ตกแต่งสวยชิค ในสถานที่สุดแกรนด์ @The Peninsula Bangkok
เจนเลือกสถานที่แต่งงานที่ห้องสกุณตลา บอลรูม โรงแรม The Peninsula Bangkok (เดอะ เพนนินซูล่า กรุงเทพ) ค่ะ เราจัดงานแบบหมั้นเช้าเลี้ยงเที่ยง โดยเหตุผลนึงที่เลือกที่นี่คือ ตัวห้องเองก็มี Daylight ส่องถึงอยู่แล้ว รับกับส่วนตกแต่งที่เป็น Backdrop ของเราตรงด้านหน้า แล้วพอถึงช่วงเลี้ยงเที่ยง เราค่อยย้ายเข้าไปในส่วนด้านในห้องค่ะ
ส่วนตัวเจนชอบงานอาร์ต งานแฟชั่น ดังนั้นโจทย์ของเรา คืออยากได้งานที่ผสมความเป็นศิลปะ แต่ออกแนวจีนๆ โดยใส่สีที่เราชอบอย่าง แดง ชมพู ขาว ม่วงลงไป และใช้วัสดุที่หลากหลาย ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามีส่วนตกแต่งที่เป็นพู่ปล่อยชาย ทำจากไหมญี่ปุ่น มีไข่มุกประดับค่ะ เราเลือกใช้ Backdrop ตรงนี้เป็นทั้งมุมถ่ายรูปและมุมทำพิธี ให้ดูเต็มในจุดเดียวไปเลย
การตกแต่งงานทั้งหมด ต้องขอชมทีมที่ดูแลด้วย ว่าเนรมิตทุกอย่างได้ดีมากๆ เพราะงานเราค่อนข้างฉุกละหุก มีเวลาไม่นานเลย แต่เขาทำออกมาได้ดี ดีเทลค่อนข้างได้ตรงตามที่ต้องการ
งานนี้เพื่อนบ่าวสาวมาเต็มมมม!!!
สำหรับเรื่องชุดของเพื่อนๆ เนื่องจากเรามีเพื่อนในวงการแฟชั่นอยู่แล้ว เลยคุยเรื่องแบบกัน เราไม่อยากให้ชุดดูเหมือนกันเป๊ะ เลยให้เลือกเป็นช้อยส์ระหว่างโทนสีแดง ชมพู ม่วง แล้วแซมสีขาวลงไป ตามสีธีม นอกจากนี้ด้วยความที่บ่าวสาวเราจบวิศวะมา เพื่อนผู้ชายก็จะเยอะ เราก็ให้เขาใส่สูทลายดอกกันมาค่ะ แต่จาก 15 คน ยอมใส่สัก 5 แต่ก็เอาล่ะ ตามนั้นค่ะ (หัวเราะ)
สวยมีสไตล์ ไฮไลท์อยู่ที่ชุดและพร็อพ
สำหรับพิธีหมั้นของเรา จะเริ่มด้วยพิธีเจริญน้ำพระพุทธมนต์ในช่วงเช้า ตอน 07.15 น. ต่อด้วยการแห่ขันหมาก สวมแหวน รดน้ำสังข์ รับไหว้ และยกน้ำชา โดยชุดช่วงเลี้ยงพระ ถวายสังฆทาน จะใช้เป็นชุดไทยโมเดิร์นค่ะ โจทย์คืออยากได้ชุดไทยที่ดูไม่ไทยจ๋า ออกแบบแบบปล่อยชายด้านหลัง ตัวเสื้อเลือกเท็กซ์เจอร์สีเงิน ออกโทนขาวหน่อยนึง
ส่วนชุดสำหรับช่วงยกน้ำชา เจนเปลี่ยนเป็นชุดสีชมพู Fuchsia นอกจากนี้ยังได้เพื่อน (Eric Tobua) ช่วยทำหมวกรูปฟลามิงโก้ให้ ใส่เป็นกิมมิคเก๋ๆ ถ่ายรูปเล่นได้ ตรงสไตล์เราที่ชอบใส่พร็อพอยู่แล้ว ฝั่งคุณเจ้าบ่าวก็ใส่หมวกสูงเหมือนนักมายากล ช่วยดึงซีนกลับมาที่คู่เรา ไม่โดนแย่งซีน เพราะเพื่อนเจ้าสาวชุดพู่ใหญ่มาก อลังการมากจริงค่ะ (หัวเราะ)
ของรับไหว้ในช่วงนี้ เจนเลือกใช้เป็นผ้าห่ม แล้วห่อแพ็กเกจด้วยกระเป๋า จะได้ใช้ได้ทั้งสองส่วน ส่วนของชำร่วยเราใช้ที่ดักฝัน สั่งจากเชียงใหม่ แรนด้อมสีให้ไม่ซ้ำกันเลย แต่ละอันจะยูนีคจริงๆ
พอถึงช่วงเลี้ยงเที่ยง เจนก็จะไปเปลี่ยนชุด โดยเลือกร้านที่เด่นเรื่องการเลเซอร์คัทผ้าค่ะ ชุดนี้จะเป็นแบบสายเดี่ยว ยาวประมาณตาตุ่ม เจนอยากได้ชุดที่สบายตัว คล่องแคล่ว เพราะเราจัด Sit-down Lunch จะได้ทักทายแขกได้ง่ายๆ ส่วนรองเท้าเป็นลายดอกไม้สีม่วง ใส่ตลอดงาน ดูคอนทราสต์กับชุดจีนของเราดีค่ะ
อบอุ่นและมีความหมาย ได้อารมณ์กันเองที่สุด
การจัดเซ็ตติ้งโต๊ะ จะเป็นแบบโต๊ะจีน (โต๊ะกลม) 25 โต๊ะ ส่วนของบ้านบ่าวสาวจะเป็นลองเทเบิ้ลด้านหน้างาน นั่งทานข้าวร่วมกันไปเลย ทางส่วนสถานที่ก็แยกอาหารเป็นคำๆ มาให้ สะดวกมาก และเนื่องจากวันที่แต่งงานเป็นวันเกิดคุณพ่อ เลยเปลี่ยนจากเค้กทรงสูงทั่วไป เป็นเค้กวันเกิด และเลือกเค้กแครอทที่คุณพ่อทานได้ ให้เป็นงานที่มีความหมายกับเราจริงๆ ค่ะ
ในงานเรามีกล่าวขอบคุณแขก เพื่อนบ่าวสาวกล่าวสปีชถึงเรา มีดีเจมาเปิดเพลงระหว่างทานข้าว โดยเลือกเพลงที่เราชอบ เพื่อให้บรรยากาศรีแล็กซ์ และเป็นกันเองที่สุด
คงอยู่ในใจและความทรงจำเสมอ
เหตุผลหลักที่เจนมีเวลาเตรียมตัวแค่เดือนเดียวก่อนถึงวันงานนั้น เพราะคุณพ่อของเจนเพิ่งทราบว่าเป็นมะเร็งค่ะ ดังนั้นเราเลยโฟกัสไปที่คุณพ่อเป็นหลัก งานทุกอย่างทั้งเวลา แขกผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งการจัดงาน ก็ทำให้สบายที่สุด
งานเราไม่มีเวที ทุกอย่างจะได้เป็นระดับเดียวกัน คุณพ่อมาร่วมงานได้โดยที่ไม่เหนื่อยเกินไป ในขณะเดียวกันเราก็พยายามใส่สิ่งที่เราชอบ ให้เหมาะสมที่จะอยู่ในความทรงจำของบ่าวสาวและเพื่อนๆ ทุกคน โชคดีที่งานนี้เราเลือกแต่คนสนิทที่เราอยากให้เวลาด้วยกัน เลยไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังมาก ทุกอย่างคือความอบอุ่น สนิทใจ เป็นตัวเองได้เต็มที่จริงๆ
แนะนำบ่าวสาว
เลือกร้านที่เราชอบจากสไตล์ : เพราะเราจะรู้ตั้งแต่แรกเลยค่ะ ว่าเราจะได้อะไรจากเขาบ้าง ง่ายกับบ่าวสาว ง่ายกับร้านค้าด้วย อย่างของเจน เราใช้คนที่เรารู้จักเลย เคยเห็นผลงานกันอยู่แล้ว แล้วก็หาเรฟไปให้เขาเห็นภาพเพิ่มขึ้น ผลลัพธ์ออกมาทุกอย่างก็ใกล้เคียงกับที่เราอยากได้
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
ช่างภาพ วิดีโอ:
Sixtysix Visualสถานที่แต่งงาน:
The Peninsula Bangkok