รีวิวงานแต่งสีจัดจ้าน Modern Retro ฉบับบ่าวสาวสายปาร์ตี้ @Carlton Hotel Bangkok Sukhumvit

       ไปป์และนุช (เจ้าสาว) เป็นคู่ที่เฮฮาปาร์ตี้ กับแฮชแท็ก #ไปป์นุชสุดปัง จึงอยากจัดงานแต่งเน้นความสนุก หลังจากได้สถานที่เป็นโรงแรม Carlton Hotel Bangkok Sukhumvit (คาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท) ที่อาหารอร่อย ห้องบอลรูมกว้างขวาง มีแชนเดอเลียร์เป็นคลื่นสวย จากนั้นเราจึงมองหาทีม Decoration จนเห็นผลงานของ Jeniva ก็ปิ๊งทันที พอคุยไอเดียให้ฟัง ทางพี่กวาง พี่พลอย มืออาชีพสุด ๆ สามารถตีโจทย์จากความคิดฟุ้ง ๆ ออกมาเป็นธีม Modern Retro สีสันสดใสตรงใจ ทำให้งานยูนีคและบ่งบอกความเป็นตัวตนของเราได้ดีมาก ๆ ครับ  

งานหมั้นเรียบง่าย แต่พิธีการครบ

       ช่วงเช้าเราจัดงานหมั้นตามประเพณีจีนผสมไทย ซึ่งเราที่เป็นคนรุ่นใหม่อาจจะอยากตัดพิธีบางส่วนออก แต่ก็ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่ผู้ใหญ่ขอ จึงแก้ปัญหาด้วยการใส่พิธีการไปในช่วงเช้าให้หมด เพื่อที่ช่วงเย็นจะได้สนุกมากขึ้นในแบบที่เป็นเรา 

       การตกแต่งห้องใช้ฉากเป็นจอ LED มีดอกไม้ประดับเวทีเล็กน้อย มู้ด แอนด์ โทนสีอ่อน ๆ เรียบ ๆ พิธีก็เริ่มจากแห่ขันหมาก เจรจาสู่ขอ มอบสินสอด รับตัวเจ้าสาว จากนั้นจึงสวมแหวน ยกน้ำชานี่ต้องมีครับ เสร็จแล้วก็ถ่ายรูปร่วมกัน

       ด้วยฤกษ์สวมแหวนตอน 11 โมง ซึ่งใกล้เที่ยงแล้ว เราเลยเลือกเสิร์ฟเมนูข้าวมันไก่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของโรงแรม แขกมี 50-60 ท่าน ทางเราจึงสั่งเผื่อไว้ 100 ที่ แต่ด้วยความอร่อย สุดท้ายจึงต้องสั่งเพิ่มอีก 50 ที่เลยครับ บางท่านถึงกับทานไป 3 จานเลยทีเดียว แนะนำเลยครับเมนูนี้ จากนั้นก็เป็นพิธีส่งตัวบ่าวสาว ตามธรรมเนียมต้องโยนเด็กผู้ชายขึ้นเตียง เพราะเชื่อว่าจะได้ลูกชายครับ

งานเลี้ยงเทรนด์ใหม่ สวยแปลกตาด้วยโทนสี Vivid Colors  

       มาถึงช่วงเย็น เราเปลี่ยนบรรยากาศการตกแต่งเป็นแนวเรโทร ที่มีความโมเดิร์น ใช้สีฉูดฉาดเด่นทะลุกล้องอย่าง ชมพู ส้ม เหลือง ฟ้า ม่วง ทั้งดอกไม้และของตกแต่ง ซึ่งนุชชอบวัสดุฟรีฟอร์ม ไม่ชอบความเหลี่ยมหรืออะไรที่ดูเป๊ะเกิน ทาง Jeniva ก็ครีเอตมาเป็นเสาลายหยักและแท่นวางรูปในโซนแกลเลอรี่ ส่วนแบ็คดรอปมีเสาโรมันประดับกระดาษฟอยล์ระยิบระยับเล่นแสงไฟ ช่วยเพิ่มความสดใสให้กับงานมากขึ้น  

       นอกจากนั้นเรายังมีภาพวาดการ์ตูนมาสคอตหัวใจที่เพื่อนออกแบบให้ จึงนำมาใช้ทั้งในการ์ดเชิญ ของชำร่วย ป้ายต้อนรับ รวมถึงฉายบนจอ LED ในห้องบอลรูม จะได้ลดทอนการตกแต่งลง ช่วยประหยัดงบและงานก็ดูสบาย ๆ ยิ่งขึ้นด้วย

       สำหรับลำดับงาน เราตกลงกับครอบครัวว่าอยากได้พิธีการน้อยที่สุด แต่ก็ให้ผู้ใหญ่สบายใจระดับหนึ่ง เริ่มจากเปิดตัวเจ้าสาว ทางนุชอยากเต้นเข้างาน มีคุณพ่อเดินตบมืออยู่ข้าง ๆ แล้วค่อยส่งต่อเจ้าสาวให้ผมพาขึ้นเวที ช่วงประธานขึ้นมาพูด ผมกำชับไว้ว่าขอแบบกระชับรวดเร็ว ต่อด้วยการพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ เพราะอยากให้เขามีส่วนร่วมด้วย เขาก็เตรียมมุกมา ทำให้งานมีเสียงหัวเราะเป็นระยะ

       จากนั้นก็เปิดวิดีโอพรีเซนเทชั่น ซึ่งผมทำเป็น MV ตามสไตล์เรา ต่อด้วยการรินแชมเปญ งานนี้ไม่มีตัดเค้ก เพราะรู้สึกว่าเวลาวางแก้วกลางงานดูได้ฟีลปาร์ตี้กว่า พอถึงช่วงโยนดอกไม้ เราก็สร้างกิมมิกให้เจ้าสาวโยนช่อหนึ่ง เจ้าบ่าวโยนช่อหนึ่ง เพื่อลดความกดดันของคนที่ได้รับช่อดอกไม้ที่ต้องขึ้นมาพูดบนเวที และส่วนตัวผมก็อยากโยนเองด้วย 

อาฟเตอร์ปาร์ตี้สุดมันส์ เจ้าสาวถึงกับเป็นลม!

       ช่วงนี้จริง ๆ เจ้าสาวจะมีการแสดง เลยขอเวลาขยับโต๊ะด้านหน้าของผู้ใหญ่เล็กน้อย แต่อาจสื่อสารผิดพลาด กลายเป็นว่าผู้ใหญ่มายืนรอหน้างาน เราเลยต้องมูฟไปถ่ายรูปและดูแลแขก เจ้าสาวที่ไม่ได้พักทั้งวัน แถมกินแชมเปญไปด้วย ก็เลยเป็นลม ต้องรอเจ้าสาวฟื้น ถึงจะเปิดปาร์ตี้ด้วยโชว์เต้น เพลงแรกสวย ๆ เซ็กซี่นิดหนึ่ง แต่เพลงที่ 2 เลือกเพลงของมิลลิ นุชก็ใส่กางเกงแอโรบิคเต้นฮา ๆ เลย เพราะอยากให้ทุกคนมีเสียงหัวเราะกลับไป

       หลังการแสดงก็เป็นช่วงปาร์ตี้ เราเลือกใช้บริการวง "โนบาร์หน้าช่อ" มามอบความสนุกให้กับงาน ทุกคนเอนจอยมากครับ สนุกกันจนลืมไปเลยว่าเคยปวดหลัง และเรายังมีสแตนดี้รูปบ่าวสาว เอามาตั้งหน้างานให้ถ่ายรูปขำ ๆ ถือเป็นอีกมุมที่สร้างรอยยิ้ม ตอบโจทย์ว่าไม่จำเป็นต้องมีบ่าวสาวอยู่ใกล้ ๆ แต่เพื่อนก็ยังสนุกไปกับงานได้ครับ

วันสำคัญในชีวิตที่ประทับใจไม่รู้ลืม

       นุชประทับใจเรื่องของตัวงาน ทุกทีมคือ Professional มาก ตั้งแต่พี่ซุ้ย Sales Director โรงแรม ทีมรันคิว พี่เจี๊ยบ ทีม Decoration Jeniva พี่กวาง พี่พลอย และอีกหลาย ๆ ทีม ที่ทำให้วันนี้ของนุชกับไปป์สมบูรณ์แบบมาก ๆ ส่วนไปป์เองประทับใจแขกทุกท่านที่มาร่วมงานครับ ทุกคนให้ความร่วมมือกับกิจกรรมต่าง ๆ ในงาน แล้วมีส่วนร่วมให้งานสนุกขึ้น รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทุกคนเหมือนเป็นตัวแสดงความสำเร็จในการจัดงานของพวกเราเป็นอย่างดี  

คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว

งานแต่งต้องมาจากตัวเรา : สิ่งสำคัญในการวางแผนจัดงานแต่งคือบ่าวสาวต้องรู้ว่าตัวเองอยากได้อะไร เช่น งานยิ่งใหญ่ หรืองานสนุก โดยให้ยึดจากที่ตั้งไว้ แล้วคุยกับพาร์ทเนอร์และครอบครัว เพราะถ้างานมาจากความคิดหรือตัวตนของเราจริง ๆ จะน่าจดจำกว่า

ให้ครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งของงาน : แม้ว่าเราจะอยากจัดงานในแบบของเรามากขนาดไหน เราก็ควรจะมีพื้นที่รับฟังข้อเสนอแนะ หรือพิธีการที่พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายเสนอ เพราะนอกจากบ่าวสาวแล้ว ท่านเองก็มีภาพงานแต่งที่ท่านอยากเห็น บางสิ่งที่ท่านขอ ใช้เวลาไม่นานและไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไรมากมาย แต่เป็นความสุขทางใจของท่านมาก ๆ ให้ท่านได้มีส่วนร่วมกับงานของเรา เพื่อเป็นความทรงจำดี ๆ ของทุกคน

อย่าลืมทานข้าว : ในช่วงวันงาน บ่าวสาวจะยุ่งแล้วอิ่มความสุขมาก มากจนลืมทานข้าว อีกทั้งต้องใช้พลังงานเยอะมาก ๆ ดังนั้นแม้จะมีเวลาแค่ไม่กี่นาทีก็ต้องทาน

บอกข้อมูลเวลางานกับทีมตกแต่ง : คุยกับทีมตกแต่งว่าห้องจัดเลี้ยงมีงานก่อนหน้าเราหรือเปล่า เข้าพื้นที่ได้กี่โมง เพื่อให้ทีมคิดเผื่อตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบและสามารถเซ็ตอัพงานได้ทันในวันจริง

Photographer : Ifyousmile และ gosgrapher