งานแต่งในฮอลล์ไซส์ใหญ่ ใช้พื้นที่ได้จัดเต็มทุกส่วน
งานแต่งของหยกเราเลือกสถานที่จัดงานที่ Central Plaza จังหวัดนครราชสีมาค่ะ เรียกว่าเป็นงานแรกของที่นี่เลย โดยจัดกันในฮอลล์ ส่วนนึงที่ตัดสินใจเลือก เพราะที่โคราชมีโรงแรมที่จุแขกได้เยอะจำนวนไม่มากนัก ประกอบกับแขกของหยกมีประมาณพันคน เลยเข้าไปคุยกับทางห้างเลย
ข้อดีของที่นี่คือเขามีห้องแต่งตัวให้เรา 4 ห้อง เป็นห้องบ่าวสาว ห้องคุณพ่อคุณแม่สองฝ่าย แล้วก็ห้องศิลปินค่ะ แถมมีห้องอาบน้ำให้ด้วย สะดวกมาก ติดนิดนึงคือเขาจะต่างกับโรงแรมตรงที่ไม่ได้มีเครื่องเสียงให้ พวกจอ LED ระบบไฟ แสงสีเสียงต่างๆ เราต้องนำเข้าไปเอง แต่ข้อดีคือรองรับแขกได้สบายแน่นอน
คุมโทนให้เรียบหรู แต่ดูอบอุ่น
ธีมการจัดงานของเราได้แพลนเนอร์ช่วยดูแลให้ โจทย์ของหยกคืออยากให้งานออกมาดูสะอาดตา คลีนๆ มี Reflect และไม่เอาสีชมพูค่ะ (หัวเราะ) หลักๆ คืออยากให้แขกเข้ามาแล้วรู้สึกอบอุ่น โดยหยกคิดเผื่อแขกในหลายจุด อย่างเวลาเราไปงานแต่ง ปกติเราจะต้องต่อคิวตรงโต๊ะลงทะเบียนนาน เพื่อที่จะเซ็นชื่อ ใส่ซอง ถ่ายรูปกับบ่าวสาว งานนี้หยกเลยแบ่งโซน Reception ออกเป็น 3 จุด มีพนักงานผู้หญิง 20 คน คอยต้อนรับและเชิญแขกเข้างาน ของชำร่วยที่เราเตรียมไว้ให้จะเป็นแสตมป์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้านในมีพระบรมราโชวาทจากหนังสือพระมหาชนกค่ะ
ถัดจากจุดแรกเข้าไปอีกหน่อยจะเป็นอุโมงค์ ซึ่งส่วนนี้ฮอลล์ของ Central เพดานสูงอยู่แล้ว เลยทำให้งานโปร่ง ดูไม่อึดอัด เราพยายามตกแต่งให้มีลูกเล่น เพื่อให้แขกที่ต่อคิวเข้าไปตรง Backdrop สามารถถ่ายรูปเล่นกันเพลินๆ ระหว่างรอได้ และตรงหัวมุมของอุโมงค์จะมีนักดนตรีมาสีไวโอลินให้ฟังเคล้าบรรยากาศด้วย
นอกจากนี้หยกยังเตรียมตู้คีบตุ๊กตาไว้ให้สองตู้ เผื่อสำหรับครอบครัวที่มีเด็ก และจ้างน้องๆ ที่มีฝีมือในการบิดลูกโป่งมาบิดแจกแขกในงาน เหมือนได้ win-win กันไปทุกฝ่าย คนรับก็มีความสุข ส่วนคนที่ทำงานตรงนี้ก็มีรายได้เสริมไปในตัวค่ะ
สำหรับการตกแต่ง Backdrop เราเน้นให้เรียบแต่ดูดี ใช้เฉดสีน้ำเงิน เทา และนู้ดพิ้งค์ เดรสโค้ดของเพื่อนเจ้าสาวและแขกที่มางานจะเป็นสีโทนเทา ส่วนพนักงานหยกให้ใส่เป็นสีทอง จะได้แยกส่วนกันได้ง่ายและชัดเจนค่ะ
ส่วนด้านในสุดที่เป็นเวทีและโต๊ะอาหาร เวลาเดินเข้าไปจะรู้สึกเหมือนอยู่อีกฝั่งนึงเลยค่ะ ด้านนอกไฟจะเยอะ ส่วนด้านในจะดิมแสงกว่า ได้คนละความรู้สึก หยกอยากให้คนที่มางานได้รีแล็กซ์ เหมือนเป็นงานที่ได้มาเจอเพื่อนจริงๆ ไหนๆ ก็แต่งตัวสวยงาม เดินทางกันมาไกลแล้ว ก็จะได้นั่งคุย ถ่ายรูป ทานอาหารกันชิลล์ๆ
แทนคำขอบคุณให้แขก ด้วยการใส่ใจในทุกรายละเอียด
ด้วยความที่งานหยกแขกผู้ใหญ่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งเราได้รับเกียรติจากหลายๆ ท่าน ทั้งท่านผู้ว่า ท่านนายพล สส. ฯลฯ ดังนั้นเราเลยเตรียมอาหารไว้สองแบบ คือทุกโต๊ะจะเป็นโต๊ะจีนหมด และมีซุ้มอาหารโดยรอบอีก 15 ซุ้ม งานนี้หยกเช่าโต๊ะจีนต่างหาก ปรับผ้าคลุมให้เข้ากับธีมสีงานทั้งหมด เก้าอี้ก็ใช้เก้าอี้นวมแล้วคลุมผ้า เพื่อให้เหมาะสมกับการต้อนรับแขกผู้ใหญ่ค่ะ
ส่วนของซุ้มอาหารหยกเตรียมไว้หลากหลาย ทั้งซูชิ ไก่ย่าง ส้มตำ ไอศกรีมสเวนเซ่น ข้าวเหนียวมะม่วงเจ้าดังของโคราช ที่เรียกว่าหมดตั้งแต่ชั่วโมงแรก รวมไปถึงม็อกเทลอีก 2,000 แก้วค่ะ
พิธีการสุดซึ้งกับความรักของคุณพ่อคุณแม่
พิธีการของหยกเราเริ่มจากการให้เจ้าบ่าวเดินเปิดตัวออกมาพร้อมช่อดอกไม้ ส่วนหยกจะเดินมากับคุณพ่อ เราหันไปยกมือไหว้และสวมกอดท่าน ขอบคุณที่เลี้ยงดูอย่างดีมาจนถึงทุกวันนี้ เจ้าบ่าวเองก็โค้งและไหว้คุณพ่อเช่นเดียวกันค่ะ ความรู้สึกในจังหวะนี้เหมือนคุณพ่อมาส่งต่อลูกสาวให้ไปช่วยดูแล ก็อยากให้ดูแลให้ดีเหมือนอย่างที่คุณพ่อดูแลมาค่ะ
หลังจากนั้นเราก็ขึ้นเวที กล่าวขอบคุณแขกที่สละเวลามา หลายท่านเดินทางมาไกลมาก แล้วก็จะมีการยิงเปเปอร์ชู้ท ถัดจากนั้นพิธีกรก็จะเชิญคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่ายขึ้นมา ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่แขกทุกคนจะได้รู้จักท่าน รวมถึงเราเองในฐานะที่เป็นเจ้าภาพ ก็ได้กล่าวขอบคุณแขก โดยมีประธานเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ขึ้นมากล่าวอวยพรและโทสต์ให้กับคู่บ่าวสาวค่ะ
งานนี้เราไม่มีโยนดอกไม้ แต่มีรินแชมเปญและมอบพวงมาลัยขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ จบพิธีการบนเวทีแล้วเราก็เริ่มขอบคุณแขกผู้ใหญ่ ทั้งคุณหญิงปิ่นทอง ทรงสุนทร, ท่านรองแม่ทัพ, รองผู้บัญชาการ, นายตำรวจและทหารภาคส่วนต่างๆ ค่ะ
ที่สุดของความสนุก ครบสูตรทั้งเกมส์และดนตรี
ท้ายงานคุณเพิ่ม MC ของ Toyota Motor ซึ่งเป็นพิธีกรให้เราก็เริ่มเล่นเกมส์ถามคำถาม โดยคำถามจะเน้นแบบง่ายและสนุก เช่น น้ำหนักบ่าวสาวสองคนรวมกันเท่าไหร่ ส่วนสูงบวกรวมกันได้เท่าไหร่ ค่อยๆ ใบ้ไป ใครตอบถูกก็รับรางวัลเป็นตุ๊กตาไปเลย ภายในงานเรายังมีวง Lipta มาร้องเพลงให้ในงานด้วย เอนเตอร์เทนแขกได้ดีมากๆ ทุกคนสนุกกันมากเลยค่ะ
งานนี้หยกประทับใจและขอขอบคุณแขกทุกคนที่มาร่วมงานมากๆ งานแต่งงานเป็นเหมือนแค่จุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ก็จริง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ดีมากๆ ค่ะ เหมือนกับประโยคที่บอกว่า “Today is a gift” และวันแต่งงานก็เป็น "The Greatest One" ซึ่งสุดท้ายทั้งหมดนั้นหลอมรวมกันกลายเป็นคอนเซ็ปต์งานซึ่งคือ ‘Greatest Gift’ นั่นเอง
แนะนำบ่าวสาว
เลือกทีมแพลนเนอร์ที่เป็นมืออาชีพ : อย่างงานของหยกเองเราไว้ใจให้ทีม Ladawan The Wedding Planner มาดูแลงานให้ ซึ่งพอเป็นทีมที่มีฝีมือและมีประสบการณ์ เขาก็จะสามารถดีไซน์งานออกมาได้สวยงาม ตรงกับที่คุยกับบ่าวสาวไว้ค่ะ
ช่างแต่งหน้ากับช่างภาพสำคัญมาก : ของหยกเราเลือกช่างภาพ 5 ทีม เพราะคิดว่ามุมมองจากเลนส์ของแต่ละทีมไม่เหมือนกัน ภาพที่ได้ก็จะมีสไตล์แตกต่างกันค่ะ นอกจากนี้การมีช่างภาพหลากหลายก็จะช่วยให้สามารถเก็บภาพแขกจำนวนมากของเราได้ครบถ้วน แขกเองก็ได้ภาพสวยๆ กลับไป ไม่ใช่แค่ภาพถ่ายหน้างาน แต่รวมถึงภาพ Candid ของเขา ถือเป็นอีกสิ่งนึงที่เราทำโดยนึกถึงแขก เพราะเป็นความประทับใจที่จะเก็บไปได้อีกนาน ทั้งของบ่าวสาวและของคนที่มาร่วมงานค่ะ
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
Wedding Planner:
Ladawan The Wedding Plannerช่างแต่งหน้า:
lindsay_magic