Benedict Studioสถานที่แต่งงานบรรยากาศดี มีฟังก์ชั่นเก๋ๆ
เราเลือกสถานที่แต่งงานที่ Benedict Studio (เบเนดิกต์ สตูดิโอ) เพราะตรงกับความชอบของบ่าวสาว ทั้งเรื่องสไตล์การตกแต่งที่ดูเป็นวังแบบวินเทจ มีความแปลกใหม่ แตกต่างจากการจัดงานที่โรงแรม แถมยังไม่ต้องเสียค่าตกแต่งเยอะ เพราะสถานที่สวยมากอยู่แล้ว ตอบโจทย์เราสองคนที่ไม่ได้ชอบดอกไม้ และอยากเปลี่ยนไปตกแต่งแนวสถาปัตยกรรมแทนครับ
เรื่องฟังก์ชั่นของห้องที่นี่ก็เก๋ เป็นแบบเล็กๆ แยกกันไป ได้อารมณ์คล้ายบ้าน เวลาแขกมาเหมือนได้เล่นเขาวงกต เพราะแปลนงานจะซับซ้อนนิดนึง
ชูโรงสถานที่สวย ด้วยพร็อพแปลกตาโดดเด่น
ธีมสีเราเลือกมาให้ล้อไปกับงานเช้า คือสีขาวเทาเงิน บอกแพลนเนอร์ไปว่าให้ใช้พร็อพเก๋ๆ มาวางเสริมสถาปัตยกรรมของ Benedict ให้ยิ่งเด่น อย่างถ้าเป็นแบ็คดรอปของงานอื่นอาจจะต้องสร้างขึ้นมาใหม่ แต่ของเราใช้โซนกำแพงของทางสถานที่เลย แล้วประดับโลโก้ วางเฟอร์นิเจอร์ลงไป
เวลาถ่ายรูปเราจะไม่ยืนกันเป็นแพทเทิร์น เพราะมีจัดเก้าอี้ โซฟา จัดโต๊ะไว้ให้ ภาพที่ได้ก็จะมีหลากหลายอิริยาบถมาก
สำหรับโซนแกลอรี่ เราไปซื้อกรอบภาพสีเทาจากอิเกีย แล้วอัดรูปพรีเวดดิ้งลงไป ออกมาดูดีเลยครับ ซึ่งภาพทั้งหมดก็จะมีความแปลกตาด้วย เช่น ใส่หน้ากากถ่ายรูป นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้ตีลังกาตกแต่ง ได้ภาพรวมเหมือนงานศิลปะ
ไฮไลท์อีกอย่างจะอยู่ที่เวสป้า ซึ่งเราได้รับเป็นของขวัญวันแต่งงานจากเพื่อนคุณพ่อ ตอนงานเช้าใช้เป็นมุมถ่ายรูป แล้วทำให้เชื่อมโยงกับงานเย็น เหมือนอารมณ์เสร็จจากงานเช้าที่นึงแล้วขี่เวสป้ามาจอดอยู่ตรงแกลอรี่งานเย็น และทำเป็นแบบมีลูกโป่งประดับ เขียนสื่อความหมายว่าบ่าวสาวมาถึงแล้วด้วยครับ
รวมมิตรทุกความอร่อย
อาหารงานเลี้ยงเราเลือกใช้ค็อกเทลที่เป็นฟิวชั่นฟู้ดดูทันสมัย ส่วนซุ้มเป็นของเพื่อนๆ มีทั้งเย็นตาโฟ อ.มัลลิการ์, ข้าวหน้าหมูชาชูของ Gyudon Express, ไก่ย่างหนังกรอบป้าแก้ว, ข้าวหมูกรอบนายไซ และมีบาร์ค็อกเทลจากร้าน The Third Pig ที่เราเป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วย โดยให้บาร์เทนเดอร์ที่ร้านออกแบบเครื่องดื่มซิกเนเจอร์สำหรับงานแต่งโดยเฉพาะ อย่างผมชื่ออาร์ม เป็นทหาร เครื่องดื่มก็จะเป็นค็อกเทลผสมเหล้า สีเขียวออกมิ้นต์ๆ ส่วนของเจ้าสาวชื่อน้ำผึ้ง ก็จะเป็นม็อกเทลน้ำเสาวรสผสมน้ำผึ้งครับ
เก๋สุดด้วยพิธีการที่สนุกตั้งแต่ต้นจนจบ
แรกสุดเราเริ่มจากการเปิดพรีเซนเทชั่นกันก่อน ใช้วิดีโองานเช้า ช็อตขอแต่งงาน และพรีเวดดิ้งมามิกซ์กัน แล้วเจ้าบ่าวเป็นสารวัตรทหาร งานนี้เราเลยเปิดตัวด้วยการลอดซุ้มกระบองไฟสีๆ เปิดเพลง Game of thrones ให้เข้ากับสถานที่ ตรงกับความชอบเจ้าบ่าวไปในตัว
ส่วนพิธีกรลงมาจากชั้น 2 ซึ่งถือเป็นการใช้พื้นที่ตรงเธียร์เตอร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด หลังจากนั้นพิธีการก็รันไปตามปกติ บ่าวสาวขึ้นเวที มีสัมภาษณ์นิดหน่อย เชิญประธานขึ้นมา แต่ไม่มีคล้องมาลัย ไม่มีไชโย แล้วก็ลอดซุ้มกระบี่ แต่ปกติเขาจะลอดไปตัดเค้ก งานเราก็เปลี่ยนให้สบายๆ ด้วยการรินแชมเปญแทนครับ
ตบท้ายด้วยการโยนดอกไม้ที่ปกติเจ้าสาวจะโยนให้เพื่อนโสด แต่ของเราไม่อยากบังคับว่าต้องเฉพาะคนโสด เลยเปลี่ยนเป็นใครก็ได้ แล้วเราจะโยนเสื้อยืดที่เราทำเอง เป็นเสื้อยืดสีเขียว เขียนโควตสนุกๆ ว่า “ดีแล้วทูนหัว มีผัวเป็นทหาร” กับโยนเหล้าเพื่อดึงดูดเพื่อนผู้ชายให้ออกมาเล่นอีกสักนิดนึงครับ
งานนี้นอกจากตัวสถานที่ที่เราประทับใจแล้ว การตกแต่งของทีมแพลนเนอร์ก็ทำออกมาได้โดนใจมาก ไม่เป็นทางการมากเกินไป แขกชมว่าสวยงาม จบงานมาดูเฟซบุ๊คก็เห็นทุกคนสนุกกับการถ่ายรูปที่งานของเรา ตามที่เราได้ตั้งใจ แค่นี้บ่าวสาวก็มีความสุขที่สุดแล้วครับ
แนะนำบ่าวสาว
ถามตัวเองก่อนว่าเราจัดงานเพื่อใคร : เราอาจมีหลายปัจจัยที่ทำให้ทะเลาะกันในช่วงเตรียมงานครับ ทั้งความคิดส่วนตัว ครอบครัว หลายๆ อย่าง แต่ถ้าการจัดงานทำเพื่อแสดงความรักของบ่าวสาว เราก็ไม่ควรทะเลาะกัน บางอย่างเจอกันครึ่งทางได้ก็ยิ่งดีเลย