบ่าวสาว
วางแพลน เผื่อเวลา : ควรเตรียมตัวล่วงหน้า ตั้งไทม์ไลน์ ขีดเส้นตายไว้เลยว่าเมื่อไหร่งานอะไรต้องเสร็จ เพราะเราต้องใช้เวลาเลือกร้านกว่าจะเจอที่ถูกใจจริงๆ แล้วอย่าลืมเผื่อเวลาให้ร้านด้วย ต้องรู้ว่าการ์ดใช้เวลาผลิตเท่าไหร่ ออแกไนเซอร์ใช้เวลาออกแบบและแก้แบบนานไหม จะได้เตรียมงานทันค่ะ  
บรีฟช่างภาพ : อยากให้โฟกัสใคร อยากได้ภาพแบบไหน ต้องบอกให้ละเอียดค่ะ ชี้ให้ดูเลยว่าใครเป็นใครและจะให้ถ่ายใครบ้าง เพราะช่างภาพจะไม่รู้ว่ากลุ่มนี้คือเพื่อนเจ้าสาว กลุ่มนี้คือญาติเรา แล้วภาพที่ได้จะไม่ตรงใจเราค่ะ
เลือกสถานที่ต้องดูเซลล์ด้วย : ดูว่าตั้งแต่แรกเซลล์ดูแลเราได้ดีไหม ถ้าดี เราสามารถมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าเขาจะดูแลเราได้จนจบงาน แต่ถ้าเจอคนที่ตั้งแต่แรกที่ติดต่อกัน บอกจะโทรกลับ แล้วไม่โทรกลับ ไม่ค่อยตามงาน ต่อไปเค้าก็อาจจะดูแลและคอยช่วยเหลือในงานได้ไม่เต็มที่ ฉะนั้นต้องพิจารณาดีๆ ก่อนตัดสินใจเลือกโรงแรมค่ะ