SO/ Bangkok สถานที่สวยชิค เดินทางสะดวกสบายใกล้ MRT และ BTS
ยีนส์กับบิ๊ก (เจ้าบ่าว) เลือกจัดงานเลี้ยงฉลองที่ SO/ BANGKOK(โซ แบงคอก) เพราะชอบการตกแต่งที่ดูทันสมัย พร็อพของโรงแรมก็เข้ากับคอนเซ็ปต์งานที่เราคิดไว้เลยค่ะ ส่วนเรื่องการเดินทางก็สะดวกสบายมาก ๆ เพราะอยู่ใจกลางเมืองใกล้ทั้ง MRT และ BTS นอกจากนี้ ห้องบอลรูมยังมีดีไซน์สวยเก๋ ห้องดูโปร่งด้วยเพดานที่สูงถึง 7 เมตร แถมภายในห้องยังมีจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ที่สามารถใช้เป็นฉากหลังได้ ทำให้การตกแต่งงานออกมาเหมือนจริงมาก ช่วยลดค่าใช้จ่ายการตกแต่งไปได้เยอะเลยค่ะ
งานสวยมีศิลป์ ด้วยคอนเซ็ปต์ Roadtrip To The Sun
ด้วยความที่เราสองคนชอบเดินทาง Roadtrip ไปยังสถานที่ต่าง ๆ เห็นธรรมชาติข้างทางและช่วงเวลาที่เปลี่ยนผ่านของพระอาทิตย์ เราจึงคิดคอนเซปต์ Roadtrip To The Sun เพื่อบอกเล่าประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยความรัก เราเป็น Interior Designer กันทั้งคู่อยู่แล้ว จึงเลือกออกแบบงานเองทั้งหมด ทั้งงานจึงเป็นตัวตนของคู่เรามาก ๆ ค่ะ
สำหรับด้านนอก เราอยากให้บรรยากาศเหมือนพระอาทิตย์ขึ้น จึงใช้โทนสีส้ม สีน้ำตาลแดง และสีสนิม มาตกแต่งร่วมกับงานศิลปะที่เราเย็บปักถักร้อยขึ้นมาเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นงานปักรูปบ่าวสาว งานปักลายธรรมชาติ เป็นต้นค่ะ
ส่วนแบ็คดรอปถ่ายภาพ เราตั้งใจให้ฉากหลังเหมือนท้องฟ้าที่พระอาทิตย์กำลังขึ้น จึงลงมือเพ้นท์สีผ้าโปร่งกันเอง เป็นตัวแทนท้องฟ้าผสานการปักลาย ส่วนดอกไม้ใช้โทนสีเขียวและสีขาวมาตกแต่ง เพื่อไม่ให้แย่งซีนโทนสีส้มของตัวงานศิลปะ ใกล้กันเป็นโฟโต้บูทสีดำที่ทำเป็นอุโมงค์ดอกไม้ ซึ่งจุดนี้จะมีช่างภาพมายืนประจำจุดคอยถ่ายรูปให้กับแขกภายในงานค่ะ
ส่วนด้านในห้องบอลรูม เราตกแต่งสไตล์ Modern Loft ด้วยการใช้โครงเหล็กรูปกล่องวางซ้อนกันเป็นภูเขา ฉายภาพวิวทิวทัศน์สถานที่ท่องเที่ยวที่เราชื่นชอบ และที่สำคัญทุกรูปตัดต่อมาจากรูปที่เราถ่ายกันเอง อย่าง Painted Hill ที่รัฐ Oregon, Yosimite National Park รัฐ California เป็นต้น เราอยากให้แขกได้ซึมซับบรรยากาศ เสมือนว่าเขาได้ร่วมเดินทางไปกับเรา นอกจากนี้ เราชอบที่โรงแรมมีจอโปรเจคเตอร์ทั้งหน้าห้องและหลังห้อง ทำให้เวลามีภาพวิวขึ้นจอ ทั้งห้องเหมือนถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติจริง ๆ เลยค่ะ
พิธีการอบอุ่น กินใจ
งานของเรามีแขกประมาณ 350 ท่าน ซึ่งทุกท่านที่มาถึงจะได้รับของชำร่วยเป็น Pesto Sauce กระปุกเล็ก ๆ ฝีมือเจ้าบ่าว ก่อนจะเข้างานมาถ่ายรูปร่วมกันที่แบ็คดรอป ส่วนด้านในห้องบอลรูมนั้น เราจะมีการฉายภาพบ่าวสาวไปเรื่อย ๆ แทนการตั้งเป็นแกลลอรี่ภาพในงานค่ะ
เมื่อถึงกำหนดการ เราเปิดวีดีโองานหมั้นก่อน จบแล้วจะมีข้อความต้อนรับแขกที่เข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ว่า "YOU HAVE ARRIVED AT YOUR DESTINATION" ซึ่งเป็นการบอกแขกทุกคนว่าเขาได้ร่วมเดินทางมาถึงงานแต่งของเราทั้งสองคนแล้วค่ะ ซึ่งคิวต่อไปเป็นโชว์ทำค็อกเทลจากเจ้าบ่าวบนเวที ก่อนที่เราจะลงมาควงแขนดื่มพร้อมกัน
โดยงานนี้เราได้พิธีกรคู่เพื่อนของบิ๊กและน้องสาวยีนส์มาดำเนินงานบนเวทีให้ พิธีของเราเป็นไปแบบเรียบง่ายมาก ๆ เริ่มจากกล่าวเชิญประธานขึ้นมาอวยพร ครอบครัวและเพื่อน ๆ ที่เรารักพูด Speech กันจากด้านล่างเวที ปิดท้ายด้วยความในใจของเราสองคน และเข้าสู่ช่วงตัดเค้กที่เพื่อนของเราขึ้นมาช่วยร้องเพลง Until I Found You ของศิลปิน Stephen Sanchez ให้ ก่อนปิดจบพิธีด้วยการโยนดอกไม้ค่ะ
ก่อนเริ่มงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เราเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดลายดอกไม้ที่ดัดแปลงให้ล้อไปกับฉากหลังโฟโต้บูท ซึ่งเราเปิดงานด้วยวงดนตรีที่บิ๊กกับเพื่อน ๆ เคยฟอร์มกันตั้งแต่เด็ก ก่อนจะมีวงดนตรีที่จ้างขึ้นมาเล่นค่ะ
สำหรับรูปแบบโต๊ะอาหาร จะเป็น Long Table สองแถวสำหรับแขก VIP ส่วนที่เหลือจะเป็นโต๊ะค็อกเทล และจัดเลี้ยงอาหารที่ผสมผสานกันระหว่างเมนูค็อกเทลกับซุ้มอาหารของทางโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูแดง กระเพาะปลา เค้กแซลมอน และมีนำอาหารเข้ามาเองด้วย นั่นคือ สปาเก็ตตี้และเพสโต้ค่ะ ต้องยอมรับว่า เรื่องรสชาติอาหารเป็นอีกเรื่องที่ไม่คิดว่าแขกจะชื่นชอบกันเยอะขนาดนี้ โดยเฉพาะซุ้มอาหาร หมดเกลี้ยงทุกเมนูเลยค่ะ
แขกรื่นรมย์ และบ่าวสาวภูมิใจได้งานสวยแบบเป็นตัวเอง
เราประทับใจที่ได้จัดงานที่เป็นตัวตนของเราจริง ๆ ตั้งแต่ชุดเจ้าสาวที่มีความเรียบง่ายแบบมินิมอลตรงใจ แถมยังสามารถเติมกิมมิกลายพระอาทิตย์ตามธีมงานที่คิดไว้ ยีนส์ชอบมากถึงขั้นอยากใส่อีกเรื่อย ๆ เลยค่ะ
เรารู้สึกขอบคุณเพื่อนพี่น้องทุกคนที่มีส่วนร่วมในงานครั้งนี้ ที่พร้อมช่วยเหลือเราตลอด การที่ได้เพื่อน ๆ มาช่วยในงานทำให้บรรยากาศงานดูชิลและอบอุ่นมากขึ้นค่ะ
สำหรับทีมงาน เรารู้สึกประทับใจทีมรันคิวมาก ๆ ทุกอย่างออกมาราบรื่น การจัดไลท์ติ้งในแต่ละคิวทำออกมาได้ดีสุด ๆ ยิ่งเสริมให้บรรยากาศในงานออกมาน่าประทับใจมากค่ะ ส่วนโรงแรม เราประทับใจคุณตั๊ก เซลล์ของโรงแรมที่คอยดูแลช่วยเหลือ รวมถึงดีลงานกับฝ่ายต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี งานของเรามีดีเทลยิบย่อยเยอะมาก แต่เขาก็เข้าใจ คุยง่าย ไม่จุกจิกเลย ยกตัวอย่างเช่น เราไม่สามารถเข้าไปลองจอโปรเจคเตอร์ได้ เขาก็ไปช่วยทำแทนเรา แถมอัปเดตให้เราโดยไม่ต้องเอ่ยถามเลยค่ะ
คำแนะนำบ่าว-สาว
เผื่องบไว้จากเดิม : การจัดงานแต่ง ถึงแม้จะตั้งงบไว้แล้ว ย่อมมีเหตุให้งบบานปลาย เพราะมันจะมีค่าใช้จ่ายจุกจิกที่เราอาจหลงลืม หรือ ตอนแรกนึกไม่ถึง ฉะนั้น ต้องเผื่อใจและเผื่องบสำรองไว้ด้วย
ชุดแต่งงานควรสอดคล้องกับสถานที่ : สถานที่จัดงานมีผลต่อการเลือกชุดแต่งงานมากค่ะ อย่างถ้าเราจัดงานอินดอร์ในช่วงหน้าร้อน ควรเลือกเนื้อผ้าที่เบาสบาย การเปลี่ยนอิริยาบถต่าง ๆ ควรทำได้ง่ายด้วย หากเลือกชุดที่สวยแต่ใส่ไม่สบาย อาจทำให้เรารู้สึกอึดอัดในการทำแต่ละพิธี
งานผิวสำคัญ : ไม่ใช่แค่เรื่องแต่งหน้า หรือ ชุด ที่มีส่วนสำคัญเท่านั้น เราว่า 'ผิว' ก็สำคัญที่จะส่งพลังออร่าออกมา อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในเวลาที่แขกสัมผัสตัว ฉะนั้น ควรออกกำลังกายและดูแลรักษาผิวให้ดีเป็นพิเศษค่ะ
ปล่อยวาง ด้วยการฝึกหายใจ : การฝึกเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะวันแต่งงาน หลายคู่อาจเกิดความเครียดหรือตื่นเต้นได้ การฝึกหายใจเข้า-ออกช้า ๆ เพื่อสลัดความกังวล ลดความประหม่า ก็ช่วยได้เยอะเลยค่ะ ดังนั้น ควรบอกตัวเองให้หันมาโฟกัสกับความสุขตรงหน้าจะดีกว่า
เลือกช่างภาพและวิดีโอตามสไตล์ที่เราชอบ : ภาพถ่ายจะเป็นอีกความทรงจำที่จะอยู่กับเราไปอีกนาน ฉะนั้น ควรใส่ใจในการเลือกเจ้าที่มีผลงานน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพ ขณะเดียวกัน ต้องหาสไตล์ที่ชอบด้วย เพื่อที่เขาจะได้ถ่ายโมเม้นต์วันสำคัญให้ออกมาสวยเป็นธรรมชาติและยังมีความเป็นเราอยู่ในนั้น