รีวิวงานแต่ง DIY ธีม 'สีชมพู' และ 'รูปหัวใจ' @ Bliston Suwan Park View Hotel and Residence

Bliston Suwan Park View Hotel and Residence สถานที่ใจกลางเมือง สวยและเป็นส่วนตัว

     พิ้งค์กับร็อค (เจ้าบ่าว) เลือกจัดงานวันธรรมดา เราเลยเลือกสถานที่จัดงานให้ใกล้ที่ทำงานฝั่งเจ้าบ่าว ซึ่ง Bliston Suwan Park View Hotel & Serviced Residence(โรงแรม บลิสตัน สุวรรณ พาร์ควิว) ตอบโจทย์ที่สุด เพราะใกล้ที่ทำงานของร็อค สามารถเดินทางได้โดยใช้เวลาเพียง 5-10 นาที นอกจากจุดทำพิธีหมั้นจะมีมุมผนังกระจกใสที่มองเห็นวิวสวนและวิวเมืองแล้ว ยังสามารถมองเห็นตึกที่ทำงานของร็อคได้ด้วยค่ะ (หัวเราะ) เป็นมุมที่เจ้าบ่าวชอบมากค่ะ

       อีกเหตุผลที่เลือกโรงแรมนี้คือไอศกรีมอร่อยมาก ได้มีโอกาสชิมตอนไปคุยเรื่องงานแต่งกับคุณอ้อ เซลล์ของโรงแรม กลายเป็นว่าพอเวลาเราไปคุยงานกับคุณอ้อทีไร เป็นต้องขอไอศกรีมชิมทุกครั้งไปค่ะ (หัวเราะ)

'หยิบหัวใจ ใส่สีชมพู' เนรมิตงานจากความชอบและการเป็นตัวเอง

       สำหรับการตกแต่งงานนั้น มันลิงก์มาจากความคิดที่เราอยากใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวมาพร้อมผมสีชมพู นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราเลือกธีมสีชมพูมาตกแต่งงาน อีกทั้งยังเป็นสีโปรด และสอดคล้องกับชื่อเล่นของพิ้งค์เองด้วย สำหรับ Dress Code ให้แขกจะเป็น Shades of Pink คือสามารถใส่ได้ทุกเฉดอ่อนและเข้มของสีชมพูค่ะ อีกกิมมิกของงานคือรูปหัวใจ ส่วนตัวชอบเพราะเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความรักได้ดี ทั้งการ์ดเชิญ ป้ายชื่อบ่าว-สาว รวมถึงแหวนหมั้นเพชรก็เป็นรูปหัวใจ นอกจากนี้ แหวนคู่ที่เราเลือกจะเป็นแหวนในคอลเลกชั่นของ Gucci Link to Love พอเราได้ยินชื่อคอลเลกชั่น เราชอบมากและมองว่ามันมีความหมายที่ดี จึงนำมาเป็นแฮชแท็ก #PINKROCKLINKTOLOVE ในวันงานแต่งของเราด้วยค่ะ

       การตกแต่ง เริ่มจากป้ายชื่อบ่าว-สาวที่ตั้งอยู่หน้าทางเข้างาน มี Flower Stand ข้างกัน รวมถึงมีโฟโต้บูธอยู่ใกล้ ๆ ด้วย ส่วนภาพคู่ เราใช้ภาพเล็กใส่กรอบรูปวางตามโต๊ะต่าง ๆ เพราะเข้ากับงานเรามากกว่ามุมแกลเลอรีขนาดใหญ่ค่ะ

       ส่วนจุดทำพิธีหมั้น บนโต๊ะมีดอกไม้จริงใส่แจกันของโรงแรม ที่พื้นประดับด้วยพุ่มดอกเลาสีครีมชมพูขนาบสองข้างโต๊ะ ส่วนป้ายชื่อบ่าว-สาวที่ติดตรงกระจกนั้น เราสั่งผลิตเอง โดยมีคุณพ่อของเราและคนอื่น ๆ ที่ไปช่วยกันปีนติดป้ายชื่อก่อนวันงาน (หัวเราะ) เราจัดงานเหมือน DIY ซึ่งทั้งญาติและคนในครอบครัวให้ความร่วมมือกันดีมากค่ะ (หัวเราะ) 

       ส่วนในห้องจัดงานที่นี่ให้บรรยากาศดูอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน และเรามีวงดนตรีสดด้วย ถ้าตกแต่งเยอะก็กลัวว่าจะแน่นไป เลยไม่ได้ตกแต่งมากค่ะ

       ของชำร่วยเป็นอีกสิ่งที่เราภูมิใจเสนอ นั่นคือนมข้นหวานค่ะ มาจากการที่คุณแม่อยากได้ของที่เป็นมงคลและสื่อถึงความหวาน ประกอบกับส่วนตัวก็อยากหาของชำร่วยที่แขกใช้ประโยชน์ได้จริง ก็เลยมาลงตัวที่สิ่งนี้ ซึ่งแขกทุกคนก็ชื่นชอบกันมากค่ะ

จัดพิธีการตามเหมาะสม เน้นความสุขของทุกฝ่าย

       ด้วยความที่เจ้าบ่าวและพิ้งค์นับถือต่างศาสนากัน เราจึงเลือกทำพิธีหมั้นตามความเหมาะสม เริ่มแรกเราจัดคอฟฟี่เบรคและข้าวต้มให้แขกรับประทานกันก่อน จากนั้นเริ่มพิธีแห่ขันหมาก แต่ด้วยความที่มีประตูเงินประตูทองหลายประตู และเราก็บอกเพื่อน ๆ ว่าแกล้งเจ้าบ่าวได้เต็มที่เลยนะ (หัวเราะ) จึงทำให้ช่วงนี้กินเวลานานไปนิด ทำให้ผลกับพิธีสู่ขอและรับตัวเจ้าสาว ต้องชมนายพิธีที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี โดยสลับคิวจากเดิมที่ต้องมอบสินสอดก่อน มาเป็นสวมแหวนก่อนมอบสินสอดเพื่อให้เป็นไปตามฤกษ์ จากนั้นจึงจดทะเบียนสมรส จบที่รับไหว้ มีช่วงเบรคเล็กน้อยแล้วค่อยเข้าสู่งานฉลองตอนเที่ยงค่ะ

       งานฉลองนี้มีแขกประมาณ 150 ท่านค่ะ เราเริ่มด้วยการถ่ายภาพร่วมกับแขกตรงจุดทำพิธีหมั้น เสร็จแล้วก็ฉายวีดีโอพรีเซนเตชั่น ก่อนที่บ่าว-สาวจะเข้าไปในห้อง สำหรับงานนี้เราไม่มีประธานในพิธี เพราะคิดว่าคุณพ่อคุณแม่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว จากนั้นก็มีสัมภาษณ์ความในใจบ่าว-สาวกันเล็กน้อย เรากล่าวขอบคุณแขก รินแชมเปญทาวเวอร์ และปิดท้ายด้วยการโยนดอกไม้ค่ะ หลังจบพิธี เรามีงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้เบา ๆ ฉบับคนกันเอง แต่เพราะเวลาที่ยังไม่ค่ำมาก ก็เลยสังสรรค์กันนิดหน่อยตามความต้องการของเจ้าบ่าวเท่านั้นค่ะ (หัวเราะ)

       สำหรับงานฉลองเราจัดโต๊ะกลมทั้งหมด 14 โต๊ะและจัดเลี้ยงอาหารแบบ Food Station อย่างเดียว เราชอบคุณอ้อตรงที่เขาแนะนำเรื่องอาหารอย่างจริงใจ มีการเอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่างประเภทอาหาร พอเขามองว่าการจัดเลี้ยงแบบนี้ไม่เหมาะกับคู่เรา บ่าว-สาวอาจขาดทุนได้ เขาก็พูดตรง ๆ ถือว่าเป็นเรื่องดีต่อใจ ส่วนเมนูอาหารงานนี้มีกระเพาะปลา ข้าวหน้าเป็ด สปาเก็ตตี้ หมูสะเต๊ะ ส่วนของหวานคือไอศกรีมเจลาโต้และซอร์เบต์สุดโปรดของเราค่ะ(หัวเราะ) มีทั้งรสทรีโอ ฟรุ๊ต และสตรอเบอร์รี่โยเกิร์ต ซึ่งแขกในงานพูดชมว่าอร่อยเป็นเสียงเดียวกันเลยค่ะ

เพิ่มคิวจดทะเบียนสมรสในวันงาน ไม่ยากอย่างที่คิด

       เราเพิ่มคิวจดทะเบียนสมรสในวันงาน เพราะส่วนตัวอยากได้วันจดทะเบียนสมรสตรงกับวันที่แต่งงานซึ่งการไปประสานงานต่าง ๆ ก็ ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย ขั้นตอนก็มีแค่เราไปติดต่อยังพื้นที่เขตที่จัดงาน ก่อนงานเริ่มประมาณ 3 อาทิตย์ หรือล่วงหน้าสัก 1 เดือนก็ได้ แต่ถ้าเป็นฤกษ์ดีที่คนนิยมจัดงานกันมาก ติดต่อล่วงหน้านานกว่านั้นก็ดีค่ะ เพราะอาจมีสิทธิ์ที่นายทะเบียนจะไม่ว่าง ก็คือจองก่อนได้ก่อนค่ะ (หัวเราะ)

บ่าว-สาวลุยงานเอง ปลื้มใจแขกสุข-สนุกเต็มที่

       เราชอบงานนี้ เพราะเราลงมือทำเองเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งพุ่มดอกเลา การหาแพ็กเกจใส่ของชำร่วย ของรับไหว้ และการทำป้าย Digital Signage ด้วยตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่คุณพ่อที่ต้องไปติดป้ายชื่อบ่าว-สาวในงานด้วยค่ะ (หัวเราะ) พอลงมือทำเอง ก็ภูมิใจว่าสิ่งที่เราทำมันสำเร็จได้ด้วยดี

       เราโชคดีที่ได้ซัพพลายเออร์ที่น่ารักและเป็นมืออาชีพ ทั้งช่างแต่งหน้า ทำผม ชุดแต่งงานที่เหมือนพรหมลิขิต ใส่แล้วเพิ่มความมั่นใจให้เรามาก ไปจนถึงวงดนตรีสด ซึ่งเป็นวงที่เจ้าบ่าวชื่นชอบ ถึงแม้วงนี้จะเด่นเรื่องการเล่นพลงแจ๊ซ แต่พอช่วงงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เราขอเพลงแนวอะไรก็เล่นได้หมด ไม่ว่าจะเป็น ร็อค ป๊อป รวมถึงลูกทุ่งและหมอลำค่ะ (หัวเราะ)

       ที่สำคัญ เราประทับใจคุณอ้อตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน เขาจริงใจ เป็นกันเอง ให้คำแนะนำดี และพร้อมช่วยเหลือเสมอ อย่างก่อนวันงานที่เราต้องไปเซ็ตอัพการตกแต่งเขาก็ช่วยประสานงานกับทีมที่เกี่ยวข้องให้เราทำงานราบรื่นขึ้น หรืออย่างตอนขนมไทยที่มาพร้อมพานขันหมาก ทางคุณอ้อก็ประสานงานกับทีมงานของโรงแรมคอยช่วยอำนวยความสะดวกจัดการเรียงอาหารให้แขกได้ทานกัน นอกจากนี้ ยังประทับใจที่พนักงานส่วนต่าง ๆ เช่น  บัตเลอร์ คนยกกระเป๋ารู้จักเรากันทั้งโรงแรมเลยค่ะ (หัวเราะ)

คำแนะนำบ่าวสาวมือใหม่

จองก่อน ได้ก่อน : อย่าชะล่าใจในการหาทุกซัพพลายเออร์ เพราะถ้าเจ้าที่ทำงานดี และมืออาชีพ ย่อมมีสิทธิ์คิวเต็มได้ง่าย อีกทั้งหากวันที่จัดงานเป็นฤกษ์ที่คนนิยมด้วยแล้ว การจองซัพพลายเออร์ต่าง ๆ ยิ่งยากขึ้น ดังนั้น ถ้ามั่นใจในเจ้าไหนแล้ว จองเลย!!

จัดงานหมั้น นายพิธีสำคัญมาก : ไม่ว่างานหมั้นจะมีพิธีการแบบจัดเต็มหรือไม่ก็ตาม ทุกพิธีย่อมมีรายละเอียดที่สำคัญ การมีนายพิธีที่มีความเป็นมืออาชีพเข้ามาช่วยจะทำให้งานราบรื่น ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาหน้างานได้ดีด้วยค่ะ

เต็มที่กับการเตรียมงาน พอถึงวันงานให้ปล่อยวาง : ในขณะที่เราเตรียมงานก็อยากให้มุ่งมั่นเต็มที่ แต่พอถึงวันงาน อยากให้ปล่อยวางและมีความสุขกับปัจจุบัน หากมันจะเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น ก็อยากให้คิดว่าช่างมัน เพราะที่ผ่านมาเราทำดีที่สุดแล้ว

Photo : Fai Photo