Villa De Bua สถานที่แต่งงานร่วมสมัย เดินทางง่าย ปรับแต่งเองได้ตามใจ
น้ำอยากได้สถานที่แต่งงานที่ไม่ใช่โรงแรม ปลอดโปร่งและสามารถเข้าไปปรับแต่งด้วยตัวเองได้ แล้วมีรุ่นพี่แนะนำ Villa De Bua (วิลลา เดอ บัว) พอเห็นก็ชอบเลย มันมีความสวย เก๋ ดูกึ่งโมเดิร์น กึ่งโบราณนิดๆ รอบตึกเป็นหน้าต่างและกระจก มองแล้วโปร่ง สบายตา เวลาถ่ายรูปออกมา ให้ความรู้สึกเป็นกันเองดีค่ะ
นอกจากนี้สถานที่ก็ใหญ่ สามารถรองรับแขกของน้ำเกือบ 600 คนได้ แล้วยังมีพื้นที่สนามด้านนอกให้ใช้ด้วย ด้านที่จอดรถก็กว้าง การเดินทางสะดวก ตอนมาขับรถลงทางด่วนสุขาภิบาล 5 ส่วนตอนกลับแค่ไปกลับรถ แล้วขึ้นทางด่วนได้เลย และด้วยสถานที่ติดถนนใหญ่ ทำให้หาไม่ยากเลยค่ะ
ตกแต่งสไตล์มินิมอล ใช้สถานที่ช่วยให้งานสวยเป๊ะ
ด้วยความที่สถานที่สวยและมีการออกแบบดี เป็นสัดส่วน ทำให้ตกแต่งง่ายค่ะ ซึ่งน้ำเน้นความมินิมอล น้อยแต่เก๋ แต่งด้วยดอกไม้ไม่มาก เพราะไม่อยากให้ไปบังความสวยงามของสถานที่ และกำหนดธีมสีในงานเป็นน้ำเงินกรมท่ากับสีเหลืองมัสตาร์ด ที่มาจากชื่อบ่าวสาวคือน้ำและเบียร์
ของชำร่วยของเราเป็นแบงค์สิบรุ่นเก่า เนื่องจากว่าทางเจ้าบ่าวอยากจะให้ทุกคนเก็บไว้เป็นที่ระลึกตลอดไป เหมือนกับงานในวันนี้ที่เราอยากให้ทุกคนเก็บไว้ในใจตลอดไปเช่นกัน
ส่วนการตกแต่งบริเวณสวนน้ำจัดให้มีโต๊ะ ที่นั่ง ของว่างไว้รับรองแขกที่มางานตั้งแต่เช้า และเมื่อแขกเข้ามาในงานจะเจอโลโก้งานแต่งงานที่เป็นไอเดียของเจ้าบ่าวเลยค่ะ ถัดมาอีกนิด ซ้ายมือจะเป็นโต๊ะลงทะเบียน ใกล้ๆ กันจะเป็น Backdrop
เดินเข้าไปภายในบริเวณสถานที่อีกนิด จะเป็นห้องโถงเล็กที่ด้านข้างเป็นกระจกทั้งหมด ห้องนี้ถูกกั้นเป็นอีกห้องแต่ก็ยังมีประตูเชื่อมกับห้องใหญ่ น้ำว่าดีนะคะ เพื่อนๆ ที่เป็นวัยรุ่นจะเดินตักอาหารก็ไม่ต้องเกร็งกับผู้ใหญ่ด้วย โดยส่วนนี้น้ำเอาไลน์อาหารวางด้านข้าง แขกเข้ามาก็จะเห็นอาหารและงานทั้งหมด
ถัดไปเป็นห้องจัดงานใหญ่ค่ะ ในห้องนี้น้ำจะจัดไลน์อาหาร โต๊ะสำหรับแขกที่ยืน และบาร์น้ำอยู่ในนั้น 2 บาร์ โดยที่มีโต๊ะ VIP แบบ long table อีก 180 ที่นั่ง สำหรับแขกผู้ใหญ่ด้วย สำหรับ long table 180 ที่นั่ง ตอนแรกน้ำเข้าใจว่าสถานที่พึ่งเปิดใหม่ ในส่วนของโต๊ะ เก้าอี้ อาจมีไม่พอ แต่พอน้ำบอกว่าแขกผู้ใหญ่เยอะ ต้องการที่นั่ง ทางสถานที่ก็เตรียมให้เพียงพอตามที่ต้องการเลย น้ำประทับใจมากค่ะ ขออะไรถ้าให้ได้ เขาให้เราหมดจริงๆ
รวบรัด จัดพิธีง่าย ช่วยให้บรรยากาศสบาย แขกประทับใจ
งานน้ำเป็นหมั้นเช้าเลี้ยงเที่ยง พิธีไทยจีนค่ะ หลังจากตักบาตรตอนเช้าที่สนามหญ้าแล้ว เราก็ไปทำพิธีบนชั้น 2 เริ่มที่พิธีจีน แลกผลไม้ แลกขนม เพื่อความเป็นมงคลของทั้ง 2 บ้าน ต่อด้วยสวมแหวน ทานขนมอี๋ แล้วค่อยเป็นลำดับพิธียกน้ำชา จากนั้นเป็นพิธีรับไหว้แบบไทย ก็เป็นอันเสร็จพิธีด้านบน
สำหรับใครที่มีพิธีรดน้ำสังข์ น้ำแนะนำห้องด้านบนเลยค่ะ เขามีการออกแบบห้องให้มุมหนึ่งมีหลายเหลี่ยม เป็นกิมมิคเก๋ๆ เพื่อรดน้ำสังข์โดยเฉพาะ สวยมาก
เสร็จพิธีด้านบนก็เป็นกินเลี้ยงค่ะ น้ำรวบกินเลี้ยงกับอาฟเตอร์ปาร์ตี้ไปด้วยกันเลย เพราะน้ำคิดว่าถ้าแยก พอเสร็จพิธีแล้วเป็นอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ผู้ใหญ่บางคนเขาอาจรู้สึกว่าเป็นการไล่ทางอ้อมหรือเปล่า น้ำไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งพอจัดแบบนี้ ทุกคนก็สนุกกันมาก เด็กสนุก แขกผู้ใหญ่ก็คึกคักไปด้วย
น้ำพยายามจัดงานให้ไปแก้ไขสิ่งที่ไม่ชอบเวลาไปงานคนอื่น ดังนั้นในตอนที่กินเลี้ยงจะไม่มีพิธีการอะไรเลย แขกทั้งงานเช้าและบ่ายเป็นชุดเดียวกัน แล้วเราทำพิธีทุกอย่าง รวมถึงพูดอวยพรและขอบคุณไปตั้งแต่พิธีเช้าแล้ว ถ้ามาทำตอนกินเลี้ยงอีก แขกจะเบื่อและบางคนจะรู้สึกไม่ดี แขกกำลังทานข้าว แล้วต้องมาดูพิธี หรือโดนเรียกไปรับดอกไม้ทั้งที่ไม่อยากไป น้ำไม่อยากให้มีความรู้สึกนั้น จึงตัดพิธีการออกหมดค่ะ ช่วงกินเลี้ยงควรจะสนุก เฮฮาได้แล้ว
น้ำและเจ้าบ่าวมีเพื่อนศิลปินมาร่วมยินดีเยอะ เช่น jetseter , playground , ชัช bodyslam , เท่ อุเทน และอีกมากมาย ซึ่งทางเพื่อนๆ ศิลปินก็มีการเซอร์ไพรส์ร้องเล่นดนตรี ให้เป็นของขวัญและอวยพรบ่าวสาว ทั้งที่ใจของเราทั้งคู่ แค่อยากให้เพื่อนๆ ที่เรารัก มาร่วมอยู่ในโมเม้นท์ที่ดีที่สุดของเราทั้งคู่เท่านั้น ซึ่งแขกผู้ใหญ่ก็ได้การเซอร์ไพรส์กลับไปด้วยเลยค่ะ และจากที่มีแค่วงดนตรีเล่นสดกับดีเจ พอเพื่อนขึ้นมาร้องเพลงให้ งานก็ยิ่งสนุกขึ้นอีก
งานนี้น้ำประทับใจสถานที่มากๆ เขาใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ที่นี่มีแค่ 2 ชั้น แต่มีลิฟต์ให้ แขกผู้ใหญ่ที่เดินไม่ไหวสามารถขึ้นลิฟต์ได้เลย แล้วก็มีเรื่องภาพแขวนตามจุดต่างๆ ที่สามารถเอารูปเราไปแขวนได้ ซึ่งมันทำให้รู้สึกว่าตรงนี้เป็นที่ของบ่าวสาว อบอุ่นเหมือนแต่งในบ้าน แขกที่มาก็รู้สึกว่าได้มางานของเราจริงๆ และที่น้ำชอบมากเลยคือห้องแต่งตัว ห้องใหญ่มาก มี 2 ห้อง ห้องหนึ่งทาสีน้ำเงินสำหรับเจ้าบ่าว อีกห้องเป็นสีชมพู เหมือนห้องเจ้าหญิงในเทพนิยาย มีเตียงเจ้าหญิง ถ่ายรูปออกมาสวยมาก แถมห้องน้ำเยอะ สะดวกด้วยค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
เลือกทุกอย่างที่เป็นเรา : ถ้าได้ตัดสินใจเลือกทุกอย่างด้วยตัวเราเองแล้ว แปลว่ามันจะเป็นสิ่งที่เราทั้งคู่ชอบและพอใจ ฉะนั้นเราจะไม่เครียดหรือไม่มีคำว่าไม่ถูกใจอันนี้อันนั้นเลยค่ะ
ใส่ความเป็นตัวตนเราเข้าไปในงาน : แขกทุกคนที่มาร่วมงานคือคนสำคัญ ฉะนั้นรูปแบบงานต้องมีความเป็นเราให้มากที่สุด เพื่อให้แขกรู้สึกกับทุกสิ่งทุกอย่างภายในงาน และมันจะตามมมาด้วยความประทับใจไม่ลืมเลือนค่ะ
งานต้องเป็นงานของเราทั้งสองคน : เลือกที่ทั้งสองคนชอบที่สุด อย่าให้ข้อแม้เล็กๆ น้อยๆ มาทำให้เราต้องจัดงานที่ไม่ตรงใจ เพราะวันสำคัญนี้จะอยู่กับเราตราบนานเท่านาน