Phothalai Leisure Parkสถานที่แต่งงานดีๆ มีพร้อมเรื่องฟังก์ชั่น
ช่วงเตรียมงาน ตอนเลือกสถานที่แต่งงานจี๋ไปดูมาเยอะมากเลยค่ะ แล้วเราก็อยากเปลี่ยนแนวจากโรงแรมไปจัดแบบอื่นบ้าง เพื่อให้ไม่จำเจ สุดท้ายเลยเลือกที่ Phothalai Leisure Park (โพธาลัย เลเชอร์ ปาร์ค) เพราะใกล้บ้านทั้งสองฝ่าย แขกของเราเดินทางสะดวก ที่จอดรถก็เพียงพอ
ที่สำคัญคือเขามีทั้งโซนอีเว้นท์และโซนสปา โดยเราสามารถใช้ห้องรับรองแขก VIP สปาของเขาได้ มีทั้งห้องหลักสำหรับใช้แต่งตัว และห้องที่เชื่อมกันสำหรับญาติๆ หรือเพื่อนๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม และในวันงานจะมีแค่งานของเรางานเดียว ไม่ปะปนกับใคร มีความเป็นส่วนตัวค่ะ
พิธีหมั้นสวยตรึงใจในทุกโมเม้นท์
พิธีการวันงานของเราเป็นแบบไทยล้วน กึ่งฤกษ์สะดวก มีบางส่วนที่ยังคงฤกษ์ดีไว้อยู่ เช่น ช่วงแห่ขันหมากหรือสวมแหวน และเราตั้งใจเริ่มกันเร็วหน่อย เพื่อให้งานทั้งหมดสามารถจบได้ภายในครึ่งเช้า โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมดสี่ส่วน
แรกสุดคือพิธีสงฆ์ เสร็จแล้วก็เตรียมตัวออกไปแห่ขันหมาก ตรงนี้ไฮไลท์จะอยู่ที่ความสนุก เจ้าบ่าวโดนด่านพีคๆ หลายด่าน โชคดีที่มีทีมเพื่อนๆ มาช่วย (ซึ่งแต่ละคนก็ซนมากกก ตามประสาผู้ชายเวลาอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม) บวกกับพื้นที่โพธาลัยเองก็เป็นสนามหญ้าด้วย เล่นอะไรได้เยอะมาก หลังจากนั้นก็จะเป็นช่วงเจ้าบ่าวมารับเจ้าสาว จี๋จะนั่งรออยู่ที่ศาลา ตอบช็อตมอบดอกไม้จะมีม่านน้ำตก เป็นโมเม้นท์ดีๆ อีกช่วงนึงเลย ได้ภาพสวยงาม และแขกที่อยู่บริเวณตรงข้ามกับศาลาก็จะมองเห็นภาพนี้ด้วยเช่นกันค่ะ
ถัดจากนั้นก็เข้าสู่พิธีการตามปกติ มีแม่งานช่วยลำดับงานให้ ไล่ตั้งแต่พิธีสู่ขอ หมั้นหมาย มอบของรับไหว้ และรดน้ำสังข์ ตบท้ายด้วยการทานอาหาร และนั่งเรือของทางโพธาลัย เพื่อไปขึ้นตรงท่าหน้าห้องที่ใช้ส่งตัวค่ะ
ตกแต่งแนวเรียบโก้
ส่วนงานเย็นเราอยากให้บรรยากาศกันเองอบอุ่น แขกส่วนใหญ่จะชื่นชอบการตกแต่งและสถานที่ ห้องเหมือนจะใหญ่ก็จริง แต่พอใส่พร็อพเข้าไปแล้วก็ดูกำลังดี ด้านนอกจะมีจุดพักระหว่างห้องบอลรูมกับห้องของหวาน แขกสามารถใช้บริเวณนั้นในการถ่ายรูปเล่นได้
คอนเซ็ปต์ช่วงเย็นของเราจะเน้นเรียบโก้ ฉากใช้เป็นสีขาวและเงิน เพราะเดรสโค้ดเป็นสีน้ำเงินกับพิงค์โกลด์แล้ว จะได้ขับสีกันให้ยิ่งดูโดดเด่นค่ะ อีกจุดนึงที่แขกชอบคือบริเวณน้ำพุ หน้าลาน LCD เราเอารูปของเราใส่โลโก้แล้วเอาขึ้นจอ เพื่อนๆ ก็ไปถ่ายรูปกับจอด้วย ส่วนตรงมุมลงทะเบียน ของชำร่วยเป็นช็อกโกแลตนัทของ Melt me แขกเพื่อนคุณแม่ก็ชอบกันมากเลย
งานกระชับ ประทับใจแขก
พิธีการเรากระชับมาก ไม่อยากให้ยืดเยื้อ เริ่มจากเพื่อนเจ้าบ่าวไปตั้งขบวนอยู่ด้านในห้องก่อน ส่วนเพื่อนเจ้าสาวจะอยู่ด้านนอก พอถึงเวลาก็เพลงขึ้น แต่เลือกเพลงใดเพลงหนึ่งไม่ได้ เลยใส่เข้าไปสองเพลงเลยค่ะ (หัวเราะ) ตอนเปิดตัวเจ้าบ่าวจะเป็นเพลงภาษาญี่ปุ่น ส่วนของจี๋เป็นแนวซึ้งๆ แบบคลาสสิก
แล้วเจ้าสาวก็จะเดินควงแขนเข้าไปกับคุณพ่อ มีดรายไอซ์ เป็นซีนที่ซึ้งและประทับใจมาก หันไปทางไหนก็มีแต่คนที่รักเรา พอขึ้นเวทีเราก็เชิญประธานหนึ่งท่านซึ่งเป็นเถ้าแก่ของฝ่ายชายในช่วงเช้า มีสวมพวงมาลัย ตอบคำถาม กล่าวถึงคุณพ่อคุณแม่ ตัดเค้ก แล้วก็โยนช่อดอกไม้ที่ด้านหน้าค่ะ
สิ่งที่ทำให้จี๋ประทับใจที่สุดคือฟีดแบคที่ได้รับกลับมาจากแขก ว่างานของเราราบรื่น เรียบร้อย ได้ฟีลอบอุ่น มีการพูดกันปากต่อปากในวงสังคมคุณพ่อคุณแม่ ก็เรียกว่าที่เตรียมงานมาเป็นปี หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
เตรียมงานวันสำคัญให้พร้อมที่สุด : ของจี๋เรามีทั้งหาข้อมูลจากในเน็ต และสอบถามจากพี่ๆ ที่มีประสบการณ์มาก่อนเลยค่ะ นอกจากนี้ยังใช้เช็คลิสต์ว่าในแต่ละเดือนต้องทำอะไรบ้าง แล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับคู่เราด้วย
พูดคุยและกระจายงาน : ทั้งกับคู่ของเราและทีมงานค่ะ พยายามแบ่งงานให้ชัดเจน กระจายงานให้คนที่เราไว้ใจมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแม่งานหรือเพื่อนๆ และอย่าลืมให้คนเหล่านี้ได้คุยกันด้วย เพื่อให้เห็นภาพรวมออกมาตรงกัน
เหลือดีกว่าขาด : ยิ่งการจัดค็อกเทล แล้วเรากังวลเรื่องอาหารจะไม่เพียงพอต่อแขก ต้องมีคนหนึ่งคนที่คอยเช็คเลยค่ะ ว่าอาหารพร่องไปมากไหม แขกมาแล้วเท่าไหร่ เกินกว่าที่เราคาดไว้รึเปล่า แล้วต้องสามารถตัดสินใจแทนเราได้ โดยมีการคุยกันไว้ในเบื้องต้นว่าถ้าอาหารไม่พอจะเอาอะไรออกมาเพิ่ม และอยู่ในเรทราคาที่บ่าวสาวรับได้