Hotel Once Bangkok กับวิวดีๆ ที่รูฟท็อป
ผมกับเบน (เจ้าสาว) อยากจัดงานเอาท์ดอร์ เราชอบ Hotel Once Bangkok(โฮเต็ล วันซ์ กรุงเทพฯ) เพราะสถานที่ที่ตกแต่งสวยสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก ส่วนรูฟท็อป 'Top Knot' ที่เป็นพื้นที่จัดงาน สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ทำให้บรรยากาศโดยรวมยังดูชิลและเป็นกันเองมากครับ
สวยเก๋ด้วยธีมสี Woodland Springs และ Copper
ผมจัดงานหมั้นเช้า ฉลองเย็น ต่อด้วยงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ในธีมสีเดียวกันเลย คือ สี Woodland Springs เป็นหลัก ตามด้วยสี Copper ครับ
การตกแต่งเริ่มจากจุดทำพิธีหมั้นที่อยู่ในห้องกระจก มีโครงเหล็กทรงสูงประดับสองฝั่งด้วยดอกไม้สีส้มอิฐ แดงเบอร์กันดี และเบจ เพื่อให้ดูตัดกันกับสีเขียว ส่วนตรงกลางเป็นป้ายชื่อบ่าว-สาว ซึ่งเมื่อเสร็จพิธี ผมนำไปตกแต่งเป็นฉากหลังเวทีที่อยู่ชั้น 9 ด้วยครับ
สำหรับพื้นที่เอาท์ดอร์ชั้น 8 จะมีแกลเลอรีภาพบ่าว-สาวใกล้กับโต๊ะลงทะเบียน ฝั่งขวามือจะเป็นแบ็คดรอปถ่ายภาพที่เน้นฉากสีเขียว ประดับดอกไม้ในโทนสีเดียวกับงานหมั้น ส่วนบันไดวนก็มีการตกแต่งดอกไม้ด้วยครับ
อีกความพิเศษของงานนี้คือลายการ์ตูนสเมิร์ฟ และตัวการ์ตูนกบ ที่เป็นสัญลักษณ์แทนชื่อของผมและฉายาของเบน ซึ่งเพื่อน ๆ ที่สนิทกันจะเข้าใจได้ในทันที การออกแบบการ์ด หรือของชำร่วย ซึ่งเป็นที่รองแก้วทำจากวัสดุยางก็ปั๊มเป็นลายการ์ตูนนี้ครับ
ใส่ดีเทลให้ทุกพิธีมีความหมาย
งานหมั้นช่วงเช้ามีเฉพาะคนในครอบครัวและคนสนิทครับ เราเริ่มด้วยการแห่ขันหมากจากชั้น 8 ผ่านด่านกั้นประตูเพื่อไปรับตัวเจ้าสาวที่นั่งรออยู่ชั้น 9 จากนั้นเราก็เดินมาทำพิธีในห้องกระจก มอบสินสอด สวมแหวน และพิธียกน้ำชา โดยงานหมั้นเช้านี้มีจัดเลี้ยงเมนูอย่างข้าวหน้าเป็ด กระเพาะปลา และอาหารญี่ปุ่น เสริมด้วยติ่มซำที่นำมาเองครับ
ส่วนงานฉลองช่วงเย็น มีแขกราว 200 ท่าน มีโซนโฟโต้บูธให้แขกได้ถ่ายรูปเล่น โดยในช่วงเปิดตัวบ่าว-สาว เรามีกิมมิกแยกเปิดตัวกันทีละคน โดยเบนเปิดตัวด้วยเพลงเซเลอร์มูน ส่วนผมจะมาพร้อมเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Rocky จากนั้นเราจึงเปิดตัวคู่กันกับบทเพลง 16 ปีแห่งความหลังของคุณสุรพล สมบัติเจริญ สื่อว่าเราคบกันมา 16 ปี พอเพลงจบ เราเดินผ่านเพื่อนที่ถือไฟเย็น และผมจะเดินไปกับเบนพร้อมร้องเพลง LUXURY ของศิลปิน D GERRARD จนกระทั่งขึ้นเวทีครับ
งานนี้ประธานที่กล่าวอวยพรเราเน้นแบบเฮฮา จากนั้นมีสัมภาษณ์บ่าว-สาวสั้น ๆ ต่อด้วยผมร้องเพลงเซอร์ไพรส์เจ้าสาว ด้วยเพลง "วันของเรา" ของวง Soul After Six ที่งานเราให้ความสำคัญกับดนตรีและเพลงค่อนข้างมาก เพราะผมเป็นนักดนตรีด้วยครับ
เราเพิ่มความสนุกในงานด้วยการเล่นเกมส์ Kahoot ตอบคำถามเช่น วันแรกที่เราเจอกันคือวันไหน ประเทศที่ผมขอเบนแต่งงานคือประเทศอะไร และสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งคือที่ไหน เป็นต้น ใครที่ตอบถูกและเร็ว เรามีรางวัลแจกให้สามรางวัลครับ เมื่อเล่นเกมกันจบแล้ว ผมเลือกเปลี่ยนการโยนดอกไม้ เป็นโยนตุ๊กตาสเมิร์ฟกับตุ๊กตากบแทน ซึ่งใครที่ได้ตุ๊กตาไป เราก็มีรางวัลเพิ่มให้ด้วยครับ
คิวสุดท้ายผมเลือกพูดความในใจและกล่าวขอบคุณแขกเพื่อปิดท้ายงาน ก่อนเข้าสู่งานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เนื่องจากวันงานเป็นวันคริสต์มาสพอดี ผมจึงใส่สูทสีแดงและเบนใส่ชุดเดรสสีเขียวเดินเข้ามาในห้องกระจกพร้อมเพลงแดงกับเขียวของวง TaitosmitH แล้วเราสองคนก็ทำเบียร์บอมเหมือนเปิดตัวกลาย ๆ จากนั้นก็สนุกกันเต็มที่ครับ
สำหรับรูปแบบการจัดเลี้ยง เรามีโต๊ะกลมสำหรับแขก VIP ราว 2-3 โต๊ะเท่านั้น เพราะไม่ค่อยมีแขกผู้ใหญ่ แต่มีเพื่อนรุ่นเดียวกันเป็นส่วนมากครับ ส่วนอาหารเป็นเมนูค็อกเทลกว่า 15 รายการ และเพิ่มซุ้มอาหารของโรงแรม คือข้าวมันไก่กับข้าวหมูแดงครับ
ปลาบปลื้มงานตรงใจ บ่าว-สาวและแขกพกรอยยิ้มกลับบ้าน
เราชอบทุกอย่างในงาน เพราะแขก และเพื่อน ๆ ทุกคนดูสนุกกันมาก แถมงานยังดูยูนีคตรงใจเราด้วยครับ เราประทับใจบรรยากาศของโรงแรม และคุณแอ๊ป เซลล์ที่ดูแลเรา รวมถึงพนักงานทุกคนที่มีความเป็นมืออาชีพและช่วยดูแลงานนี้เป็นอย่างดี งานเรามีเพียงพิธีกร ไม่มีทีมออแกไนซ์มารันคิวให้ ก็ได้ทางคุณแอ๊บและทีมงานของโรงแรมนี่แหละครับที่มาช่วยดูแล ก็ต้องขอบคุณทุกทีมงานและทางโรงแรมที่ทำให้งานแต่งเราราบรื่นและสำเร็จลุล่วงด้วยดีครับ
คำแนะนำบ่าว-สาว
รู้จุดมุ่งหมายของงานตัวเอง : เราควรรู้จุดมุ่งหมายก่อนว่าอยากให้งานออกมาเป็นแบบไหน จากนั้นให้พุ่งเป้าไปยังสิ่งที่ต้องการทันที การรู้จุดมุ่งหมายยังทำให้กระบวนการทำงานต่าง ๆ ระหว่างทางชัดเจนมากขึ้นด้วย
คุม Budget ได้ด้วยการทำการบ้านให้เยอะ : หากต้องการคุม Budget ให้อยู่หมัด ควรทำการบ้านให้เยอะ เช่น การหาข้อมูลของซัพพลายเออร์หลาย ๆ เจ้ามาเปรียบเทียบกัน เพื่อจะได้คัดสรรเจ้าที่ดีและราคาที่ตรงใจ วิธีนี้จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก นอกจากนี้ ควรมีเกณฑ์การเลือกซัพพลายเออร์ด้วย เช่น คุยรู้เรื่องไหม เข้าใจตรงกันกับเราหรือเปล่า เป็นต้น