ปรับสีที่ใช้ ให้เข้ากับงาน
งานแต่งของเรา ใช้สถานที่แต่งงานที่ Bangsaen Heritage Hotel (บางแสน เฮอริเทจ) จัดเป็นธีม Alice in Wonderland เพราะส่วนตัวเจ้าสาวชอบเรื่องนี้มากค่ะ แต่ถ้าดึงสีจริงตามแบบฉบับออริจินัลมาใช้ อาจจะทำให้ภาพรวมดูดาร์กไปหน่อย ไม่เหมาะกับงานแต่ง เราเลยปรึกษากับทางออแกไนซ์ เสริมโทนขาวและความเป็น Fairy Tale เข้าไป
ส่วนประกอบของงานหลักๆ ตั้งแต่ทางเข้า เราจำลองให้เป็นอุโมงค์เหมือนกับฉากตอนที่อลิซตกลงไปในหลุม แต่ถ้าหลุมของจริงก็จะทั้งมืดและดำ เราเลยเปลี่ยนให้เป็นอุโมงค์สีขาว โดยที่คำนึงถึงแขกด้วยการทำเป็นอุโมงค์แบบปิด แล้วเปิดประตูจากฮอลล์บานเดียวเพื่อให้อากาศจากในห้องถ่ายเทออกไป กลายเป็นอุโมงค์แอร์เย็นๆ ที่มีทั้งกระต่าย ต้นไม้สีขาว เห็ด กวาง และการ์ตูนตัวอื่นๆ ในเรื่องประดับอยู่ พอเดินไปเรื่อยๆ และเจอต้นไม้สีขาว ก็จะทำให้แขกนึกถึงฉากนึงที่ทั้งสวยงามและโดดเด่นมาก ซึ่งคือฉากที่อลิซกำลังเดินทางไปยังปราสาทเจ้าหญิงขาวนั่นเองค่ะ
ดีเทลเล็กใหญ่อย่าให้ตกหล่น
ออกมาจากอุโมงค์ เราเตรียมความสนุกสนานเพลิดเพลินไว้ให้กับแขกด้วยซุ้มปริ้นท์รูปสด มุมนี้เราซื้อแพ็คเกจเป็นแบบอันลิมิต เพื่อที่จะได้ปริ้นได้โดยไม่จำกัด ภาพที่ได้ออกมาเราจะให้แขกเก็บกลับบ้านไปหนึ่งรูป ส่วนอีกรูปเราให้เขียนคำอวยพรให้ เพื่อใช้แทนสมุดอวยพร แถมตอนดูจะได้นึกออกได้เลยว่าใครคนไหนเขียนคำอวยพรไว้ว่ายังไง
มุมของชำร่วย เราตั้งใจคัดสรรมาเป็นอย่างดี โดยอุดหนุนคุณป้าท่านหนึ่งที่มีประสบการณ์ในการทำตุ๊กตาโบราณแบบยุโรป ลักษณะของของที่ใช้คือ จะเป็นเหมือนผอบทรงไข่ที่ด้านนอกเป็นกำมะหยี่ ส่วนยอดด้านบนสุดเป็นหัวกระต่ายตกแต่งด้วยหมวก ทั้งหมดเป็นของทำมือ ถึงจะราคาสูงกว่าที่ตั้งใจไว้หน่อยแต่ก็ถือว่าได้ของที่ถูกใจ เพราะทั้งน่ารักและพรีเมี่ยมมากๆ ส่วนด้านข้างๆ กันเป็นกล่องใส่ซองที่ถูกดีไซน์ให้เป็นหมวก Mad Hatter ใส่ซองเข้าไปในหมวกแบบนี้จะได้ดูมีกิมมิคมากกว่าค่ะ
Backdrop ดี ได้ใจไปกว่าครึ่ง
นอกจากจะมีมุมที่ทุกคนจะเห็นได้อย่างชัดเจน และจดจำมากที่สุดแล้ว ยังเป็นมุมหลักในการเก็บภาพแห่งความทรงจำของเราอีกด้วยค่ะ ในส่วนนี้กวางดีไซน์ให้ตรงพื้นเป็นตารางหมากรุก ส่วนด้านหลังมีประตูบานใหญ่ซึ่งเปิดได้จริงบานนึงเป็นแบ็คกราวน์ประดับอยู่ จุดนี้เจ้าสาวสามารถใช้เปิดตัวเพื่อเดินเข้าไปหาเจ้าบ่าวซึ่งอยู่ตรงสะพานกลางงานได้ ตรงฟ้อนต์ชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ประยุกต์เอาจากโลโก้ชื่อเรื่องอลิซมาใช้ด้วย บนสุดมีกาน้ำชาตกแต่งอยู่ จนดูเหมือนเป็นกาน้ำชารินชื่อออกมาเลยค่ะ
เลือกชุดให้เข้ากับบรรยากาศ
ชุดของกวางด้านบนเป็นซีทรูส่วนด้านล่างเป็นขนนกค่ะ ในลำดับงานช่วงที่คุณพ่อคุณแม่จูงเจ้าสาวมาส่งนั้น เราเปิดเพลง Flightless Bird ของ IRON&WINE คลอประกอบไปด้วย เป็นฉากเดียวกับฉากแต่งงานในเรื่องทไวไลท์ ซึ่งถือเป็นอีกเรื่องที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวชอบมากๆ ถึงขั้นที่คุณเจ้าบ่าวเอ่ยปากบอกเลยค่ะ ว่าเข้าใจแล้วว่า เอ็ดเวิร์ดในเรื่องรู้สึกยังไง เพราะเพลงนี้มันช่างโรแมนติกจริงๆ หลังจากซีนเปิดตัว ส่วนที่เราชอบและตั้งใจทำมากๆ อีกสองส่วนคือ เวทีปราสาทอิ้งค์เจ็ท ตรงนี้ออแกไนซ์ทำดีไซน์ออกมาเป็นคัทเอ้าท์ เพื่อให้ดูมีมิติ มีไฟห้อยระย้าลงมาจนเหมือนดาว ตบท้ายด้วยซุ้มเค้กที่น่ารักมากๆ ด้านซ้ายและขวามีดอกไม้ประดับอยู่ หลังจากตัดเค้กเสร็จ เราก็มอบให้กับประธาน และคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่าย โดยที่ผู้ใหญ่เป็นคนป้อนเค้กให้เรา เหมือนใส่พิธีจีนลงไปด้วยนิดนึง เพื่อสื่อถึงความกตัญญู แทนการยกน้ำชาและการทานขนมบัวลอย ซึ่งเราไม่ได้ทำลงไปแทนค่ะ
สำหรับกวางและคุณเจ้าบ่าว เราสองคนคิดว่า การแต่งงานแทบจะถือว่าเป็นงานเดียวในชีวิต ที่เราสามารถรวมคนที่เรารักและรักเรามาไว้ในที่เดียวกัน เวลาเดียวกันได้มากขนาดนี้ เพราะฉะนั้นการเตรียมงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเสื้อผ้า หน้าผม การตกแต่ง ไปจนถึงของชำร่วยทั้งหมด เราตั้งใจและให้ความสำคัญกับมันทั้งหมด ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็คุ้มค่า ไม่ใช้แค่แขกรู้สึกอินไปกับเรามากๆ แต่ทุกยังมีความสุขร่วมกัน เป็นเหมือนของขวัญวันแต่งงานที่มีค่ามากจริงๆ
แนะนำบ่าวสาว
เลือกทีมงานที่ใส่ใจเราจริงๆ : ทีมงานที่พร้อมจะไปกับเรา คือทีมที่พร้อมจะแก้ไขงานเรื่อยๆ จนกว่าจะได้สิ่งที่ดีที่สุด เขาอาจจะไม่ต้องเป็นมือหนึ่งของเมืองไทยก็ได้ แต่ต้องพร้อมที่จะตอบสนองเรา แค่นั้นงานก็ออกมาสมบูรณ์แบบได้ด้วยตัวของมันเอง โดยที่เราไม่ต้องเครียดมากแล้วค่ะ