สถานที่แต่งงาน บ้านเรือนไทยแสนร่มรื่น @Tewa Boutique Hotel
เราตั้งโจทย์ว่าอยากได้เป็นบ้านเรือนไทย เลยเลือกที่ Tewa Boutique Hotel (เทวา บูติค) เพราะชอบบรรยากาศที่มีความร่มรื่น สวนสวย ล้อมรอบด้วยคูน้ำ ทำให้เย็นสบายดีครับ จริงๆ ก่อนหน้านั้นก็ไปเซอร์เวย์อยู่หลายที่เหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรือนไทยที่ทำขึ้นมาใหม่ไว้จัดงานแต่งงาน แต่ที่ Tewa Boutique เป็นเรือนไทยดั้งเดิมอยู่แล้ว เลยคิดว่าที่นี่น่าจะเหมาะ มีทั้ง Indoor และ Outdoor เลยครับ
งานเราจัดแบบหมั้นเช้าเลี้ยงเที่ยงครับ จะได้สบายๆ ไม่เหนื่อยมาก พิธีหมั้นเช้าจัดที่เรือนไทยชั้นสอง ซึ่งแบ่งออกเป็นโซน โดยพิธีตักบาตรพระจะอยู่นอกชานของเรือนไทย ส่วนด้านในแบ่งเป็น 3 โซน คือพิธีสงฆ์ พิธีสวมแหวน และพิธีรดน้ำสังฃ์ครับ
พิธีเลี้ยงฉลองจะอยู่ห้องแอร์ชั้นล่างเรือนไทยครับ ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยโบราณชื่อว่า รัตน์แก้ว (Rathkeaw) อาหารอร่อยมาก ส่วนแขกเรามี 150 คน เพราะงานเราไม่ได้ใหญ่ มีแต่ญาติและคนสนิทครับ
ไม่มีคอนเซ็ปท์ แค่เน้นความเป็นกันเอง
งานเราไม่ได้มีคอนเซ็ปท์ ธีมสี หรือเดรสโค้ดของแขก เราให้อิสระเลย อาจจะเป็นเพราะความคิดเห็นส่วนตัวด้วย เราไม่อยากไปกำหนดอะไร เพราะอยากให้งานสบายๆ เป็นกันเอง แค่ทุกคนมาร่วมแสดงความยินดีกับเราก็ดีมากแล้ว จะมีแค่ชุดของเพื่อนเจ้าสาวที่เป็นธีมเดียวกัน ส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวไม่มีครับ
ชุดสุภาพเรียบร้อย
เนื่องจากปีที่แต่งงานอยู่ในช่วงในหลวงรัชกาลที่ ๙ สวรรคต เราเลยเลือกโทนสีที่สุภาพเรียบร้อย จากร้าน Bridesmaid Thailand ครับ งานเช้าเป็นชุดไทยโบราณ ส่วนชุดงานเลี้ยงฉลองของเจ้าสาว ทางร้านก็มีมาให้เลือกหลายชุด แต่รุ้ง(เจ้าสาว) ก็มาสะดุดที่ชุดนี้ เป็นชุดเพิ่งตัดเสร็จใหม่ๆ ยังไม่มีใครมาเช่าครับ
ตกแต่งเรียบง่ายไม่หวือหวา
ตรง Backdrop ทาง Tewa Boutique จัดการให้ครับ เราเป็นคนออกไอเดียว่าจะเอาแบบไหน เลยเลือกเป็นดอกไม้สีขาว จะได้ตัดกับสวนสีเขียว ส่วนบนเรือนไทยจะตกแต่งเป็นโทนสีเขียว ทางสถานที่ช่วยตกแต่งให้เช่นกัน และห้องแอร์ด้านล่างก็ตกแต่งนิดหน่อย ไม่มีอะไรมาก เพราะเราไม่อยากให้เป็นทางการมากเกินไปครับ
จะมีส่วน Outdoor ตรงแกลอรี่ที่จัดเองครับ โดยส่วนตัวเป็นคนชอบถ่ายรูปเก็บไว้ เลยเอารูปผมกับรุ้งตั้งแต่เราเริ่มคบกัน ให้แขกเขียนคำอวยพรตรงพื้นที่ว่างใต้รูป แล้วนำมาหนีบตรงลวดเป็น Backdrop ครับ เพราะคิดว่าถ้าเขียนใส่สมุดก็คงจะไม่ได้เปิดดู แต่ถ้าเป็นรูปถ่าย ก็สามารถนำมาติดที่ผนังบ้านของเราได้ ส่วนของชำร่วยเป็นต้นกุหลาบหินครับ
อาหารเราจัดเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทย ทีเด็ดคือแกงหมูชะมวงครับ โต๊ะก็จัดแยกโซน และมีป้ายชื่อระบุไว้ครับ
พิธีการสบายๆ
ในช่วงเช้าตรู่จะมีพิธีไหว้พระตักบาตร อยู่บริเวณนอกชานบนเรือนไทย ตรงนี้ค่อนข้างสวย เพราะมีสระบัวเล็กๆ เสร็จแล้วก็ยกบาตรเข้ามาด้านในถวายพระครับ
เราเริ่มแห่ขันหมากตอน 9 โมง ตรงบริเวณข้างเรือนไทย ช่วงประตูเงินประตูทอง เพื่อนเจ้าสาวมีความสามัคคีกันดีครับ (หัวเราะ) ผ่านจุดนั้นมาก็เป็นพิธีสู่ขอเจ้าสาว ช่วงนี้แม่งานของทาง Tewa Boutique ที่เป็นรันคิวจะช่วยบิ้ว จนคุณพ่อของเจ้าสาวอนุญาต เพราะรุ้งเป็นลูกคนเดียว ท่านเลยเป็นคนไปรับและมาส่งให้ผมเอง ต่อมาเป็นพิธีสวมแหวน งานเราไม่มีประธานในพิธี เพราะเราให้เกียรติพ่อกับแม่ที่สุด หลังจากนั้นเป็นพิธีรดน้ำสังฃ์ ก็จบพิธีในช่วงเช้าครับ
ส่วนงานเลี้ยงฉลองประมาณ 11 โมง เริ่มพิธีโดยการเปิดตัวบ่าวสาวตรงไปที่เวที จะมีเพื่อนมาเป็นพิธีกรให้ครับ พูดคุยกับบ่าวสาวนิดหน่อย ก็ให้พ่อแม่ของทั้งสองมากล่าวอวยพรเรา จากนั้นพิธีกรก็ถามคำถามทั่วไป ว่าเจอกันได้ยังไง และตัดเค้ก เป็นอันจบพิธีครับ
พูดถึงความประทับอย่างแรกก็เป็นสถานที่ Tewa Boutique Hotel ครับ เพราะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์เรามากที่สุด แล้วด้วยพิธีการที่ไม่เยิ่นเย้อ ทุกอย่างดำเนินการไปแบบง่ายๆ เป็นกันเองและอบอุ่น เพราะจริงๆ แล้วสาระสำคัญมันอยู่ที่หลังงานแต่งงานมากกว่า อีกความประทับใจก็คือทีมงานช่างภาพ The Pastel studio ที่คอยเก็บภาพบรรยากาศงานทั้งหมด ให้เป็นความทรงจำที่ดีครับ
แนะนำบ่าวสาว
คุยกันให้เข้าใจ : ผมมองว่าการแต่งงานคือพิธีการที่แสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้ผิดจารีตประเพณี แก่นของมันจริงๆ คือเราสองคนต้องคุยกันให้เข้าใจ ซึ่งเป็นความโชคดี ที่คุณพ่อคุณแม่ของเราทั้งสองเป็นคนง่ายๆ ไม่ได้กำหนดมาว่าต้องจัดงานแบบนั้นแบบนี้ และบางอย่างก็ไม่ได้ดีที่สุด แค่ทำให้มันเป็นความทรงจำที่ดี ให้แขกรู้สึกอบอุ่นที่มางานเราก็พอครับ
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
ช่างภาพ วิดีโอ:
The Pastel Studioสถานที่แต่งงาน:
Tewa Boutique Hotel