ไอเดียสนุก ทุกภาพมีความหมาย
การถ่ายพรีเวดดิ้งของคู่ภัทร เราทำงานร่วมกับทีมช่างภาพจากเพจคนตัวเล็กค่ะ เพื่อนๆ แนะมาว่ามันดูแปลกและน่าสนุกดี ส่วนตัวเราก็คิดว่ามันน่าสนใจดีเหมือนกัน
ภาพที่ได้จะเห็นเป็นบ่าวสาวตัวเล็กๆ มีพร็อพร่วมซีนอยู่ ซึ่งทีมงานจะให้เราเอาของที่อยากให้อยู่ในภาพ พกติดตัวไปถ่ายด้วย เพราะฉะนั้นทุกภาพจะมีความหมายเกี่ยวข้องกับเราจริงๆ
อย่างของภัทรเรามีไฮไลท์หลักเป็นจักรยาน เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้คู่บ่าวสาวได้เริ่มต้นรู้จักกัน (คู่นี้เขาไปเดทด้วยการปั่น Sky Lane ข้างสุวรรณภูมิจริงจังกันเลยค่ะ)
วิธีถ่ายคือเขาจะเอาจักรยานไปตั้ง แล้วเราก็ทำท่าเหมือนขี่จักรยานจริงๆ แล้วใช้วิธีโฟโต้ช็อป ซึ่งนอกเหนือจากจักรยานแล้วก็ยังมีบัตรคอนเสิร์ต Jason Mraz ที่เราไปดูด้วยกัน และอื่นๆ อีกด้วยค่ะ
พิธีการกระชับ รับกับช่วงเวลา @Ban Chiang Hotel Udonthani
สำหรับงานหมั้น ภัทรเป็นคนอุดร จึงเลือกจัดงานที่ Ban Chiang Hotel Udonthani (โรงแรมบ้านเชียง อุดรธานี) เราเริ่มจากการเข้าเว็บ Sabuywedding แล้วดูเรื่องพิธีการก่อน ซึ่งถือเป็นไกด์ไลน์ที่ดีมาก จากที่จับต้นชนปลายไม่ถูกก็เริ่มเข้าใจมากขึ้น หลังจากนั้นจึงปรึกษาผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย รวมถึงคนจัดเตรียมขันหมาก แล้วก็ปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเองค่ะ
งานนี้เรามีแขก 120 คน พิธีการเริ่มตั้งแต่แห่ขันหมาก สวมแหวนตามฤกษ์ เปิดสินสอด หลังจากจบช่วงพิธีการเราก็มีทานเลี้ยงกันแบบโต๊ะจีน ส่วนยกน้ำชาและรับไหว้ญาติผู้ใหญ่ เราจัดกันที่กทม. เพื่อความสะดวก โดยมีของรับไหว้เป็นผ้าพันคอเนื้อดีของมูลนิธิ รพ. บำรุงราษฎร์ ทุกอย่างภายในงานจบเสร็จสิ้นในครึ่งวัน ฟีดแบคออกมาดี ผู้ใหญ่แฮปปี้ ชมว่าทั้งถูกขั้นตอน กระชับและอบอุ่นดีค่ะ
อบอุ่นด้วยบรรยากาศในสวน @Mellow Garden
ในส่วนของงานฉลอง ภัทรเลือกจัดที่ร้านอาหาร Mellow Garden (เมลโล่ การ์เด้น)โดยก่อนเริ่มช่วงเย็นจะมีพิธียกน้ำชา ที่นี่บรรยากาศดี มีโซนเอ้าท์ดอร์ อาหารอร่อย และโดยรวมสถานที่ถือว่าสวยอยู่แล้ว แทบไม่ต้องตกแต่งอะไรมากค่ะ
ธีมงานของเราเป็น Bike in the garden เน้นสีชมพูที่ภัทรชอบ งานนี้ไม่มี Backdrop เพราะอยากให้ได้ความเป็นกันเอง ถ่ายรูปได้ทุกมุม โดยเราให้ทีมตกแต่งมาช่วยดูแลตรงนี้ให้อีกที
แรกสุดเวลาแขกเดินเข้ามาในงานจะเจอโต๊ะรีเซปชั่นก่อน ซึ่งตรงนี้ภัทรใส่ไอเดียลงไปตรงที่เซ็นอวยพร โดยเราจะมีรูปแขกเตรียมไว้ล่วงหน้า จากการที่เราให้แขกถ่ายภาพกับการ์ดแต่งงาน แล้วเชียร์ว่ามีประกวด ถ้าใครถ่ายรูปสวยเราจะให้รางวัล แล้วอัดเป็นโพลารอยด์ออกมา นอกจากจะสะดวกแล้ว ก็ยังมีเรื่องราว สัมผัสได้ถึงความตั้งใจจริงๆ
ของชำร่วยในช่วงนี้ ภัทรใช้สมุดบันทึกจากมูลนิธิเด็ก เพราะเหมือนได้ทำบุญไปในตัว นอกจากนี้เราก็ยังทำการ์ดกับทางมูลนิธิด้วยเช่นกันค่ะ
คีย์หลักอยู่ที่อาหารดี ดนตรีไพเราะ
ตรงมุมแกลอรี่ เรานำจักรยานที่ใช้ปั่นจริงๆ มาประดับ ร่วมด้วยของที่ใช้ตอนถ่ายพรีเวดดิ้ง บนเวทีมีซุ้มชื่อเรา ตกแต่งด้วยโฟมที่แกะเป็นตัวอักษรย่อชื่อบ่าวสาว นอกจากนี้ก็ยังมีไฟโยง เสริมให้ภาพรวมงานดูอบอุ่น ประกอบกับภัทรจัดงานช่วงปลายปีพอดี อากาศกำลังเย็นสบาย
อาหารของเราจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ เน้นไทยฝรั่ง ตักง่าย ทานอร่อย และมีขนมตบท้าย ดนตรีในงานเป็นวงดนตรีบรรเลง 3 ชิ้น คือไวโอลิน เบส และคีย์บอร์ด จากวง E N trio (ย่อมาจาก ex navy trio เพราะนักดนตรีเคยอยู่ทหารเรือ) เลือกมาแต่เพลงที่เราชอบ แนวชิลล์ๆ ทุกคนชมว่าเล่นเก่งมากจริงๆ
ในงานเรามีพิธีกรเป็นเพื่อนบ่าวสาวฝ่ายละคน ช่วยทำให้งานลื่นไหลดีมาก เพราะเป็นมืออาชีพ แต่งานนี้เราไม่มีพรีเซนเทชั่น เพราะคิดว่าแขกที่มางานน่าจะรู้จักเราดีอยู่แล้ว ติดที่ว่าอาจจะยังไม่รู้จักอีกฝ่าย จึงบอกเล่าเรื่องราวของบ่าวสาวผ่านการแนะนำตัวนิดหน่อย และมีกระดาษจดคำถามจากแขก ว่าใครอยากถามอะไรบ้าง ใช้วิธีจับฉลากเอา ได้โมเม้นท์ขำๆ ดี
ช่วงอวยพรเราจัดให้มีฝั่งละ 3 คน ของภัทรเป็นคุณพ่อและเพื่อนซี้สองคน ส่วนฝั่งเจ้าบ่าวเป็นพี่ชายและเพื่อนสนิท แต่ละคนพูดสั้นๆ แต่ซึ้งตรึงใจ เรียกว่ามีครบทุกอารมณ์เลย
สุดท้ายเราโยนดอกไม้ และมอบรางวัลจากการถ่ายรูปคู่กับการ์ด โดยมีของขวัญเป็นเครื่องหอมมอบให้ค่ะ
วิธีคิดตั้งแต่แรกสำคัญที่สุด
สำหรับตัวภัทรเอง ภัทรคิดว่าการเตรียมงานแต่งงานเป็นเหมือนการทดลองตัดสินใจ ทำอะไรสักอย่างร่วมกันกับคู่ของเรา เพราะฉะนั้นการเริ่มต้นนั้นสำคัญมาก ของภัทรเราคุยกันก่อนเลยว่าเราจัดงานเพื่ออะไร แล้วถึงได้ข้อสรุปว่าเราอยากจัดงานเพื่อขอบคุณคนในชีวิตของเรา ทั้งครอบครัว ญาติสนิท เพื่อนๆ ดังนั้นจึงจัดแบบไม่ใหญ่ และให้ทุกอย่างโยงเข้าไปในแนวคิดนี้หมด เลือกเชิญคนที่สำคัญกับเราจริงๆ แล้วถึงแบ่งงาน ลงดีเทลกันว่าใครจะรับผิดชอบตรงไหนยังไง
การจัดงานแต่งงานนั้นเจ้าสาวอาจจะมีความต้องการมากกว่าเจ้าบ่าว อย่างภัทรเองเป็นคนละเอียด ก็จะบอกเจ้าบ่าวตรงๆ เลยว่าอะไรที่เราเยอะไปให้บอก พอทุกฝ่ายสบายใจ เจอกันตรงกลาง เอาเงินไปลงกับสิ่งที่คุ้มค่า ก็ช่วยเอื้อให้งานออกมาดี ฟีดแบคดี ทุกคนจะได้แฮปปี้และสนุกไปกับเราจริงๆ ค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
จัดงานเล็กก็ดีไปอีกแบบ : เพราะทำให้เราเชิญแต่เฉพาะคนสนิทได้ บรรยากาศงานก็อบอุ่น เรารู้จักแขกทุกคน แขกทุกคนรู้จักกัน และเราก็ดูแลแขกได้ทั่วถึงด้วยค่ะ
งานหมั้นให้ขยันถามผู้ใหญ่ : เพราะเรื่องพิธีการมีความหมายสำคัญกับผู้ใหญ่มาก ดังนั้นอย่าลืมให้ผู้ใหญ่แต่ละฝ่ายช่วยดูให้สบายใจ ว่าพิธีการที่จะเกิดขึ้นนั้นครบถ้วนจริงๆ
ทัศนคติที่ดีสำคัญมาก : ให้คิดว่าอะไรที่เกิดขึ้นยังไงก็ดีเสมอค่ะ คิดแบบนี้เราจะเป็นบ่าวสาวที่แฮปปี้ ไม่เหวี่ยงวีน ไม่ต้องมานั่งคิดจุกจิกหลังจบงาน ยังไงทุกคนที่มางานเรา ก็เป็นคนที่รักเรา และมาอวยพรเราด้วยความตั้งใจจริงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอะไรที่ไม่เป็นดั่งใจก็ให้ปล่อยไป สนุก สุข ซาบซึ้ง และขอบคุณไปกับคนที่มาหาเราดีกว่าค่ะ