Novotel Bangkok Sukhumvit 20 สถานที่แต่งงานใจกลางเมือง เดินทางสะดวก
การเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานของผมจะพิจารณาจากทำเลที่ตั้ง ต้องอยู่ใจกลางเมืองหรือเส้นสุขุมวิท เพื่อให้แขกเดินทางสะดวก ที่สำคัญราคาต้องเหมาะสม คุ้มค่า ซึ่งจากการเซอร์เวย์มา สุดท้ายก็ได้ Novotel Bangkok Sukhumvit 20 (โนโวเทล กรุงเทพ สุขุมวิท 20) ที่สามารถตอบโจทย์ผมได้มากที่สุดครับ
สำหรับตัวโรงแรมผมชอบหลายส่วนเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นล็อบบี้ที่ดูดี โซนบันไดที่มองเห็นแชนเดอเลียร์สวยหรูหรา ห้องหมั้นที่อยู่ชั้น 8 เอง ผมก็ชอบด้านในที่เป็นผนังกระจกใส ช่วยให้บรรยากาศดูโปร่งและสามารถมองวิวสวยเพลินๆ ได้ หรืออย่างห้องบอลรูมชั้น 5 ภายในห้องก็มีการแต่งไฟเพดานที่ดูโมเดิร์นทันสมัย แถมตรงโถงรับรองก็มีขนาดกว้าง เวลาจัดวางโครงสร้างต่างๆ บวกกับจำนวนแขกที่อยู่ในงานแล้ว ช่วยให้ไม่รู้สึกคับแคบหรือแออัดเลยครับ
นอกเหนือจากตัวสถานที่แล้ว อีกเรื่องสำคัญที่ทำให้ผมเลือก Novotel Bangkok Sukhumvit 20 คือเซลล์และการบริการครับ เราคุยถูกคอตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกัน เขาแฟร์ คุยง่าย มีความยืดหยุ่นและแสดงออกถึงความพร้อมช่วยเหลืองานเสมอ จนผมรู้สึกว่าถ้าแต่งงานที่นี่จะโอเคครับ
ธีมสีขาวเขียว ได้ฟีลเรียบหรูและดูอบอุ่นสดชื่น
งานของผมเป็นพิธีเช้าเลี้ยงฉลองเที่ยง ซึ่งผมกับแอม(เจ้าสาว) อยากได้งานเรียบหรู ขณะเดียวกันต้องดูอบอุ่นด้วย จึงใช้สีขาวและสีเขียวเป็นหลัก โดยจะประยุกต์ใช้ของตกแต่งจากทั้งทีมโรงแรมและซัพพลายเออร์มาผสมผสานกัน แล้วเน้นไปที่พิธีเลี้ยงฉลองมากกว่า งานเช้าจึงตกแต่งแค่ในห้อง มีเพียงฉากหลังที่เป็นม่านสีขาว ประดับโลโก้ชื่อบ่าวสาว เสริมด้วยดอกไม้ใส่แจกันหลากไซส์วางบนแท่นตั้งข้างฉากเวทีเท่านั้นครับ
ส่วนงานฉลองเรายังคงใช้ธีมสีและดอกไม้เหมือนงานเช้า แต่จะตกแต่งมากขึ้นไล่ตั้งแต่โถงรับรองที่เพิ่มส่วน Backdrop จุดลงทะเบียน มินิแกลอรี่เข้ามา แล้วในห้องก็จะตกแต่งฉากเวทีคล้ายงานเช้าเลย ใช้เป็นม่านขาวประดับด้วยดอกไม้และโครงเหล็กด้านข้างเพื่อความสวยงาม นอกจากนี้ก็มีเพิ่มการตกแต่งตรงฐานเค้กด้วยครับ
งานนี้มีแขกญาติผู้ใหญ่เยอะ เราจึงใส่ใจเรื่องอาหารมาก เพราะอยากให้ทุกคนได้ทานอาหารอร่อยและอิ่มท้อง ดังนั้นจึงเปิดไลน์อาหารเช้าประมาณ 06.30 น. เพื่อให้แขกได้ทานก่อนเริ่มพิธีครับ โดยเมนูจะมีตั้งแต่ข้าวต้ม หมูสะเต๊ะ เกี๊ยวกุ้งน้ำ เสริมด้วยเซ็ตขนมเบเกอรีที่ผมนำเข้ามาเอง
ส่วนมื้อฉลอง ผมจัดเลี้ยงโต๊ะจีนแต่เสิร์ฟแบบ Individual Serve เพราะต้องการรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด โดยจะจัดให้ 1 โต๊ะ มีเพียง 6 ที่นั่ง เพื่อเว้นระยะห่าง รวมถึงปรับอาหารจากที่ปกติมี 10 เมนู เหลือ 7 เมนูแล้วเพิ่มปริมาณอาหารต่อ 1 พอร์ชั่นให้เยอะเท่ากับ 10 เมนูแทนเพื่อลดการเสิร์ฟต่อรอบไม่ให้ถี่เกินไป ซึ่งอาหารช่วงนี้ก็จะมีออร์เดิร์ฟสี่สหาย ปอเปี๊ยะ ขนมจีบ เป็ดปักกิ่ง หมี่ซั่ว ผัดหมี่ฮ่องเต้ กุ้งผัดพริกเผาเม็ดมะม่วงและของหวานเป็นแป๊ะก๋วยสาคูนมสดครับ
พิธีการเรียบง่าย แต่ได้ความสุขใจ
ด้วยสถานการณ์โควิด 19 ผมจึงเลือกจัดพิธีตามปกติ ไม่มีกิมมิคหรือกิจกรรมเพิ่มเติม โดยงานเช้าจะตั้งขบวนขันหมากที่ชั้น 7 แห่ผ่านประตูเงินประตูทองไปที่ห้องหมั้นชั้น 8 เพื่อเจรจาสู่ขอ แล้วไปรับตัวเจ้าสาวที่นั่งรอตรงโซนระเบียงด้านนอกครับ หลังจากนี้เราก็จะกลับไปที่ห้องแล้วรันพิธีต่อ โดยมีนายพิธีคอยช่วยรันคิว บิ้วด์อารมณ์ให้ไม่เกร็งและรู้สึกชิลล์มากขึ้นครับ ซึ่งหลังจากเสร็จพิธียกน้ำชา ผมกับแอมก็จะแวบไปทำพิธีส่งตัวสั้นๆ ประมาณ 10 นาทีก็เสร็จครับ
ส่วนช่วงงานเลี้ยงฉลอง เรามีแจกของชำร่วยด้วย โดยได้เลือกเป็นสบู่คริสตัลแฮนด์เมดครับ ซึ่งพอแขกลงทะเบียน รับของชำร่วย ถ่ายรูปกับบ่าวสาวแล้วก็จะเข้าไปนั่งรอในห้อง แล้วเมื่อถึงเวลา 12.00 น. ผมกับแอมก็จะเปิดตัวเดินเข้าห้องบอลรูม และหลังจากนี้ก็เป็นพิธีปกติเลยครับ มีประธานอวยพร คล้องพวงมาลัย เชิญคุณพ่อคุณแม่มากล่าวความรู้สึก ตัดเค้ก และปิดด้วยดึงริบบิ้นช่อดอกไม้ครับ
ในงานนี้ผมประทับใจโรงแรมที่คอยดูแลและให้บริการมาก โดยเฉพาะเซลล์ที่ให้ความช่วยเหลือตลอด อย่างระหว่างการเตรียมงาน ช่วงสถานการณ์ไม่แน่นอน ผมมีการสอบถามความคืบหน้าตลอดว่าจัดงานได้ไหม ขอคำแนะนำว่าคู่อื่นจัดอย่างไร เป็นยังไงบ้าง เซลล์ก็ให้คำแนะนำ บอกข้อมูลครบถ้วน และช่วยหาทางแก้ปัญหาได้ดีเลยครับ
แล้วพอหลังจบงาน เราก็ยังได้รับฟีดแบคที่ดีจากแขก มีแต่คนชมว่าอาหารอร่อย บรรยากาศงานโดยรวมดูสวย อบอุ่น แขกผู้ใหญ่ก็ชอบนายพิธีมาก มีชมว่าพูดจาฉะฉาน คุมสถานการณ์ได้ดี ส่วนช่างภาพก็เก่ง รู้จักหาวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อย่างบางมุมที่ไม่น่าจะถ่ายได้ เขาก็ทำให้ภาพออกมาสวยได้โดยการถ่ายไม่กี่เทค และสุดท้ายผมกับแอมซึ้งตอนที่เห็นสายตาของคุณพ่อคุณแม่ทั้ง 2 ครอบครัวที่มองมาอย่างปลาบปลื้มเหมือนดีใจที่เห็นเรามีวันนี้ และยังซึ้งในน้ำใจของเพื่อนบ่าวสาวทุกคน อยากขอบคุณที่มาช่วยเหลือวันงานอย่างเต็มที่โดยไม่คิดว่าต้องได้อะไรตอบแทนเลยครับ
ตัวช่วยให้ไม่ทะเลาะกันคือการตามใจอย่างมีเหตุผล
ส่วนตัวผมมองว่าการจัดงานแต่งต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ทั้งการหาซัพพลายเออร์ การพูดคุยกันระหว่างบ่าวสาว รวมถึงการนำ 2 ครอบครัวมารวมกัน ฉะนั้นย่อมมีโอกาสทะเลาะกันเกิดขึ้นได้ง่าย แต่คู่ผมแทบไม่ทะเลาะกันเลย อาจเป็นเพราะผมมีทิปส์คือ ตามใจเจ้าสาวครับ(หัวเราะ) แต่ผมก็ตามใจอย่างมีเหตุผลนะ และโชคดีตรงที่แอมเป็นคนมีเหตุผลอยู่แล้ว เลยคุยกันเข้าใจได้ง่าย อย่างถ้ามีอะไรที่ต้องเลือก อันไหนที่ยอมได้และทำให้แอมสบายใจ ผมก็ยอมครับ
แนะนำบ่าวสาว
จัดงานแต่งแบบนึกถึงใจคนอื่นด้วย : แม้จะเป็นงานของบ่าวสาว แต่ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราด้วย อย่างงานผมก็พยายามคำนึงความเป็นไปได้ทุกอย่าง เช่น ขอความเห็นคุณพ่อคุณแม่เพื่อให้ท่านสบายใจที่ได้มีส่วนร่วม ใส่ใจคนที่มาร่วมงาน เช่น ควรจัดอาหารแบบไหน การเดินทางของสถานที่เป็นยังไง รวมถึงคอยอัพเดทความคืบหน้าเพื่อแขกจะได้รู้สึกดีครับ
ไม่มีเวลาเตรียมงาน แพลนเนอร์ช่วยได้ : การจ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์สามารถตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายได้ เพราะจะมีคนมาช่วยวางแผนและจัดหาซัพพลายเออร์ ทำให้ลดความยุ่งยากและบ่าวสาวมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ครับ
หาซัพพลายเออร์แต่เนิ่นๆ และเลือกให้ถูกจริต : ควรใช้เวลาแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด เพราะเขาจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนงานเราให้สำเร็จ แนะนำให้หาคนที่คุยกันรู้เรื่อง เข้าใจกันเสมือนเพื่อน เพราะเราต้องดีลงานกันยาวๆ และบางทีมก็ต้องอยู่ในวันงานกับเราทั้งวันครับ
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
สถานที่แต่งงาน:
Novotel Bangkok Sukhumvit 20ช่างภาพ วิดีโอ:
Resstory Photographyพบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ!
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าสาว SabuyWedding
หรือเลือกดูโปรโมชั่นตามประเภทร้าน
พบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ! (1 รายการ)