Rosewood Bangkok สถานที่แต่งงานใหม่ ดีไซน์ทันสมัย
ตอยกับเจ้าบ่าวเราอยากได้สถานที่แต่งงานที่ดูโมเดิร์น ทันสมัย และอยู่บริเวณใกล้ย่านราชประสงค์ เพราะเดินทางสะดวกกับแขกของเรา ก็เลยตระเวนดูโรงแรมแถวนั้นจนไปเจอ กับโรงแรม Rosewood Bangkok (โรสวูด กรุงเทพฯ) ที่ตอบโจทย์เราทุกอย่างค่ะ
นอกจากห้องจะดูใหม่ ดีไซน์ทันสมัยแนวโมเดิร์นชิคๆ แล้ว ยังให้ความรู้สึกเรียบหรูด้วยค่ะ ตัวห้องเพดานสูงปลอดโปร่ง มีแชนเดอเลียร์สวย และข้อดีอีกอย่างคือเป็น Private Floor เพราะทั้งชั้นมีบอลรูมห้องเดียว เวลาจัดงานเราก็สามารถใช้พื้นที่ได้ทั้งชั้นได้ความเป็นส่วนตัวมากๆ ค่ะ
บวกกับพอลองคุยกับคุณโจ้ เซลล์ของทางโรงแรมแล้วรู้สึกคลิก เขาให้คำแนะนำเรื่องต่างๆได้ คุยกันถูกคอ เลยตกลงเลือกที่โรงแรมนี้ค่ะ
ธีมสีเอิร์ธโทน เพิ่มความอบอุ่น
งานตอยเลือกใช้เป็นสีแนวเอิร์ธโทน เพราะเป็นแนวสีที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับงานได้ อย่างสี Beige / Browne / Copper / Classic gray ซึ่งโทนนี้เข้ากับห้องบอลรูมของทาง Rosewood Bangkok พอดีด้วย เลยทำให้ตกแต่งออกมาแล้วสวยคุมโทนไปในทางเดียวกันค่ะ
ตอนเตรียมงานตอยให้ทีม Decoration เข้าไปดูสถานที่ก่อนค่ะ แล้วค่อยนำมาประกอบกับ Reference ที่เราให้ไป เพื่อที่ว่าเขาจะได้ทำงานง่ายขึ้น ดีไซน์ออกมาได้กลมกลืนเข้ากับสถานที่ และวันงานจริงจะ Set up งานได้ง่ายและรวดเร็วด้วยค่ะ
พิธีเช้าน่าประทับใจ
ตอยแต่งเช้าเลี้ยงเที่ยง ช่วงงานเช้าเราเชิญแขกประมาณ 60 ท่าน เป็นพิธีไทยโดยตัดพิธีสงฆ์ออกเพราะเรามีทำไปก่อนวันงานแล้ว เริ่มที่เจ้าบ่าวเขาแห่ขบวนขันหมาก ช่วงนี้ตอยก็มีโอกาสได้เห็นแวบหนึ่งด้วยเพราะห้องบอลรูมมีชั้นลอย เจ้าสาวจะสามารถรออยู่บนนั้นและมองเห็นกิจกรรมที่เขาเล่นกันตอนกั้นประตูระหว่างรอเจ้าบ่าวมารับตัวได้ค่ะ หลังจากนั้นก็เป็นพิธีสู่ขอ รับไหว้ รดน้ำสังข์ เสร็จประมาณ 10 โมง จึงขึ้นไปเปลี่ยนหน้าผมสำหรับพิธีฉลอง
งานฉลองรูปแบบค็อกเทล
งานเราเป็นรูปแบบงานค็อกเทล เราเลยแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกติดกับเวทีจัดเป็น Long Table ให้แขกผู้ใหญ่นั่ง ด้านหลังจัดเป็นโซนยืนสำหรับแขกเด็กๆ โดยจะวางโต๊ะสตูทรงสูงและสเตชั่นอาหาร
สำหรับเรื่องอาหารเราใช้ของทาง Rosewood Bangkok ทั้งหมด เป็นเงื่อนไขของที่นี่ที่ทางเซลล์เขาจะแจ้งให้ทราบตั้งแต่แรกว่าไม่สามารถนำเข้าอาหารจากข้างนอกได้ค่ะ แต่โดยส่วนตัว ตอยก็ประทับใจอาหารของเขาตั้งแต่ตอนมา Food Tasting แล้ว เพราะอาหารอร่อย อย่างค็อกเทลก็มาเป็น Portion ที่ใหญ่มาก เมนูมีหลากหลายและค่อนข้างพรีเมียม เรียกได้ว่าอาหารเป็นอีกสิ่งในงานที่แขกชม ประทับใจค่ะ
ช่วงพิธีฉลองเราเปิดตัวด้วยวิดีโอให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสตอรี่ของเรา เช่น เจอกันครั้งแรกที่ไหนอะไรประมาณนี้ เจ้าบ่าวเขาเป็นคนตัดต่อเองเลย เพราะเขาเป็นคนพูดน้อย อยากลดการสัมภาษณ์บนเวทีให้สั้นๆ เลยให้พรีเซนเทชั่นเป็นคนเล่าเรื่องของเราค่ะ หลังจากนั้นพิธีกรเขาจะเชิญประธานขึ้นมากล่าวอวยพร สัมภาษณ์นิดหน่อยแล้วก็จะตัดเค้กและโยนช่อดอกไม้ค่ะ
เสริมกิมมิคให้ชุดเจ้าสาว
เรามีโจทย์ว่าอยากจะให้ชุดมีลูกเล่นขึ้นมานิดหน่อย โดยชุดตอนถ่ายรูปกับแขกขอเป็นแบบธรรมดาขยับตัวได้ง่าย แต่พอเข้างานให้มีอะไรติดเสริมเข้ามาเป็นกิมมิคเล็กๆ ให้ดูต่างออกไป ตอยเลยจะใส่เดรสยาวสีขาวทรงเมอร์เมดตอนถ่ายรูปกับแขกหน้า Backdrop
พอช่วงเปิดตัวเข้างาน ทางดีไซเนอร์เขาทำ Overskirt หางยาวเสริมเข้ามาอีกชิ้นออกแบบมาให้ติดง่ายๆ ค่ะ ใช้เวลาแปบเดียว ตอยแนะนำเป็นไอเดียไว้เผื่อใครอยากเปลี่ยนหลายลุค แต่ไม่อยากเสียเวลาเปลี่ยนทั้งชุดค่ะ ลองปรึกษากับดีไซน์เนอร์ดู ว่าสามารถเพิ่มลูกเล่นแบบนี้หรือแบบตามแต่ที่อยากได้ให้กับชุดเจ้าสาวได้มั้ย เพื่อเป็นกิมมิคให้กับชุดเจ้าสาวและประหยัดเวลาเปลี่ยนชุดอีกด้วยค่ะ
ตอยรู้สึกว่าการแต่งงานมีรายละเอียดมากกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลยค่ะ เหมือนจัดงานอีเว้นต์ใหญ่ๆ อีเว้นต์หนึ่ง ซึ่งพอผ่านไปได้อย่างราบรื่น เรารู้สึกประทับใจมาก เพราะทุกดีเทลในงานเป็นสิ่งที่เราชอบและอยากได้จริงๆ
แนะนำบ่าวสาว
เผื่อเวลาศึกษาข้อมูลและเตรียมงาน: ตอยศึกษาข้อมูลค่อนข้างนานเลยค่ะ ว่ามีดีเทลยังไง ส่วนไหนต้องใช้อะไรบ้างเพื่อวางแพลน และก็จดรายละเอียดทุกอย่างไว้ อย่างเรื่องค่าใช้จ่าย ทำให้เวลาเตรียมงานจะง่าย มองเห็นว่าส่วนไหนจำเป็น ส่วนไหนคิดว่าไม่จำเป็นตัดออก คุมบัทเจทให้ใช้ในส่วนที่จำเป็นได้ง่ายค่ะ
ปรึกษากันว่าอยากให้ความสำคัญกับส่วนไหน : ความจำเป็นในแต่ละคู่ไม่เหมือนกันค่ะ ลองคุยกันดูว่าสิ่งไหนที่เราอยากให้ความสำคัญ อย่างคู่ตอยให้ความสำคัญกับช่างภาพและอาหารรวมทั้งเครื่องดื่มในงาน ดังนั้นต้องดูว่าเราอยากได้อะไร แล้วให้ความสำคัญกับสิ่งนั้น งานก็จะออกมาเป็นงานที่เราอยากได้ค่ะ