Hilton Sukhumvit Bangkok สถานที่โลเคชั่นดี สวย หรูหรา อบอุ่น
หวานเลือกจัดงานหมั้น งานฉลอง และ After Party ในที่เดียว โดยหวานกับพี่เอก (เจ้าบ่าว) มีโจทย์หลักว่าจะหาสถานที่จัดงานฉลองก่อน ให้รองรับแขกได้ประมาณ 300 คน มีราคาเหมาะสม และเป็นโรงแรม Chain หวานหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรมจาก SabuyWedding นี่แหละค่ะ ชอบตรงที่เวลาเลือกหาแพ็กเกจของโรงแรมต่าง ๆ เราสามารถระบุได้ว่างานเรามีแขกจำนวนเท่าไร ควรเลือกดูห้องแบบไหน มีโปรโมชั่นอะไร พอ Login ในเว็บ SabuyWedding เพื่อขอแพ็กเกจกับโรงแรมที่สนใจ หวานก็ได้มาเจอ Hilton Sukhumvit Bangkok Hotel(โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ) ซึ่งคุณกิ๊ฟ (เซลล์) เป็นเจ้าแรกที่ติดต่อกลับมาอย่างรวดเร็วจนหวานประทับใจเลยค่ะ
จากนั้น หวานได้ไปดูสถานที่ของที่นี่เป็นที่แรกและถูกใจหลายอย่างค่ะ และถึงเราจะไปดูสถานที่อื่น ๆ อีก สุดท้ายก็ต้องกลับมาที่โรงแรมฮิลตันสุขุมวิท กรุงเทพฯ เพราะชอบโลเคชั่นที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง แขกเดินทางสะดวก และหวานชอบการตกแต่งที่ดูสบาย มีกลิ่นอายของความหรูหราและอบอุ่นพร้อมกัน นอกจากนี้ ยังถูกใจโถงรับรองของห้องบอลรูมที่มีเพดานสูงด้วย โดยสรุปถือว่าที่นี่ช่วยส่งเสริมให้งานแต่งของเราดูพิเศษขึ้นได้ค่ะ
พิธีหมั้นเน้นอบอุ่นในพื้นที่ส่วนตัว เติมความหรูสุดพิเศษด้วยวัสดุหินอ่อน
สำหรับงานหมั้นเช้า หวานเน้นความอบอุ่น จำนวนแขกของเรามีแค่ 70-80 ท่านเท่านั้น จึงเลือกใช้ห้อง The Summit 25 ด้วยสไตล์ของห้องให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวเหมือนอยู่เพนท์เฮ้าส์ และหวานยังชอบที่การตกแต่งห้องเป็นโทนสีเรียบ และคลาสสิค อย่างสีเทา ขาว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้หินอ่อนเป็นวัสดุหลักที่ทำให้งานเราดูหรูหรามากขึ้น และด้วยภาพรวมของห้องนี้ที่ดูดี หวานจึงไม่ตกแต่งมากนัก นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งแยกโซนพื้นที่ชัดเจน หวานชอบที่มีครัวไอส์แลนด์ซึ่งทำให้ห้องดูมีเอกลักษณ์ด้วย โดยหวานมีจัดเลี้ยงอาหาร แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงคอฟฟี่เบรคตั้งแต่ 8 โมงเช้า และช่วง Brunch จะเป็นเมนูที่อิ่มท้องขึ้นมาหน่อย เช่น ข้าวหน้าเป็ด โจ๊กหมู ซึ่งอาหารช่วง Brunch ได้รับคำชมจากแขกมาก โดยเฉพาะเมนูข้าวหน้าเป็ดค่ะ
ส่วนบริเวณที่ทำพิธีหมั้น เราไม่ใช้เวทีเพราะอยากให้แขกได้ใกล้ชิดและมีส่วนร่วมด้วยค่ะ โดยเราทำพิธีแบบจีน เริ่มจากพิธีแห่ขันหมาก ที่เจ้าบ่าวจะผ่านการกั้นประตูเงินประตูทอง เมื่อผ่านด่านแล้วก็เข้าไปทำพิธีสู่ขอกับผู้ใหญ่ ก่อนออกมารับตัวเราที่นั่งรออยู่ด้านนอกห้อง เพื่อกลับเข้าไปทำพิธีมอบสินสอด สวมแหวน จดทะเบียน ยกน้ำชา และส่งตัว เป็นอันจบพิธีค่ะ
ตกแต่งด้วยสีคลาสสิค Beige - Nude Pink และ White 10 ปีผ่านไป สวยได้ไม่เอ้าท์
สำหรับธีมสีในงานฉลอง หวานกับพี่เอกคิดตรงกันว่า อยากได้สีที่หรูและคลาสสิค จึงมาลงตัวที่ธีมสี Beige - Nude Pink และ White แซมด้วยสี Copper Gold โดยด้านนอกห้องบอลรูม จะมีแกลเลอรีภาพทั้งขนาดเล็กและใหญ่มาตกแต่งตามส่วนต่าง ๆ โต๊ะลงทะเบียนที่วางของชำร่วยเป็นแฮนด์ครีมพิมพ์ชื่อย่อหวานกับพี่เอก ที่ตั้งใจออกแบบแพ็กเกจให้ดูไม่เหมือนของชำร่วยงานแต่งเพื่อที่แขกจะสามารถนำไปใช้ยามอยู่ข้างนอกบ้านได้ด้วยค่ะ
ฉากแบ็คดร็อปถ่ายภาพคือสิ่งสำคัญ ที่ทำให้งานดูแกรนด์
สำหรับการจัดงานในโรงแรม หวานมองว่าฉากแบ็คดร็อปถ่ายภาพเป็นสิ่งสำคัญ และถือเป็นหน้าเป็นตาให้กับงานพอสมควร ดังนั้น ควรให้ความสำคัญในการเลือกซัพลายเออร์มาดูแลส่วนนี้ให้ดี ต้องเป็นทีมที่มีความมืออาชีพและไว้ใจได้ค่ะ
ฉากแบ็คดร็อปถ่ายภาพงานเรา ตกแต่งด้วยดอกไม้เป็นพุ่มตามธีมสีของงาน มีเล่นระดับตรงฉากด้านหลัง ซึ่งทำฉากตรงกลางให้มีความสูงกว่าฝั่งซ้ายและขวา เพื่อให้ดูแกรนด์ แล้วเสริมด้วยเม็ดคริสตัลให้ความหรูระยิบระยับแบบที่หวานชอบด้วย
พอเข้ามาด้านในห้องบอลรูม ฉากเวทียังเป็นธีมสีของงาน ไม่เน้นตกแต่งดอกไม้มากนัก เนื่องจากด้านบนมีจอโปรเจกเตอร์อยู่ จากนั้นก็มีตกแต่งดอกไม้อีกส่วนที่ฐานเค้ก ซึ่งจุดนี้จะวางแก้วแชมเปญไว้ด้วยค่ะ
งานฉลองอบอุ่น เรียบง่าย ปิดท้ายด้วย After Party
สำหรับพิธีของงานฉลองนั้น เริ่มจากถ่ายภาพกับแขกยังจุด Backdrop จนเมื่อได้เวลาก็เปิดวิดีโอประมวลภาพงานหมั้น จบแล้วถึงเปิดตัวบ่าวสาว ด้วยการที่หลานเจ้าบ่าวจะเดินเอาดอกไม้ไปให้เจ้าบ่าวที่ยืนอยู่บนเวที ส่วนหวานจะเดินมากับคุณพ่อคุณแม่ที่ท่านจะเดินมาส่งตัวให้พี่เอกแล้วเดินเข้าไปด้วยกันผ่านเพื่อนที่ยิง Paper shoot
ด้วยความที่ไม่อยากให้งานเป็นทางการไป จึงไม่มีประธานขึ้นกล่าวบนเวที แต่เน้นให้คนสนิทของทั้งฝ่ายเจ้าบ่าว เจ้าสาว ขึ้นมาพูดแทน ซึ่งงานนี้ หวานยังได้รับเกียรติจากพี่ช้าง ทศพร ศรีตุลา มากล่าวคำอวยพรดี ๆ ให้เราสองคนด้วยค่ะ
จบช่วงนี้ ก็มีเปิดวีดีโอพรีเซนต์เทชั่นอีกชุด ซึ่งเล่าเรื่องราวตั้งแต่จุดเริ่มต้นความรักของเราสองคน จบแล้วก็สัมภาษณ์บ่าว-สาว ก่อนเข้าสู่เกม Kahoot ด้วยคำถามที่เกี่ยวข้องกับบ่าว-สาว เพื่อหาผู้โชคดี 1 ท่านที่จะมารับรางวัลพิเศษไป แต่ความพีคที่สุดมันอยู่ตรงที่แม่ของหวานชนะค่ะ (หัวเราะ) เขาก็เลยสละสิทธิ์ให้คนที่ได้คะแนนสูงมาเป็นอันดับ 2 รับรางวัลแทน ซึ่งช่วงที่เล่นเกมกันนี้ หวานเห็นแขกหลายคนดูสนุกสนานกันใหญ่เลยค่ะ
หลังจากนั้นก็ตามด้วยพิธีตัดเค้ก รินแชมเปญ โยนดอกไม้ ซึ่งคนที่ได้รับช่อบูเกต์ เรามีให้ของรางวัลอย่างลอตเตอรี่ให้ได้ลุ้น โดยเลขที่หามา เป็นเลขที่มีความหมายซ่อนอยู่ด้วยค่ะ
เมื่อจบพิธี เตรียมเข้าสู่ช่วง After party เราทั้งคู่ไปเปลี่ยนชุด ขณะเดียวกัน พนักงานของโรงแรมก็ย้ายโต๊ะกลมออกเพื่อเปลี่ยนเป็นโต๊ะค็อกเทล แสตนด์ พร้อมกับจัดวางส่วนผสมเตรียมทำเมนูค็อกเทลที่หวานตั้งใจเซอร์ไพร์สเจ้าบ่าว เพราะก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ว่าจะมีชงค็อกเทลด้วย แต่ถ้าเข้าไปในงานเห็นโต๊ะตั้งตระหง่านแบบนั้นก็ต้องรู้แล้วค่ะ (หัวเราะ) ซึ่งเอาจริงๆ หวานก็ไม่คิดว่า พอกลับเข้ามาอีกรอบแขกผู้ใหญ่จะยังนั่งรออยู่ เราจึงเริ่มชงค็อกเทลเลย ด้วยเมนูที่ชื่อว่า 'สวรรค์ชั้น7' (In 7th Heaven7) เสร็จแล้วก็เสิร์ฟให้แขกผู้ใหญ่และเพื่อน ๆ จนเมื่อแขกผู้ใหญ่กลับแล้ว เราก็หรี่ไฟลงและสนุกอย่างจัดเต็มค่ะ (หัวเราะ)
สำหรับอาหารจัดเลี้ยงก็จะเป็น ค็อกเทลบุฟเฟ่ต์ โดยเลือกเน้นเมนูที่อิ่มท้อง ทำพอร์ชั่นแบบพอดีคำ ซึ่งปริมาณอาหารที่เยอะ ทำให้แขกได้ทานอิ่มทุกคน และเท่าที่ได้ยินมา แขกชอบอาหารกลุ่มซีฟู้ดและเมนูของหวานอย่างชีสเค้กค่ะ
'โรงแรม' 'การตกแต่ง' และ 'หลากโมเมนต์ดี ๆ' คือองค์ประกอบหลักที่ทำให้สุขใจ
หวานมองว่างานนี้สมบูรณ์แบบแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ การตกแต่ง บรรยากาศในงาน หวานรู้สึกว่าได้รื่นรมย์กับช่วงเวลาที่พิเศษอย่างเต็มที่ เพราะในงานมีแต่เรื่องน่าประทับใจ จึงอยากขอบคุณการทำงานของทุก ๆ ฝ่าย ทั้งทีมออแกไนซ์ และทีมตกแต่ง ที่ทำให้งานผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
นอกจากนี้ ถ้าพูดถึงโมเมนต์ดี ๆ ที่ชวนอบอุ่นหัวใจ หวานชอบช่วงงานหมั้นที่ได้เห็นแขกผู้ใหญ่กล่าวอวยพรให้เราอย่างจริงใจ มันเป็นสิ่งที่ประทับใจและทำให้ซาบซึ้งมาก
สุดท้ายนี้ หวานยังประทับใจโรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ ด้วยความที่เป็นโรงแรม Chain แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ทำให้เราผิดหวัง ทั้งการตกแต่งที่สวยหรู บริการดี โดยเฉพาะคุณกิ๊ฟที่เราประทับใจตั้งแต่ที่เขาติดต่อกลับมาไวมาก แสดงถึงความใส่ใจตลอด และพอได้ร่วมงานกัน เขาก็คอยช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่
ทุกองค์ประกอบที่เล่ามานี้เป็นเหตุผลที่ทำให้เราทั้งสองคนรู้สึกสุขใจค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
การแต่งงานก็เหมือนบททดสอบบ่าว-สาวในการใช้ชีวิต : งานแต่งงานเหมือนจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตคู่อย่างเป็นทางการ และระหว่างการเตรียมงานบ่าว-สาวอาจมีปัญหากันบ้าง ก็เหมือนเป็นบททดสอบชีวิตคู่กลาย ๆ เราต้องหาวิธีรับมือกับมันและหาหนทางแก้ปัญหาที่จะทำให้เราผ่านพ้นมันไปได้ค่ะ
พูดคุยกับทุกฝ่ายอย่างประนีประนอม : ในการจัดการแต่งงาน เราต้องคุยกันทั้งกับแฟนเราเอง รวมถึงครอบครัวของแต่ละฝ่าย และอาจเกิดกรณีที่คุยแล้วแต่ละฝ่ายมีความต้องการไม่สิ้นสุด ดังนั้น เบื้องต้นควรให้บ่าว-สาวไปคุยกับครอบครัวตัวเองก่อน จากนั้นก็ค่อยมาหาทางออกที่ทำให้รองรับความต้องการของครอบครัวทั้งสองบ้านได้มากที่สุด
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อยากให้รื่นรมย์กับช่วงเวลานี้ : อยากให้บ่าว-สาว มีความสุขกับช่วงเวลาที่เกิดขึ้น ถึงแม้มีอะไรผิดพลาดหรือไม่เป็นดั่งใจ ก็ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง เพราะแม้ว่างานแต่งจะจัดขึ้นมาและมีแค่วันเดียวก็จริง แต่อย่าลืมว่าหลังจากงานจบ สิ่งที่จะคงอยู่ตลอดไป คือความสุขและความทรงจำดี ๆ ที่บ่าว-สาวจะได้หวนระลึกถึงร่วมกัน
พบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ!
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าสาว SabuyWedding
หรือเลือกดูโปรโมชั่นตามประเภทร้าน
พบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ! (1 รายการ)