Silooet House สถานที่สวย พร้อมบริการครบจบในที่เดียว
ด้งกับพี่เคน(เจ้าบ่าว) ชอบความเรียบง่ายสไตล์มินิมอลมากกว่าการจัดงานตามโรงแรม จึงมองหาสถานที่จัดงานแต่งงานแนวนี้ Silooet House(ซิลูเอท เฮ้าส์) ถูกใจและตอบโจทย์เราหลายอย่าง ไม่ว่าจะตัวอาคารซึ่งมีหน้าต่างแต่ละมุมที่สามารถรับแสงธรรมชาติได้ต่างกัน ทำให้ถ่ายรูปมุมไหนก็ดูสวย ทั้งยังมีบริการต่างๆทั้งออแกไนซ์ ทีมรันคิว ทีมตกแต่ง พิธีกร และอาหารจัดเลี้ยง ด้งแค่นัดช่างแต่งหน้าและพกชุดเจ้าสาวไปก็จัดงานแต่งได้เลยค่ะ (หัวเราะ)
เพิ่มความอบอุ่นให้งาน ด้วยธีมสี Earth Tone
เราจัดงานหมั้นเช้าและฉลองเที่ยง และเลือกตกแต่งงานด้วยกลุ่มสี Earth Tone อย่างสีน้ำตาล สีครีม ที่ดูอบอุ่นและผ่อนคลาย ทั้งยังเข้ากันได้ดีกับสไตล์มินิมอล สำหรับการตกแต่งเราใช้แค่ชื่อบ่าว-สาวแปะที่ผนังสีขาวด้านหนึ่งของอาคาร แต่พอถ่ายภาพออกมากลับดูเก๋ เพราะแสงและเงาของสถานที่ช่วยให้ทุกอย่างดูสวยงามลงตัวค่ะ
พอเข้ามาด้านในตัวอาคาร จะมีห้อง Lightbrary เป็นห้องกระจกที่ดูเหมือนห้องรับแขก สามารถมองออกไปเห็นความร่มรื่นของสวนหย่อมภายนอกได้ เราจึงใช้เป็นจุดตกแต่งภาพบ่าว-สาว ขนาดเล็กประดับตามโต๊ะและขนาดกลางที่วางบนขาตั้ง ส่วนด้านในสุดของห้องตรงผนังตกแต่งด้วยดอกไม้จริง โดยจะเน้นดอกกุหลาบค่ะ ซึ่งมุมนี้จะเป็นทั้งฉากหลังของการทำพิธีรดน้ำสังข์และฉากแบ็คดร็อปถ่ายภาพสำหรับงานเลี้ยงช่วงเที่ยงค่ะ และแม้ว่าภายในอาคารจะมีแสงส่องเข้ามา แต่ไม่ต้องกลัวเรื่องอากาศร้อน เพราะแขกที่มาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าซิลูเอทขึ้นชื่อเรื่องแอร์เย็นฉ่ำมากค่ะ (หัวเราะ)
ห้องโถงตรงกลาง มีจุดทำพิธีหมั้นตรงประตูบานใหญ่ที่ตั้งใจปิดไว้เพื่อให้แขกเข้า-ออกได้ทางเดียว ตกแต่งด้วยพุ่มดอกไม้และเก้าอี้ หลังจากเสร็จพิธีเช้า ก็เข้าไปทำพิธีเลี้ยงฉลอง ในห้อง Skylight ต่อ ที่เป็น Main Hall ของที่นี่ ซึ่งมีความโดดเด่น เรื่องความสูงโล่งโปร่งสบาย
รูปแบบโต๊ะงานนี้ จะมีทั้งโต๊ะ Long Table ประมาณ 12 โต๊ะ และโต๊ะบาร์ที่รับรองแขกได้ 250 ท่านเหตุผลที่เราไม่เลือกจัดโต๊ะแบบ Long Table อย่างเดียว เพราะส่วนตัวคิดว่า ถ้ามีแขกกลุ่มยืนที่โต๊ะบาร์ เขาจะสามารถเดินไปคุยเล่นกันข้ามโต๊ะกันได้ บรรยากาศในงานจะดูเฮฮา คึกครื้นขึ้น สำหรับที่จัดวางอาหารนั้น เราตั้งใจจัดห้องกระจกที่ใกล้กับโถงกลางไว้เป็นโซนอาหารโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นคอฟฟี่เบรคเช้า หรืออาหารเลี้ยงเที่ยง ก็จะอยู่ตรงนี้หมดเลยค่ะ
และเพราะพี่เคนชอบปลูกต้นไม้ เราเลยยกหน้าที่หาของชำร่วยให้เขารับผิดชอบค่ะ (หัวเราะ) ซึ่งพี่เคนเลือกเป็นชุดเพาะเมล็ดแบบ DIY ที่มีให้เลือกถึงสามสายพันธุ์ คือ คอสมอสชมพู เซโลเซีย และกรีนโอ๊ค มาพร้อมวิธีปลูก โดยแขกสามารถนำไปลงดินได้เลยค่ะ
พิธีการชิล สบาย ตามสไตล์บ่าว-สาว
สำหรับพิธีหมั้นช่วงเช้าจะมีเฉพาะแขกผู้ใหญ่ ครอบครัวและเพื่อนสนิทเท่านั้นค่ะ เราเริ่มจากตักบาตรด้านนอก แล้วต่อด้วยเจรจาสู่ขอกับผู้ใหญ่ จากนั้นพี่เคนถึงออกมารับตัวด้งที่นั่งรออยู่บริเวณสวนกลับเข้าไปทำพิธีมอบสินสอด สวมแหวน และรับไหว้ แล้วทุกคนก็ย้ายมาห้อง Lightbrary เพื่อทำพิธีรดน้ำสังข์ จึงเสร็จสิ้นพิธีหมั้นช่วงเช้า ส่วนเราก็แวบไปเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมรับแขกงานเลี้ยงเที่ยงค่ะ
เราเริ่มงานฉลองเที่ยงด้วยการเปิดตัวบ่าว-สาว ที่ด้งกับพี่เคนจะเดินลงบันไดมาจากชั้นสอง โดยมีหลานของด้งและลูกของเพื่อนสนิทพี่เคนเดินนำหน้า งานนี้ไม่มีประธาน แต่มีเพื่อนบ่าว-สาวฝั่งละสามคนมาพูดความในใจ และบ่าว-สาวก็จะพูดถึงกันและกันนิดหน่อย จากนั้นก็ราดซอสเค้ก แล้วโยนดอกไม้ ก็จบพิธีทางการ จากนั้นเราถึงค่อยมาถ่ายภาพกันกับแขกยังจุดแบ็คดรอปถ่ายภาพ ณ ห้อง Lightbrary จบพิธีนี้ ก็เป็นเวลาที่เราและแขกได้สนุกและรีแล็กซ์กันเต็มที่เลยค่ะ
สำหรับอาหารงานนี้เป็นซุ้มอาหารที่มีทั้งเมนูไทย จีน ฝรั่ง เช่น ข้าวมันไก่ ยำผลไม้ ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย กล้วยหอมทอด บาร์บีคิวหมูและไก่ ข้าวไข่ข้น ซึ่งเราเองก็ดีใจค่ะ ที่แขกบอกว่าอาหารงานนี้อร่อยดี โดยเฉพาะกล้วยหอมทอดและยำผลไม้ ที่บางท่านถึงขั้นถามว่าสั่งจากเจ้าไหนมา (หัวเราะ)
งานดีทุกอย่าง บ่าว-สาวมีแต่เรื่องประทับใจ
เราดีใจค่ะ ที่วันงานมีแต่เรื่องน่าประทับใจ เริ่มตั้งแต่ครอบครัวที่ให้อิสระกับเรามากจนไม่มีความกดดันหรือความกังวลใจใด ๆ และเรายังประทับใจที่มีเพื่อนทั้งสามช่วงวัยมาพูดความในใจ โดยทุกคนล้วนผ่านประสบการณ์มาด้วยกัน และรู้เรื่องเราดีที่สุด พอถึงเวลาที่เขาอวยพร เราก็บ่อน้ำตาแตกเลยค่ะ อีกเรื่องคือประทับใจพี่เคนมาก ไม่คิดว่าเขาจะทำให้เราซาบซึ้งจนร้องไห้ได้ เพราะปกติเขาไม่ใช่คนหวานเลย แต่วันงาน เขาเผยความในใจออกมาจนเรายิ้มไม่หุบเลยค่ะ (หัวเราะ)
นอกจากนี้ ยังประทับใจช่างแต่งหน้าที่ใช้มาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย ยังคงรู้ใจและทำให้ในวันงาน เราสวยมั่นใจในแบบที่เป็นตัวเอง อีกทั้ง ชุดเจ้าสาวทั้งของร้านเพื่อนและร้านที่หามาเองก็สวยถูกใจ ช่างภาพก็ถ่ายแนวอาร์ตแบบที่อยากได้ แม้ว่างานแต่งจะผ่านไปแล้ว เรายังลงภาพอยู่เรื่อย ๆ เลยค่ะ (หัวเราะ)
สุดท้าย เราประทับใจ ซิลูเอท เฮ้าส์ มาก ๆ เพราะนอกจากสถานที่สวยแล้ว ยังมีบริการครบครันแบบ One Stop Service และด้วยความมืออาชีพของเขานี่เอง งานจึงราบรื่นและเราได้รับแต่ความทรงจำดี ๆ ค่ะ
คำแนะนำบ่าวสาว
รู้ใจตัวเอง และหาข้อมูลให้เยอะ : ก่อนจะเลือกอะไร อยากให้รู้ใจตัวเองก่อน เมื่อรู้ใจตัวเองชัดเจนแล้ว จะทำให้เรามีการตัดสินใจที่ดี ไม่ไขว้เขวง่าย จากนั้นให้หาข้อมูลเกี่ยวกับงานแต่งให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะยิ่งเราหาข้อมูลได้เยอะเท่าไหร่ เรายิ่งมีโอกาสได้เจอสิ่งดีๆ มากขึ้นเท่านั้น